แฮ็กเกอร์นำข้อมูลพนักงานร้าน IKEA ในตะวันออกกลางไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์

Loading

  แก๊งมัลแวร์เรียกค่าไถ่ Vice Society เผยแพร่ข้อมูลทางธุรกิจที่ขโมยมาจาก IKEA สาขาในโมร็อกโก คูเวต และจอร์แดน ไว้บนเว็บไซต์ของแก๊ง ขณะที่ทาง IKEA ออกมายืนยันแล้วว่าถูกขโมยไปจริง   ชื่อไฟล์และโฟลเดอร์สะท้อนให้เห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน รวมอยู่ในข้อมูลที่หลุดออกมาด้วย   IKEA ระบุว่ากำลังร่วมมือกับหน่วยงานและหุ้นส่วนด้านไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนกรณีการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้น แต่ให้ข้อมูลด้วยว่าร้าน IKEA สาขาในโมร็อกโกและคูเวตดำเนินการโดยบริษัทแฟรนไชส์ในคูเวตเป็นอิสระจากร้าน IKEA อื่น ๆ   Vice Society เริ่มออกอาละวาดมาตั้งแต่ปลายปี 2020 เป็นต้นมา ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่ชื่อว่า HelloKitty เนื่องจากมีการตั้งชื่อไฟล์และกลยุทธ์การโจมตีที่คล้ายคลึงกัน   ที่ผ่านมา Vice Society เน้นโจมตีองค์กรในวงการการศึกษา โดยเคยปล่อยข้อมูลที่ขโมยมาจากเขตการศึกษาลอสแอนเจลิส (LAUSD) เมื่อเดือนกันยายน 2021 ในขณะที่องค์กรค้าปลีกคิดเป็นเพียงร้อยละ 7 ของผู้เสียหายของ Vice Society เท่านั้น   Darkfeed เครื่องมือเฝ้าระวังดีปเว็บเผยว่าบนเว็บไซต์ของ Vice Society…

รถไฟบรรทุกยางพาราตกราง 10 โบกี้รวดที่สะเดา สงขลา

Loading

  ระทึก! รถไฟขนส่งสินค้าบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ยาวเหยียดตกรางเสียหาย 10 โบกี้ บนเส้นทางคลองแงะ-สะเดา ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุบอกได้ยินเสียงระเบิดก่อนตกราง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงยังไม่ยืนยัน รอตรวจสอบอย่างละเอียด   เมื่อเวลา 12.50 น.วันเสาร์ที่ 3 ธ.ค.65 มีรายงานจากสารวัตรแขวงรถจักรหาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุรถไฟขบวนขนส่งสินค้า ขบวนที่ ข.707 หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ โดยมี นายเกรียงศักดิ์ เพ็ชรงาม เป็นพนักงานขับรถ และมี นายสรายุทธ หนูชู เป็นช่างเครื่อง ควบคุมรถพ่วงในขบวน 15 โบกี้บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งบรรทุกยางพารา ได้เกิดตกรางได้รับความเสียหายบริเวณ ระหว่างทางสถานีคลองแงะ–ปาดังเบซาร์ บริเวณเสาโทรเลขที่ 955/4-8 บ้านท่าโพธิ์ออก อ.สะเดา จ.สงขลา   ในที่เกิดเหตุพบรถโบกี้บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ พ่วงคันที่ 1- 10 ตกรางจำนวน 10 โบกี้ ทำให้โบกี้บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังพบรางรถไฟบริเวณจุดเกิดเหตุ ผิดรูปคดงอจากปกติ     ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ…

ยูเครนเผย รัสเซียเริ่มโจมตีด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ แบบไม่ติดหัวรบระเบิด

Loading

  กองทัพยูเครนเผย รัสเซียเริ่มใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์โจมตีแบบไม่ติดหัวรบ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า มิสไซล์ในคลังแสงของรัสเซียอาจใกล้หมดหลังระดมโจมตีอย่างหนัก   สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า นายมีโคลา ดานีลีอุค เจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ธ.ค. 2565 ว่า รัสเซียเริ่มใช้ขีปนาวุธร่อน X-55 หรือที่นาโตเรียกว่า AS-15 ซึ่งมีขีดความสามารถในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ใส่พวกเขาแล้ว แต่ไม่ติดตั้งหัวรบระเบิด   ในงานแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ยังจัดแสดงเศษชิ้นส่วนที่พวกเขาบอกว่ามาจากขีปนาวุธ X-55 ที่พบในแคว้นลวิฟ และ คเมลนิตสกี ทางตะวันตกของประเทศ โดยยืนยันว่า พวกเขาไม่พบระดับกัมมันภาพรังสีที่ผิดปกติจากชิ้นส่วนดังกล่าวแต่อย่างใด ทำให้เชื่อว่า กองทัพรัสเซียใช้หัวรบด้านที่ไม่ระเบิดแทน เพื่อตัดกำลังระบบป้องกันทางอาการของยูเครน   นายดานีลีอุคย้ำว่า แม้ขีปนาวุธจะติดหัวรบที่ไม่ระเบิด มันก็ยังมีความอันตรายอย่างมีนัยสำคัญ เพราะพลังงานจลน์ที่มันปล่อยออกมาและเชื้อเพลิงที่หลงเหลือ โดยมีหลักฐานปรากฏให้เป็นที่การโจมตีล่าสุดของรัสเซีย หลังจากมิสไซล์ X-55 ตกใส่อาคารที่อยู่อาศัย   ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในกองทัพยูเครนคาดว่า รัสเซียอาจเหลือขีปนาวุธในคลังแสงน้อยมากแล้ว หลังจากระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยูเครนหลายระลอกตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ต้องหันมาใช้จรวดด้านในการโจมตี ซึ่งยังสามารถสร้างความเสียหายได้มาก     ———————————————————————————————————————————- ที่มา…

“จีน” ใช้โปรแกรมสแกนใบหน้า จดจำ-ตามรอยผู้ประท้วงต้านมาตรการโควิด

Loading

  “ตำรวจ” จีนติดตั้งเครื่องมือสอดแนม ด้วยการใช้โปรแกรมสแกนใบหน้า เพื่อจดจำและติดตามรอยกลุ่มผู้ประท้วง หวังควบคุมความไม่สงบทั่วประเทศ   ความไม่พอใจต่อมาตรการควบคุมโควิด-19 ปะทุขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้ยุติมาตรการล็อกดาวน์ และให้เสรีภาพทางการเมืองแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน   หวัง เซิ่งเซิง นักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่า ปักกิ่งประกาศปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม โดยส่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงลงพื้นที่เข้าจัดการ อีกทั้งยังใช้ซอฟต์แวร์แกะรอยที่ซ้อนตัวของผู้ประท้วงอีกด้วย   “ในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว ดูเหมือนเจ้าหน้าตำรวจได้ใช้อาวุธไฮเทคเพื่อจัดการผู้ชุมนุม” นักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวกับเอเอฟพีและเสริมว่า ต่างจากเมืองอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งภาพในกล้องวงจรปิดที่จดจำใบหน้า   ตำรวจปักกิ่งอาจใช้ตำแหน่งทางโทรศัพท์มือถือที่บันทึกจากการแสกนใบหน้าหรือโคดข้อมูลทางสุขภาพช่วงโควิด-19 เพื่อติดตามรอยหลังกลับจากการประท้วงแล้ว   อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้โทรศัพท์หลายต่อหลายคนแปลกใจที่ได้รับสายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มอบตัว ทั้งที่พวกเขาเดินผ่านกลุ่มผู้ประท้วงเท่านั้น       ———————————————————————————————————————————- ที่มา :                               …

ข้อมูลผู้อพยพ 6,000 รายหลุดบนเว็บไซต์หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ

Loading

  สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐอเมริกา (ICE) เผยแพร่ชื่อ สถานะการอพยพ วันเกิด สัญชาติ และสถานที่ตั้งของศูนย์กักของผู้อพยพมากกว่า 6,000 รายโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างการอัปเดตเว็บไซต์ ผู้อพยพเหล่านี้อ้างว่าหนีจากการทรมานและการดำเนินคดีจากประเทศต้นทาง   กลุ่มส่งเสริมสิทธิผู้อพยพ Human Rights First เป็นผู้แจ้งเตือน ICE ต่อกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้ทางหน่วยงานรีบลบข้อมูลออกจากเว็บไซต์ทันที หลังจากที่ข้อมูลอยู่บนหน้าเว็บไซต์เป็นเวลา 5 ชั่วโมง   ICE อยู่ระหว่างการสืบสวนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและจะมีการแจ้งผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบ โดยให้คำมั่นว่าจะไม่ส่งผู้อพยพที่อยู่ในรายชื่อกลับประเทศจนกว่าจะพิสูจน์ทราบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อบุคคลเหล่านี้ได้ รวมถึงจะแจ้งไปยังประชาชนที่ดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ให้ลบออกไปด้วย   โฆษกของ ICE ชี้ว่าการเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจในครั้งนี้ถือว่าละเมิดนโยบายของหน่วยงาน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ (DHS) ชี้ว่าการหลุดของข้อมูลเป็นเรื่องที่น่าอายและอันตรายต่อเจ้าของข้อมูล   ไฮดี อัลต์แมน (Heidi Altman) ผู้อำนวยการนโยบายแห่ง National Immigrant Justice Center องค์กรส่งเสริมสิทธิผู้อพยพอีกแห่งให้ความเห็นว่าข้อมูลที่หลุดออกมาจะทำให้ชีวิตของผู้อพยพตกอยู่ในอันตราย   ด้าน เบลน บุกกี (Blaine Bookey) ผู้อำนวยการกฎหมายจากศูนย์เพศสภาวะและผู้ลี้ภัยศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยยูซี เฮสติงส์…

แฮ็กเกอร์ใช้ ‘Invisible Challenge’ บน TikTok หลอกผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดมัลแวร์

Loading

  Checkmarx บริษัทด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เผยว่าอาชญากรหันมาใช้กิจกรรม Challenge หลอกผู้ใช้ TikTok ให้ดาวน์โหลดมัลแวร์   TikTok Challenge ที่ว่านี้คือ Invisible Challenge หรือ ‘การท้าล่องหน’ เป็นกิจกรรมที่ท้าผู้ใช้ TikTok ถ่ายตัวเองแบบเปลือยโดยใช้ฟิลเตอร์ที่ชื่อว่า Invisible Body ที่ทำให้ร่างกายดูล่องหน ขณะนี้ แฮชแท็ก #invisiblefilter มีผู้เข้าชมมากกว่า 25 ล้านครั้งแล้ว   ผู้ใช้ TikTok 2 ราย ชื่อว่า @learncyber และ @kodibtc ใช้กิจกรรมนี้ในการเผยแพร่วิดีโอที่แปะลิงก์เข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ Discord ซ่อนซอฟต์แวร์ปลอมที่อ้างสรรพคุณว่าจะสามารถลบฟิลเตอร์ออกไปได้ (เพื่อให้เห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของผู้ทำกิจกรรมนี้) ในลิงก์จะมีภาพลามกที่อ้างว่าเป็นผลลัพธ์ของการใช้ซอฟต์แวร์ที่ว่านี้ แต่ในลิงก์จะเป็นมัลแวร์ขโมยข้อมูลที่ชื่อ WASP ซ่อนอยู่ภายในไฟล์ที่เขียนด้วยโค้ดในภาษา Python   นอกจากนี้ บัญชีบอตของช่องยังส่งข้อความส่วนตัวไปหาผู้ใช้ มีเนื้อหาเพื่อขอคะแนนในหน้า GitHub ของซอฟต์แวร์นี้ ซึ่งใช้ชื่อว่า 420World69/Tiktok-Unfilter-Api จนได้รับความนิยม  …