เป็นเรื่อง ทดสอบแฮ็ก Tesla ปลดล็อคได้ใน 10 วิ

Loading

  นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก NCC Group เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เขาสามารถแฮ็กรถ Tesla Model Y ปี 2021 ได้ภายใน 10 วินาที ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงปลดล็อครถได้เท่านั้น แต่ยังสามารถขับรถออกไปโดยไม่ต้องอาศัยรีโมท จากข้อมูล เข้าใจว่ารถยนต์ของ Tesla น่าจะมีการปลดล็อคได้สองรูปแบบ 1.คือรีโมทคอนโทรลที่มีมาให้  2.ใช้ Smartphone เพื่อปลดล็อคครับ วิธีการโจมตีคือพยายามหลอกให้รถคิดว่าโทรศัพท์ของเจ้าของรถอยู่ใกล้ ๆ กัน โดยนักวิจัยได้ใช้ Laptop หนึ่งเครื่องเพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างโทรศัพท์ของเหยื่อ (ไม่ได้บอกนะ ว่าทำได้ยังไง) ส่วนอีกเครื่องเอาไปไว้ใกล้กับตัวรถ Tesla และทำการปล่อยสัญญาณ Bluetooth จากนั้นก็ให้ Laptop เครื่องแรกดึงสัญญาณจากมือถือของเหยื่อและส่งไปให้กับ Laptop เครื่องที่สองที่พยายามปลอมตัวเองว่าเป็นมือถือของเหยื่อ ซึ่งจะทำให้รถสามารถล็อคได้ในเพียงไม่กี่วินาที ดูจากข้อมูลแล้ว ดูเหมือนจะง่ายนะ แต่ส่วนตัวคิดว่ามันน่าจะมีตัวแปรเยอะกว่านี้มาก เช่น เราจะเชื่อมช่องว่างระหว่าง Laptop กับโทรศัพท์ของเหยื่อได้อย่างไร ? Smartphone จะมีช่องโหว่ขนาดนั้นเลยหรอ ? และการแฮ็กนี้อาจจะต้องอาศัยผู้ช่วยในการโจมตี ทำคนเดียวอาจจะยากกว่ามาก…

สื่อนอกเผย CEO และผู้บริหาร นิยมใช้รหัสผ่าน ‘เดาง่าย’ บางรายใช้ชื่อตนเอง

Loading

  “123456” ชื่อไหมว่าทุกวันนี้ยังมีคนใช้รหัสผ่านนี้อยู่ และยังเป็น ‘รหัสผ่านยอดแย่’ ยอดนิยมอันดับหนึ่งด้วย ผลสำรวจโดยทาง NordPass บริการช่วยจัดเก็บรหัสผ่าน ล่าสุดได้เผยอีกสถิติน่าสนใจ พบเหล่า CEO หรือผู้บริหารระดับสูงหลายราย ใช้รหัสผ่านยอดแย่มากเป็นพิเศษ CEO , CTO และ CFO หรือเหล่า Chief ทั้งหลาย พบนิยมใช้รหัสผ่านเป็น “123456” และรหัสผ่านเดาง่ายอื่น ๆ ด้วย คาดถูกใช้เหมือน ๆ กันไปแล้วกว่า 103 ล้านครั้ง อีกทั้งบางรายยังใช้รหัสผ่านเป็นชื่อตนเองด้วย เช่น “Tiffany” (100,534 ครั้ง) , “Charlie” (33,699 ครั้ง) และ “Michael” (10,647 ครั้ง)     หรือหนักกว่านั้นคือใช้ชื่อสัตว์ตั้งซะเลย เช่น “Dragon” และ “Monkey” ที่ต่างก็ใช้เหมือนกันกว่า 1 พันครั้ง…

“สกมช.”จับมือ กองบัญชาการกองทัพไทย ลงนามยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

Loading

  สองหน่วยงานจับมือลงนามเอ็มโอยู สนับสนุนด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ยกระดับการดูแล การรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันราชอาณาจักร วันนี้ (19 พ.ค.)  สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) โดย พลเอก ปรัชญา เฉลิมวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์กับกองบัญชาการกองทัพไทย โดย พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ณ ห้องนเรศวร กองบัญชาการกองทัพไทย พลเอก ปรัชญา กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงฯ ฉบับดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุนด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ยกระดับการดูแล การรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ และสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันราชอาณาจักร ซึ่งครอบคลุมถึงการดำเนินการเพื่อปกป้อง ป้องกัน ส่งเสริม ลดความเสี่ยง จากการถูกโจมตี ตลอดจนรับมือ และแก้ไขสถานการณ์ด้านภัยคุกคามที่ส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยมีขอบเขตความร่วมมือในการพัฒนา สร้างการตระหนักรู้ พัฒนาขีดความสามารถทักษะและความรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ผ่านโครงการกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรทางด้านไซเบอร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังร่วมกันสนับสนุนการดำเนินการเพื่อยกระดับการดูแลและการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ในลักษณะแบบ CERT (Computer Emergency Response…

สนามบินชางงีสิงคโปร์ ใช้ระบบ Biometrix ตรวจสอบผู้โดยสารขาออก ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางแล้ว!

