Foxconn ยืนยัน โรงงานในเม็กซิโกโดน ransomware โจมตีจนส่งผลกระทบต่อการผลิต

Loading

  Foxconn ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ ยืนยันเหตุการณ์โรงงานในเม็กซิโกถูก ransomware โจมตีเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โรงงานที่ได้รับผลกระทบคือโรงงาน Foxconn Baja California ที่อยู่เมือง Tijuana ในชายแดนแคลิฟอร์เนีย โดยโรงงานนี้ผลิตสินค้าประเภทอุปกรณ์การแพทย์ , อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์สำหรับโรงงาน โดยโรงงานแห่งนี้เป็นซัพพลายให้กับรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้บริโภคสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายสำคัญในภูมิภาค Jimmy Huang โฆษกของ Foxconn ยืนยันว่า การผลิตถูกรบกวนจาก ransomware แต่ตอนนี้กำลังทยอยกลับสู่สภาวะปกติและประมาณการว่า เหตุกาณ์นี้มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในภาพรวมของกลุ่ม Foxconn น้อย และพร้อมทั้งรายงานข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแก่ผู้บริหาร , ลูกค้า และซัพพลายเออร์ของบริษัทแล้ว Foxconn ไม่ได้ระบุว่า มีข้อมูลส่วนใดได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้บ้าง รวมถึงไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้โจมตีด้วย แต่ LockBit ได้ยืนยันว่า เป็น ransomware ของตนเอง และขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลที่ได้จาก Foxconn หากไม่จ่ายค่าไถ่ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า LockBit เรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงินเท่าไร และ Foxconn ปฏิเสธที่จะให้คำตอบว่าจะจ่ายค่าไถ่หรือไม่…

Microsoft ทลายฐานปฏิบัติการทางไซเบอร์ของแฮ็กเกอร์จากเลบานอน เชื่ออิหร่านมีเอี่ยว

Loading

  Microsoft บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เผยว่าได้พบและทำลายฐานปฏิบัติบน OneDrive ของ Polonium กลุ่มแฮ็กเกอร์จากเลบานอนที่พุ่งเป้าโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรต่าง ๆ ของอิสราเอล   ทางบริษัทยังระบุด้วยว่า Polonium ทำงานร่วมกับกลุ่มต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับกระทรวงข่าวกรองและความมั่นคงของอิหร่าน (MOIS) ซึ่งไม่ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลอิหร่านมักจ้างวานองค์กรภายนอกในการปฏิบัติการทางไซเบอร์ที่สนองต่อเป้าหมายของรัฐบาล   ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา Polonium โจมตีทางไซเบอร์ต่อมากกว่า 20 องค์กรของอิสราเอล ในจำนวนนี้มีองค์กรระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเลบานอนด้วย องค์กรที่เป็นเป้าหมายมีทั้งที่ดำเนินการในด้านการผลิต อุตสาหกรรมทางทหาร เกษตรกรรมและอาหาร ระบบการเงินการธนาคาร หน่วยงานของรัฐ สาธารณสุข ไอที ระบบคมนาคม ฯลฯ   Polonium เคยโจมตีผู้ให้บริการคลาวด์เพื่อใช้ในการโจมตีบริษัทการบินและสำนักงานกฎหมาย ซึ่งหลายบริษัทที่ตกเป็นเป้านั้นทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมทางทหารของรัฐบาลอิสราเอล   เครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการปฏิบัติการของ Polonium คือบัญชี OneDrive ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็น Command and Control หรือฐานในการปฏิบัติทางไซเบอร์ ทางกลุ่มยังได้ดัดแปลงบริการคลาวด์อย่าง OneDrive…

คอสตาริกาถูกโจมตีทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง แม้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาร่วมเดือน

Loading

  กองทุนความมั่นคงปลอดภัยทางสังคมของประเทศคอสตาริกา (CCSS) ระบุว่าโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศถูกโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา   การโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้ CCSS ต้องปิดระบบเก็บบันทึกดิจิทัล ส่งผลให้โรงพยาบาลและคลินิกกว่า 1,200 แห่งได้รับผลกระทบตามไปด้วย   “มันเป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก แต่เราไม่พบว่าฐานข้อมูลสำคัญหรือระบบโครงข่ายได้รับความเสียหายแต่อย่างใด” อัลวาโร รามอส (Alvaro Ramos) ประธาน CCSS ระบุในการแถล่งข่าว โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า 30 จาก 1,500 เซิร์ฟเวอร์ที่ CCSS ดูแลอยู่ตกเป็นเป้าการโจมตี โดยคาดว่าเซิร์ฟเวอร์น่าจะล่มอยู่เป็นเวลาหลายวันเลยทีเดียว   รัฐบาลคอสตาริกาเคยระบุก่อนหน้านี้ว่าประเทศถูกโจมตีทางไซเบอร์หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายต่อการระบบการค้าต่างประเทศและกลไกในการจัดเก็บภาษีของประเทศ ทำให้ประธานาธิบดี ร็อดริโก ชาเวส (Rodrigo Chaves) ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา   เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาเคยสันนิษฐานว่าผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีคอสตาริกาคือ Conti กลุ่มแฮกเกอร์จากรัสเซีย แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ   โดยรัฐบาลสหรัฐฯ อิสราเอล และสเปน เคยเสนอยื่นความช่วยเหลือต่อคอสตาริกาในการซ่อมแซมความเสียหายและป้องกันการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต     ที่มา…

ExpressVPN จะย้ายเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดีย หลังกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้

Loading

  ผู้ให้บริการ VPN เจ้าดัง “ExpressVPN” แถลงผ่าน Blog ของเว็บไซต์ว่า กำลังจะนำเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดีย เพราะไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายอินเดียที่ให้เปิดข้อมูลตัวตนและการใช้งานของผู้ใช้ได้   ในแถลงการณ์ยังระบุว่า ด้วยหลักการทำงานและการให้บริการ VPN ที่จะปกปิดข้อมูลของผู้ใช้ ทำให้ ExpressVPN ไม่สามารถที่จะตามข้อบังคับของรัฐบาลอินเดียได้ เพราะว่าพวกเขาไม่เคยเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการเอาไว้ในระบบ และตัวกฎหมายยังขัดกับหลักการพื้นฐานของ VPN อีกด้วย   นอกจากนี้ ExpressVPN ยังระบุอีกด้วยว่า จะไม่ร่วมกับการกระทำใด ๆ ที่ส่งผลต่อเสรีภาพในการใช้อินเทอร์เน็ต   ผู้ใช้งาน ExpressVPN ในอินเดียยังสามารถใช้งานเซิร์ฟเวอร์อินเดียได้ตามเดิม แต่จะเปลี่ยนที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์เป็น สิงคโปร์ และ อังกฤษ แทน     ที่มา – The Register, Blog ของ ExpressVPN       —————————————————————————————————————————- ที่มา :     …

ชาวไต้หวันแห่เรียนยิงปืน หวั่นสงครามยูเครนจุดชนวนภัยคุกคามจากจีน

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชาวไต้หวันแห่เรียนยิงปืนเป็นครั้งแรกมากขึ้น โดยครอบคลุมตั้งแต่ผู้ที่เป็นมัคคุเทศก์ไปจนถึงช่างสัก เนื่องจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนนั้น ได้สร้างความวิตกกังวลว่า จีนจะเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน   แรงกดดันทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีนต่อไต้หวัน ผนวกกับความขัดแย้งในยูเครน กระตุ้นให้มีการถกเถียงถึงวิธีส่งเสริมการป้องกันไต้หวันซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่า จะขยายเวลาในการเกณฑ์ทหารภาคบังคับหรือไม่   เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของบริษัทฝึกทักษะการต่อสู้ในไต้หวันระบุว่า นับตั้งแต่สงครามยูเครนเปิดฉากเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดจองเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าสำหรับการเรียนยิงปืนอัดลม หรืออุปกรณ์พลังงานต่ำที่ออกแบบมาเพื่อยิงขีปนาวุธที่ไม่ใช่โลหะ   แม็กซ์ เชียง ผู้บริหารระดับสูงของโพลาร์ ไลท์ ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองกรุงไทเปกล่าวว่า “มีผู้คนจำนวนมากขึ้นกำลังจะมาเข้าร่วม”   นายเชียงเสริมว่า ผู้สมัครบางคนไม่เคยใช้ปืนมาก่อน และจำนวนผู้สมัครเรียนดังกล่าวเพิ่มขึ้น 3 หรือ 4 เท่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครนเริ่มต้นขึ้น ซึ่งรัสเซียเรียกว่าเป็น “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ”   ทั้งนี้ ชาวไต้หวันบางคนแสดงความกังวลว่า จีนอาจเพิ่มแรงกดดันโดยใช้โอกาสที่ชาติตะวันตกกำลังยุ่งอยู่กับความพยายามสนับสนุนยูเครนเพื่อต่อกรกับรัสเซีย     —————————————————————————————————————————- ที่มา :     สำนักข่าวอินโฟเควสท์       / วันที่เผยแพร่   …

จีนวิจัยเอไอช่วยทำนายวิถีขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก

Loading

    เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถตรวจจับขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกได้   South China Morning รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จากโรงเรียนการเตือนภัยล่วงหน้ากองทัพอากาศของจีนพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คาดคะเนวิถีของขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก หรือขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่กำลังพุ่งเข้าสู่เป้าหมายที่ความเร็วที่เร็วกว่าความเร็วของเสียง 5 เท่า   นักวิจัยระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ขับเคลื่อนโดย AI สามารถประมาณการวิถีการสังหารที่เป็นไปได้ของขีปนาวุธที่กำลังมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย และหาทางตอบโต้ภายในเวลา 3 นาที   จางจุนเปียว นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากโรงเรียนการเตือนภัยล่วงหน้ากองทัพอากาศในเมืองอู่ฮั่นของจีนเผยว่า “มหาอำนาจทางการทหารของโลกกำลังแข่งขันกันพัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกอย่างดุดัน ทำให้เกิดความท้าทายครั้งใหม่ที่รุนแรงต่อความปลอดภัยทางอากาศและในอวกาศ”   “การทำนายเส้นทางมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับการประเมินเจตนาและการสกัดกั้นการป้องกันการบินและอวกาศ” จางระบุในวารสาร Journal Of Astronautics ที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา   ขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิกถูกปล่อยจากอากาศและสามารถเดินทางเข้าและออกจากชั้นบรรยากาศได้ราวกับก้อนหินกระโดดอยู่บนผืนน้ำและเบี่ยงไปทางซ้ายหรือขวา ทำให้ยากต่อการตรวจจับหรือสกัดกั้น   ด้วยความเร็วระดับ 5 มัคทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศแทบจะไม่มีเวลาตอบโต้ และขณะนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีใดที่มีอยู่สามารถหยุดยั้งขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกได้เลย   ทว่าจางเผยว่า AI สามารถทำได้ฝ่ายที่ต้องตั้งรับไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับน้ำหนัก ขนาด รูปร่าง ระบบควบคุมกลศาสตร์ หรือจุดประสงค์ของอาวุธของศัตรู แต่ AI สามารถคาดเดาได้ค่อนข้างแม่นยำด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลการเดินทางของขีปนาวุธที่บันทึกไว้…