สงครามลุกลาม!เบลารุสสั่งทหารผนึกกำลังรัสเซียใกล้ยูเครน อ้างเคียฟ-ตะวันตกวางแผนโจมตี

Loading

แฟ้มภาพ   ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เผยว่าได้สั่งการให้ทหารประจำการร่วมกับกองกำลังรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครน โดยกล่าวหาเคียฟและบรรดาผู้สนับสนุนตะวันตก กำลังวางแผนโจมตีประเทศของเขา   คำกล่าวของ ลูคาเชนโก ซึ่งครองอำนาจในเบลารุสมาตั้งแต่ปี 1994 บ่งชี้ถึงโอกาสที่สงครามในยูเครนจะลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น จากความเป็นไปได้ที่เกิดการผนึกกำลังกันของกองกำลังร่วมรัสเซีย-เบลารุส ทางภาคเหนือของยูเครน   “ณ เวลานี้ การโจมตีดินแดนของเบลารุส ไม่ใช่แค่กำลังมีการพูดคุยกันในยูเครนเท่านั้น แต่กำลังมีการวางแผนกันแล้วด้วย” ลูคาเชนโกกล่าวในทีประชุมด้านความมั่นคง แต่ไม่ได้มอบหลักฐานใดๆเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างดังกล่าว “พวกเจ้าของของพวกเขากำลังผลักดันให้พวกเขาเริ่มสงครามกับเลบารุส เพื่อลากเราไปตรงนั้น”   “เราเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้มานานหลายทศวรรษ ถ้าจำเป็น เราจะตอบโต้” ลูคาเชนโกกล่าว พร้อมเผยว่าเขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีปูติน เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ระหว่างพบปะหารือกันในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก   ลูคาเชนโก เผยว่าเขาเห็นพ้องกับ ปูติน ในการประจำการกองทหารในภูมิภาค และเริ่มการทำงานร่วมกันระหว่างกองกำลังของทั้ง 2 ประเทศเมื่อ 2 วันก่อน ความเคลื่อนไหวที่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุโจมตีสะพานถนนและทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างรัสเซียกับไครเมียเมื่อตอนเช้าวันเสาร์(8ต.ค.)   ประธานาธิบดีรายนี้บอกด้วยว่ามีคำเตือนส่งมาถึง เบลารุส ผ่านช่องทางอย่างไม่เป็นทางการ ว่า ยูเครน มีแผนก่อเหตุ…

ตั้งข้อหาวัยรุ่นเยอรมนีวางแผน ‘ระเบิดโรงเรียน’

Loading

  อัยการเยอรมนีตั้งข้อหาวัยรุ่นชาย อายุ 17 ปี วางแผนระเบิดโรงเรียนเมื่อเดือนพ.ค. แต่ป้องกันเหตุได้ทันเมื่อเจ้าตัวถูกจับก่อนก่อเหตุหนึ่งวัน   สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานแถลงการณ์อัยการ ผู้ต้องสงสัยชื่อ นายเจเรมี อาร์ อายุ 16 ปี ขณะก่อเหตุได้แรงบันดาลใจจากฝ่ายขวาสุดโต่งวางแผนใช้ระเบิด และอาวุธหลายชนิดโจมตีโรงเรียนที่เขาเรียนอยู่ในเมืองเอสเซนในวันที่ 13 พ.ค. ซึ่งจะคร่าชีวิตครู และนักเรียนได้จำนวนมาก ผู้ต้องสงสัยได้วัตถุสำคัญเพื่อนำมาประกอบไปป์บอมบ์ และเรียนรู้วิธีการประกอบระเบิดจากอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้เขายังประกอบอาวุธจำพวกมีด สนับมือ มีดขนาดใหญ่ หน้าไม้ ธนู และปืนด้วย   อย่างไรก็ตาม ตำรวจเมืองเอสเซน บุกเข้าไปในห้องของเขาเมื่อคืนวันที่ 12 พ.ค.พบเนื้อหาต่อต้านยิว และอิสลาม และงานเขียนของตนเองที่ชี้ว่ามีปัญหาทางจิตอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวนเผยในเวลานั้นว่า ได้เบาะแสจากวัยรุ่นอีกคนว่าเด็กหนุ่มคนนี้ “ต้องการวางระเบิดที่โรงเรียน” ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านราว 800 เมตร   การสังหารหมู่ในโรงเรียนไม่ค่อยเกิดขึ้นในเยอรมนี ประเทศที่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป แต่ระยะหลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนไปทั้งประเทศ   ไม่กี่วันหลัง นายเจเรมี อาร์ถูกจับกุม มือปืนวัย 21…