Loading

  สนามบินชางงีสิงคโปร์ ใช้ระบบ Biometrix ตรวจสอบผู้โดยสารขาออก โดยไม่ต้องสแกนหนังสือเดินทาง โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์ สามารถเดินทางเข้าออกสนามบินชางงีผ่าน ตม. โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทางเลย เพียงแค่สแกนใบหน้า+ม่านตา เท่านั้น ซึ่งจะเริ่มใช้ภายในปี 2022 นี้และใช้เต็มรูปแบบในปี 2023 รัฐมนตรีอาวุโส Teo Chee Hean กล่าวเมื่อวันอังคาร (17 พ.ค.) ว่า: “เรากำลังดำเนินการริเริ่มที่ผู้โดยสารขาออกที่ชางงีต้องการเพียงแสดงข้อมูลไบโอเมตริก เพื่อตรวจสอบจุดสัมผัสต่างๆ ในการออกเดินทาง โดยไม่ต้องแสดงเอกสารการเดินทางใดๆ” สิ่งนี้จะไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่ยังนำไปสู่มาตรการป้องกันใหม่ที่จำเป็นสำหรับการบินอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีหลังเกิดโรคระบาด หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจสิงคโปร์ (ICA) ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในอนาคตชาวสิงคโปร์ที่เดินทางออกจากหรือมาถึงที่ชางงีจะสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทาง แต่ข้อมูลประจำตัวของผู้โดยสารจะได้รับการยืนยันโดยใช้ม่านตาและใบหน้าเมื่อเดินผ่านประตู ICA ยังกล่าวอีกว่านักเดินทางต่างชาติที่ลงทะเบียนไบโอเมตริกใบหน้าและม่านตาในการเยือนสิงคโปร์ครั้งแรก จะสามารถผ่าน ตม. โดยอัตโนมัติในการเดินทางครั้งต่อไป โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงานในการทำให้การตรวจผ่านอัตโนมัติเป็นมาตรฐานสำหรับผู้เดินทางทุกคนตั้งแต่ปี 2023 ในขณะเดียวกัน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ จะต้องได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้โดยสาร อ้างอิง และ Cover THE STRAITS TIMES    …

เกิดเหตุระเบิดโรงกลั่นน้ำมันบริษัท’เอส-ออยล์’ในเกาหลีใต้ บาดเจ็บ 8 ราย

Loading

  เกิดเหตุระเบิดที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเอส-ออยล์ คอร์ป (S-Oil Corp) ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 ราย โดยโรงกลั่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอุลซาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.52 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) ทางหน่วยงานได้รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันออนซาน (Onsan) ของบริษัทเอส-ออยล์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของเมืองอุลซาน ห่างจากกรุงโซลประมาณ 414 กิโลเมตร เหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 6 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเปิดเผยว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่คนงานของบริษัทอยู่ในระหว่างการทดสอบกระบวนการแอลคิเลชัน (Alkylation processing) ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามขั้นตอนการบำรุงรักษาโรงกลั่น สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า หน่วยดับเพลิงได้ประกาศเตือนภัยระดับที่ 2 เพื่อเปิดทางให้สามารถขอการสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการขอกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงจากพื้นที่อื่น ๆ และระดมรถดับเพลิงเกือบ 40 คันเพื่อควบคุมเพลิง ทั้งนี้ บริษัทซาอุดีอารามโคเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทเอส-ออยล์ และโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังการกลั่นน้ำมันในอัตรา 669,000 บาร์เรล/วัน     ที่มา :…

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ชี้ปืนล้นประเทศ

Loading

  วอชิงตัน/ลากูนา วูดส์ (เอพี/รอยเตอร์ส)-กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยว่า ช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ผลิตปืนเพื่อจำหน่ายมากกว่า 139 ล้านกระบอก และยังนำเข้ามาอีก 71 ล้านกระบอก บ่งชี้ว่าประเทศกำลังเต็มไปด้วยอาวุธปืนส่วนบุคคลที่ส่งผลให้เกิดเหตุรุนแรงจากปืนเพิ่มมากขึ้น รายงานฉบับใหม่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ รวบรวมข้อมูลระหว่างปี 2543-2563 เฉพาะปี 2563 สหรัฐฯ ผลิตปืนเพื่อจำหน่าย 11.3 ล้านกระบอก มีผู้ผลิตที่จดทะเบียนและยังดำเนินงานอยู่ 16,963 ราย เพิ่มขึ้นจาก 2,222 ราย ในปี 2543 รายงานพบว่า ชาวอเมริกันนิยมสะสมปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุสังหารหมู่หลายครั้ง และยังซื้อปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มิลลิเมตร ที่มีราคาถูกลง ใช้งานง่าย มีความแม่นยำคล้ายอาวุธคู่กายตำรวจในปัจจุบัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังประสบปัญหาปืนเถื่อนที่มีจำนวนมากขึ้น มีทั้งปืนประกอบขึ้นเองจากชิ้นส่วนที่หาซื้อทางออนไลน์ และปืนพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ลิซา โมนาโก รองอัยการสูงสุดสหรัฐฯ ระบุว่า ทางการจะแก้ปัญหาความรุนแรงจากปืนซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้ได้ต่อเมื่อมีข้อมูลอย่างละเอียด แล้วนำเครื่องมือและงานวิจัยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ รายงานฉบับนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญ…