“รถถัง-ขีปนาวุธปลอมสำหรับล่อเป้า” ยอดขายพุ่ง จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

Loading

  บริษัทผู้ผลิตยุทโธปกรณ์ปลอมเผย ช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้รถถังปลอม-ระบบขีปนาวุธปลอมสำหรับล่อเป้า ขายดีขึ้นมาก   ในการทำสงคราม การสูญเสียรถถัง ระบบยิงขีปนาวุธ HIMARS หรือเครื่องบินรบที่มีมูลค่าสูง ถือเป็นความสูญเสียระดับใหญ่หลวงของกองทัพนั้น ๆ ในขณะเดียวกัน ยุทโธปกรณ์มูลค่าสูงเหล่านี้ก็มักตกเป็นเป้าการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม   ด้วยเหตุนี้ในการศึกสงครามจึงมักมีกลยุทธ์ใช้ “ตัวล่อ” ลวงให้อีกฝ่ายโจมตีเป้าหมายปลอม ทั้งเพื่อจุดประสงค์หลอกให้อีกฝ่ายเสียกระสุนหรือขีปนาวุธฟรี ๆ หรือเพื่อให้อีกฝ่ายโฟกัสด้านหนึ่งแล้วตลบหลังก็มี     และในช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว หนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ “ยอดขายรถถังปลอม-เครื่องยิงขีปนาวุธปลอม” ของบริษัทผลิตยุทโธปกรณ์ปลอมเติบโตขึ้นอย่างมาก   หนึ่งในนั้นคือบริษัท Inflactech Decoy ผู้ผลิตยุทโธปกรณ์กองทัพปลอมในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งรายงานอัตราการผลิตที่เพิ่มขึ้น   วอยเจ็ก เฟรสเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Inflactech Decoy เล่าว่า บริษัทมีสินค้าเป็นยุทโธปกรณ์ปลอมมากว่า 30 รายการ ตั้งแต่รถถัง ไปจนถึงสินค้าใหม่ล่าสุดอย่างระบบยิงขีปนาวุธ HIMARS   ลูกค้าของบริษัทมีอยู่ทั่วโลก แต่ไม่มีคำยืนยันชัดเจนว่า ยูเครนเป็นหนึ่งในลูกค้าของบริษัทหรือไม่ กระนั้นเฟรสเซอร์ก็บอกว่า เขาคาดหวังว่าสินค้าของบริษัทจะไปถึงยูเครนได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง…

โรงพยาบาลบาร์เซโลนาถูกโจมตีจนระบบล่ม ผู้ป่วยต้องย้ายไปรักษาที่อื่น

Loading

    เจ้าหน้าที่สเปนเผยว่ามีการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนาหลายแห่งหยุดชะงัก   ส่งผลให้การผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วน 150 กรณี และการตรวจสุขภาพผู้ป่วย 3,000 รายต้องถูกยกเลิก ระบบต่าง ๆ ของโรงพยาบาลปิดตัวลง เช่น ห้องปฏิบัติการ ห้องฉุกเฉิน ร้านขายยา และคลินิก เป็นต้น   อันโตนิ คาสเตลส์ (Antoni Castells) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ระบุว่าไม่สามารถประเมินได้ว่าระบบจะกลับมาทำงานเป็นปกติเมื่อใด โรงพยาบาลต้องนำแผนดำรงความต่อเนื่องทางธุรกิจมาใช้ก่อน   โดยมีการกลับไปใช้กระดาษในการทำงาน และย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลอื่นแล้ว   สำนักข่าว EFE ของรัฐบาลสเปนรายงานด้วยว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถใช้งานข้อมูลผู้ป่วยและระบบการสื่อสารได้   ด้านรัฐบาลภูมิภาคกาตาลุญญาเผยว่าหน่วยความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของภูมิภาคกำลังเร่งมือกู้ระบบให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิมอยู่ โดยชี้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ชื่อ Ransom House   เซกิ มาร์เซน (Segi Marcén) รัฐมนตรีด้านโทรคมนาคมของกาตาลุญญาระบุว่าแฮ็กเกอร์ยังไม่ได้เรียกเงินค่าไถ่ แต่ถึงอย่างไรทางรัฐบาลก็จะไม่จ่ายเงินแน่นอน         ที่มา  NTD      …

ข่าวกรองใหม่เผย ฝ่ายสนับสนุนยูเครนอาจมีเอี่ยววินาศกรรมท่อส่งก๊าซ

Loading

    มีข้อมูลใหม่ซึ่งบ่งชี้ว่า ฝ่ายสนับสนุนยูเครนอาจมีส่วนเกี่ยวพันในการก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว   หากใครยังจำกันได้ เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย. 2022 เกิดเหตุ “ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม (Nord Stream)” ซึ่งเป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติหลักจากรัสเซียไปยุโรป เกิดการรั่วไหลโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยข้อมูลในเวลาต่อมาพบร่องรอยวัตถุระเบิดในบริเวณที่ท่อส่งเกิดความเสียหาย และมีข้อยืนยันว่า นี่เป็นการ “ก่อวินาศกรรม”   ล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของยุโรปและสหรัฐฯ ได้ข้อมูลใหม่ซึ่งบ่งชี้ว่า “ฝ่ายสนับสนุนยูเครนอาจมีส่วนเกี่ยวพันในการก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม”     หน่วยข่าวกรองเยอรมันเชื่อว่า ผู้ที่โจมตีท่อส่งก๊าซมีทั้งสิ้น 6 คน โดยพวกเขาใช้เรือยอร์ชที่ว่าจ้างจากบริษัทที่จดทะเบียนในโปแลนด์ และมีพลเมืองยูเครน 2 คนเป็นเจ้าของ   พวกเขาไม่พบหลักฐานใด ๆ ว่าใครเป็นผู้สั่งการ โดยบุคคล 6 คนที่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการนำวัตถุระเบิดไปติดตั้งที่จุดเกิดเหตุนี้ประกอบด้วย กัปตันเรือ นักประดาน้ำ 2 คน ผู้ช่วยนักดำน้ำ 2 คน และแพทย์อีก 1 คน และคาดว่าทั้งหกคนใช้หนังสือเดินทางปลอม  …

ม็อบจอร์เจียต้านกม.ปะทะตำรวจ

Loading

    ตำรวจจอร์เจียยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการชุมนุมของประชาชนหลายหมื่นคนที่รวมตัวกันบนท้องถนนในกรุงทบิลิซี เพื่อต่อต้านร่างกฎหมาย “ตัวแทนต่างชาติ” ที่พวกเขาเห็นว่าเป็นกฎหมายเผด็จการและคล้ายกับกฎหมายของรัสเซีย ขณะที่ผู้ชุมนุมบางคนขว้างก้อนหินและระเบิดขวดเข้าใส่ตำรวจ   สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์อ้างรายงานการแถลงของทางการจอร์เจียเมื่อวันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 ว่า จากเหตุผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนต่อต้านร่างกฎหมาย “ตัวแทนต่างชาติ” ชุมนุมบนท้องถนนในกรุงทบิลิซีเมื่อเย็นวันอังคารที่ผ่านมา และเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจปราบจลาจลหลายชั่วโมง ผู้ชุมนุมโดนจับกุมตัวไป 66 คน และตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายสิบนาย   สำนักข่าวหลายสำนักของรัสเซียรายงานถ้อยแถลงของกระทรวงมหาดไทยจอร์เจียว่า เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมตัวผู้ชุมนุมไป 66 คน จากความผิดก่อเหตุอันธพาลลหุโทษและไม่เชื่อฟังตำรวจ และตำรวจ 50 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะกับผู้ชุมนุมในกรุงทบิลิซีเมื่อคืนวันอังคาร   ชาวจอร์เจียหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมบนท้องถนนเมื่อเย็นวันอังคาร เพื่อต่อต้านร่างกฎหมายตัวแทนต่างชาติ ที่บังคับให้สื่อมวลชนหรือหน่วยงานเอ็นจีโอที่ได้รับทุนสนับสนุนมากกว่าร้อยละ 20 จากต่างประเทศ จะต้องจดทะเบียนเป็น “ตัวแทนต่างชาติ” มิเช่นนั้นจะต้องโดนปรับเงินจำนวนมาก   ผู้อยู่ในการชุมนุมในกรุงทบิลิซีเมื่อคืนวันอังคาร เผยว่า เห็นตำรวจที่มีโล่ปราบจลาจลจับกุมตัวประชาชนไปหลายคนบนถนนรัสตาเวลี ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่ตัดผ่านย่านใจกลางเมืองหลวงของจอร์เจีย   หลายชั่วโมงก่อนหน้านั้น ตำรวจปะทะกับผู้ชุมนุม โดยยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมบางคนขว้างระเบิดขวดและก้อนหินเข้าใส่ตำรวจ จากนั้นประชาชนมารวมตัวกันที่ด้านนอกอาคารรัฐสภา   ชาวจอร์เจียรวมตัวกันประท้วงหลังจากก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน สมาชิกสภานิติบัญญัติโหวตให้การสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ในเบื้องต้น ซึ่งนักวิจารณ์ระบุว่าเป็นกฎหมายที่เป็นเผด็จการ และอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามของประเทศในการยื่นขอเข้าร่วมสหภาพยุโรป…

“น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือ” ขู่สหรัฐ เปลี่ยนแปซิฟิกเป็น “สนามยิงขีปนาวุธ”

Loading

  “คิม โยจอง” น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือประกาศกร้าว เตือนหากสหรัฐ ยิงขีปนาวุธโสมแดงถือว่าประกาศสงคราม และเกาหลีเหนือก็พร้อมเปลี่ยนมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นสนามยิงขีปนาวุธ   สำนักข่าว KCNA ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ว่า นางคิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเตือนว่า หากพบความพยายามใด ๆ ก็ตามที่ยิงขีปนาวุธสำหรับใช้ทดสอบของเกาหลีเหนือ จะถูกมองว่าเป็นการประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือทันที พร้อมกล่าวโทษการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น   นางคิม โยจอง ออกแถลงการณ์ว่า หากสหรัฐดำเนินการทางทหารเพื่อต่อต้านการทดสอบขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือจะถือว่าเป็นการประกาศสงคราม นางคิมยังกล่าวเป็นนัยอีกว่าเกาหลีเหนือสามารถยิงขีปนาวุธลงมหาสมุทรแปซิฟิกเพิ่มมากขึ้นอีก พร้อมระบุว่า “มหาสมุทรแปซิฟิกไม่ได้ตกอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐหรือญี่ปุ่น”   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่ผ่านมานั้นสหรัฐและชาติพันธมิตรไม่เคยยิงขีปนาวุธนำวิถีของเกาหลีเหนือ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้น หลังจากที่เกาหลีเหนือส่งสัญญาณว่าจะยิงขีปนาวุธข้ามเขตแดนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีก   ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า หากเกาหลีเหนือปฏิบัติตามคำขู่ในการเปลี่ยนมหาสมุทรแปซิฟิกให้กลายเป็น “สนามยิงขีปนาวุธ” ก็จะส่งผลให้เกาหลีเหนือซึ่งเป็นประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวและเป็นรัฐที่ติดอาวุธนิวเคลียร์นั้น สามารถสร้างความก้าวหน้าทางเทคนิค นอกเหนือจากการส่งสัญญาณข่มขู่ทางทหาร   ขณะที่ฝ่ายข่าวต่างประเทศของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์กล่าวหาสหรัฐว่าทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง หลังจากที่ซ้อมรบร่วมทางอากาศด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) และวางแผนซ้อมรบภาคสนามร่วมกับเกาหลีใต้   สหรัฐได้ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52…

เจ้ากระทรวงกลาโหมอังกฤษวิตก “ปักกิ่ง” จะหาโอกาสแทรกซึมห่วงโซ่อุปทานการทหารของตัวเอง

Loading

    เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษแถลงยืนยันห่วงโซ่อุปทานยุทโธปกรณ์ทางการทหารอังกฤษตกอยู่ในความเสี่ยง มีโอกาสโดน “ปักกิ่ง” เข้าแทรกซึม หลังเดือนที่ผ่านมาพบฐานทัพอังกฤษจำนวนมากใช้กล้อง CCTV จีนคุกคามความมั่นคงประเทศ ไม่กี่วันหลังสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีทางพันธุกรรมจีน BGI ชี้ใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยรัฐบาลปักกิ่งสอดแนมชนกลุ่มน้อยในจีน   เดลีเทเลกราฟ สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (6 มี.ค.) ว่า รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ อเล็กซ์ ชอล์ก (Alex Chalk) เปิดเผยว่า ตัวเองรู้สึกวิตกเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเข้าแทรกทางห่วงโซอุปทานทางการทหารของอังกฤษจากจีน   ชอล์กกล่าวอย่างวิตกว่า อังกฤษยังคงพยายามยึดติดกับตำแหน่งของตัวเองในความเป็นผู้ส่งออกด้านการทหารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก พร้อมกับชี้ว่า รัฐบาลลอนดอนกำลังทำงานร่วมกับบริษัทป้องกันประเทศต่าง ๆ ในอังกฤษ เป็นต้นว่า Rolls Royce และ BAE Systems เพื่อทำให้มั่นใจว่า ระบบห่วงโซอุปทาน (Supply Chain) และโรงงานการผลิตนั้นปลอดจากการสอดแนมจีน   เขากล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษมองเรื่องนี้อย่างร้ายแรงมากต่อภัยจากอุปกรณ์ของจีน เป็นต้นว่า อุปกรณ์กล้อง CCTV…