เฮติ ยังชุมนุมหลายเมืองทั่วประเทศ ม็อบปะทะตำรวจและปล้นสะดม

Loading

  เฮติ ยังชุมนุมหลายเมืองทั่วประเทศ ม็อบปะทะตำรวจและปล้นสะดม   วันที่ 11 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายเมืองของเฮติ ประเทศในแคริบเบียน เมื่อวันจันทร์ที่ 10 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลบานปลายเป็นการปล้นสะดม เนื่องจากความรุนแรงของกลุ่มปล้นสะดมลุกลามเกินการควบคุม กระทบต่อการขนส่งเชื้อเพลิงและอาหาร   ผู้ประท้วงคนหนึ่งบอกเอเอฟพีว่า ผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิงที่ถูกกองกำลังความมั่นคงยิง “นี่เป็นอาชญากรรมที่ตำรวจก่อ เด็กสาวคนนี้ไม่ได้คุกคามแต่ถูกฆ่าตายเพราะแสดงความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี” ขณะที่ตำรวจยังไม่ชี้แจงใด ๆ   ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ กลุ่มผู้ประท้วงยกสิ่งกีดขวางที่ไฟลุกไหม้จากยางรถยนต์และขว้างก้อนหินใส่ตำรวจ ซึ่งตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา และผู้ประท้วงบางคนไปปล้นสะดมโรงแรม นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมบุกอาคารศาลในเมืองกอนาอีฟว์ ทางตะวันตกของเฮติ และมีการประท้วงในเมืองกาไปติซีย็อง ชายฝั่งทางเหนือของเฮติ   กลุ่มปล้นสะดมเข้าควบคุมทางหลวงสายสำคัญและคลังน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของเฮติ และเนื่องจากการขนส่งอาหารและเชื้อเพลิงชะงัก ทำให้ชาวเฮติเริ่มหิวโหยมากขึ้นเรื่อย ๆ โกดังหลายแห่งขององค์กรการกุศลและองค์กรช่วยเหลือถูกปล้น ส่งผลให้กลุ่มผู้เปราะบางส่วนใหญ่ไม่มีอาหารและน้ำดื่ม   สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ชุมนุมตามท้องถนนจำนวนมากในวันจันทร์ที่ 10 ต.ค.…

รัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่ม8เมืองยูเครน แก้แค้นระเบิดสะพานไครเมีย

Loading

    รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่หลายเมืองในยูเครน ยังผลให้ประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงทำให้ไฟฟ้าดับในหลายเมือง โดยประธานาธิบดีปูตินถือว่าเป็นการโต้ตอบการโจมตีสะพานไครเมียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา   เช้าวันนี้ (10 ต.ค. 2565) กองทัพรัสเซียเปิดฉากถล่มยูเครนด้วยการยิงขีปนาวุธใส่หลายเมืองทั่วประเทศในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งอยู่ระหว่างชั่วโมงเร่งด่วนของยูเครน ยังผลให้มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้งยังทำลายสาธารณูปโภค เช่น ระบบพลังงานไฟฟ้าและความร้อนในหลายเมือง ด้านประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียประกาศว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการ “แก้แค้น” กรณีระเบิดสะพานไครเมีย ก่อนหน้านี้   ขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งเป้าไปที่ย่านชุมชน สวนสาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยวในย่านธุรกิจของกรุงเคียฟ และอีกหลายเมือง ได้แก่ เมืองลวีฟ, เมืองเตร์โนปิล, เมืองชือร์โตมือร์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของยูเครน, เมืองดนิโปร และเมืองเครเมนชุก ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของยูเครน, เมืองซาโปริซเชีย ทางตอนใต้ และเมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกของยูเครน โดยการระดมยิงขีปนาวุธเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรุนแรง     ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เขาได้สั่งให้เปิดการโจมตีแหล่งพลังงานของยูเครนด้วยขีปนาวุธระยะไกลชุดใหญ่ โดยเป็นการระดมยิงจากทางอากาศ ทางน้ำ และบนบก เพื่อเป็นการโต้ตอบเหตุการณ์ระเบิดสะพานเคิร์ช ที่ไครเมีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ปูตินระบุว่า เป็น…

ฟิลิปปินส์เริ่มบังคับใช้กฎหมาย “ลงทะเบียนซิมการ์ดมือถือ”

Loading

  ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ลงนามในกฎหมาย ว่าด้วยการที่ประชาชนต้องยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ ว่าเป็นเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ว่าหมายเลขใดก็ตาม   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ลงนามรับรองกฎหมาย ว่าด้วยการลงทะเบียนและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยเลขบัตรประชาชน และข้อมูลสำคัญในเบื้องต้นให้ครบถ้วน เพื่อปิดโอกาสของมิจฉาชีพ ในการใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนเพื่อการก่ออาชญากรรม   ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศซึ่งมีอัตราการเข้าถึงโทรศัพท์มือถือสูงสุดในทวีปเอเชีย คือ 61% จากประชากรประมาณ 110 ล้านคน และยังอยู่ในกลุ่มหัวตารางของการจัดอันดับโดยบริษัทวิจัยนานาชาติหลายแห่ง เกี่ยวกับการใช้เวลากับสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียต่อวันอีกด้วย   LIVE: President Ferdinand R. Marcos Jr. signs the Subscriber Identity Module (SIM) Card Registration Act | October 10, 2022https://t.co/ECSbqXLb4Q — Office of the…

ทำไม “สหรัฐ-อียู” ลงนามบังคับใช้มาตรการปกป้องโอนข้อมูล Privacy Shield 2.0

Loading

  ทำเนียบขาวประกาศว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี เพื่อบังคับใช้กรอบการทำงานรูปแบบใหม่ “Privacy Shield 2.0” โดยมีเป้าหมายที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่แบ่งปันร่วมกันระหว่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป   สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า กรอบการทำงานใหม่นี้ช่วยเติมเต็มช่องว่างที่สำคัญด้านการปกป้องข้อมูลทั่วภูมิภาคแอตแลนติก นับตั้งแต่ที่ศาลยุติธรรมยุโรปยกเลิกกรอบการทำงานเดิมในปี 2563 หลังศาลพบว่า สหรัฐมีความสามารถในการสอดส่องข้อมูลของยุโรปที่ถ่ายโอนผ่านระบบก่อนหน้านี้มากเกินไป   นายเจมส์ ซัลลิแวน ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ณ เวลานั้น ได้ระบุในจดหมายเปิดผนึกสั้น ๆ ภายหลังการตัดสินใจไว้ว่า คดี “Schrems II” ได้สร้างความไม่มั่นคงใหญ่หลวงต่อความสามารถของบริษัทต่าง ๆ ในการถ่ายโอนข้อมูล ส่วนบุคคลจากสหภาพยุโรป (EU) ไปยังสหรัฐ ซึ่งผลลัพธ์ของคดีดังกล่าวได้ทำให้บริษัทในสหรัฐต้องใช้ “กลไกการถ่ายโอนข้อมูลที่ได้รับการอนุมัติจากสหภาพยุโรป” ที่แตกต่างกันในแต่ละกรณี ทำให้การทำธุรกิจเกิดความซับซ้อนมากขึ้น   กรอบการทำงาน Privacy Shield 2.0 จะให้แนวทางใหม่เพื่อผ่อนคลายความกังวลของยุโรปที่มีต่อความเป็นไปได้ในการสอดส่องข้อมูลจากหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐ กรอบการทำงานใหม่นี้จะช่วยให้บุคคลในสหภาพยุโรปสามารถยื่นขอการชดใช้ผ่านทางศาลตรวจสอบการคุ้มครองข้อมูลอิสระ (DPRC) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกนอกรัฐบาลสหรัฐ และหน่วยงานดังกล่าว “จะมีอำนาจเต็มที่” ในการตัดสินข้อเรียกร้อง และออกมาตรการแก้ไขตามความจำเป็น  …