“สกมช.”จับมือ กองบัญชาการกองทัพไทย ลงนามยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

Loading

  สองหน่วยงานจับมือลงนามเอ็มโอยู สนับสนุนด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ยกระดับการดูแล การรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันราชอาณาจักร วันนี้ (19 พ.ค.)  สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) โดย พลเอก ปรัชญา เฉลิมวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์กับกองบัญชาการกองทัพไทย โดย พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ณ ห้องนเรศวร กองบัญชาการกองทัพไทย พลเอก ปรัชญา กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงฯ ฉบับดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุนด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ยกระดับการดูแล การรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ และสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันราชอาณาจักร ซึ่งครอบคลุมถึงการดำเนินการเพื่อปกป้อง ป้องกัน ส่งเสริม ลดความเสี่ยง จากการถูกโจมตี ตลอดจนรับมือ และแก้ไขสถานการณ์ด้านภัยคุกคามที่ส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยมีขอบเขตความร่วมมือในการพัฒนา สร้างการตระหนักรู้ พัฒนาขีดความสามารถทักษะและความรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ผ่านโครงการกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรทางด้านไซเบอร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังร่วมกันสนับสนุนการดำเนินการเพื่อยกระดับการดูแลและการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ในลักษณะแบบ CERT (Computer Emergency Response…

สนามบินชางงีสิงคโปร์ ใช้ระบบ Biometrix ตรวจสอบผู้โดยสารขาออก ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางแล้ว!

Loading

  สนามบินชางงีสิงคโปร์ ใช้ระบบ Biometrix ตรวจสอบผู้โดยสารขาออก โดยไม่ต้องสแกนหนังสือเดินทาง โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์ สามารถเดินทางเข้าออกสนามบินชางงีผ่าน ตม. โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทางเลย เพียงแค่สแกนใบหน้า+ม่านตา เท่านั้น ซึ่งจะเริ่มใช้ภายในปี 2022 นี้และใช้เต็มรูปแบบในปี 2023 รัฐมนตรีอาวุโส Teo Chee Hean กล่าวเมื่อวันอังคาร (17 พ.ค.) ว่า: “เรากำลังดำเนินการริเริ่มที่ผู้โดยสารขาออกที่ชางงีต้องการเพียงแสดงข้อมูลไบโอเมตริก เพื่อตรวจสอบจุดสัมผัสต่างๆ ในการออกเดินทาง โดยไม่ต้องแสดงเอกสารการเดินทางใดๆ” สิ่งนี้จะไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่ยังนำไปสู่มาตรการป้องกันใหม่ที่จำเป็นสำหรับการบินอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีหลังเกิดโรคระบาด หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจสิงคโปร์ (ICA) ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในอนาคตชาวสิงคโปร์ที่เดินทางออกจากหรือมาถึงที่ชางงีจะสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทาง แต่ข้อมูลประจำตัวของผู้โดยสารจะได้รับการยืนยันโดยใช้ม่านตาและใบหน้าเมื่อเดินผ่านประตู ICA ยังกล่าวอีกว่านักเดินทางต่างชาติที่ลงทะเบียนไบโอเมตริกใบหน้าและม่านตาในการเยือนสิงคโปร์ครั้งแรก จะสามารถผ่าน ตม. โดยอัตโนมัติในการเดินทางครั้งต่อไป โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงานในการทำให้การตรวจผ่านอัตโนมัติเป็นมาตรฐานสำหรับผู้เดินทางทุกคนตั้งแต่ปี 2023 ในขณะเดียวกัน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ จะต้องได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้โดยสาร อ้างอิง และ Cover THE STRAITS TIMES    …

เกิดเหตุระเบิดโรงกลั่นน้ำมันบริษัท’เอส-ออยล์’ในเกาหลีใต้ บาดเจ็บ 8 ราย

Loading

  เกิดเหตุระเบิดที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเอส-ออยล์ คอร์ป (S-Oil Corp) ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 ราย โดยโรงกลั่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอุลซาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.52 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดี (19 พ.ค.) ทางหน่วยงานได้รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันออนซาน (Onsan) ของบริษัทเอส-ออยล์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของเมืองอุลซาน ห่างจากกรุงโซลประมาณ 414 กิโลเมตร เหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 6 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเปิดเผยว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่คนงานของบริษัทอยู่ในระหว่างการทดสอบกระบวนการแอลคิเลชัน (Alkylation processing) ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามขั้นตอนการบำรุงรักษาโรงกลั่น สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า หน่วยดับเพลิงได้ประกาศเตือนภัยระดับที่ 2 เพื่อเปิดทางให้สามารถขอการสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการขอกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงจากพื้นที่อื่น ๆ และระดมรถดับเพลิงเกือบ 40 คันเพื่อควบคุมเพลิง ทั้งนี้ บริษัทซาอุดีอารามโคเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทเอส-ออยล์ และโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังการกลั่นน้ำมันในอัตรา 669,000 บาร์เรล/วัน     ที่มา :…

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ชี้ปืนล้นประเทศ

Loading

  วอชิงตัน/ลากูนา วูดส์ (เอพี/รอยเตอร์ส)-กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยว่า ช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ผลิตปืนเพื่อจำหน่ายมากกว่า 139 ล้านกระบอก และยังนำเข้ามาอีก 71 ล้านกระบอก บ่งชี้ว่าประเทศกำลังเต็มไปด้วยอาวุธปืนส่วนบุคคลที่ส่งผลให้เกิดเหตุรุนแรงจากปืนเพิ่มมากขึ้น รายงานฉบับใหม่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ รวบรวมข้อมูลระหว่างปี 2543-2563 เฉพาะปี 2563 สหรัฐฯ ผลิตปืนเพื่อจำหน่าย 11.3 ล้านกระบอก มีผู้ผลิตที่จดทะเบียนและยังดำเนินงานอยู่ 16,963 ราย เพิ่มขึ้นจาก 2,222 ราย ในปี 2543 รายงานพบว่า ชาวอเมริกันนิยมสะสมปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุสังหารหมู่หลายครั้ง และยังซื้อปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มิลลิเมตร ที่มีราคาถูกลง ใช้งานง่าย มีความแม่นยำคล้ายอาวุธคู่กายตำรวจในปัจจุบัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังประสบปัญหาปืนเถื่อนที่มีจำนวนมากขึ้น มีทั้งปืนประกอบขึ้นเองจากชิ้นส่วนที่หาซื้อทางออนไลน์ และปืนพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ลิซา โมนาโก รองอัยการสูงสุดสหรัฐฯ ระบุว่า ทางการจะแก้ปัญหาความรุนแรงจากปืนซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้ได้ต่อเมื่อมีข้อมูลอย่างละเอียด แล้วนำเครื่องมือและงานวิจัยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ รายงานฉบับนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญ…

‘ออสเตรเลีย – ไทย’ หารือความเสี่ยงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

Loading

  ออสเตรเลียร่วมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทย (สมช.) จัดการหารือว่าด้วยเรื่องความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ระหว่างออสเตรเลีย และไทย ระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤษภาคม 2565 ผู้เชี่ยวชาญ และผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน ได้ร่วมหารือถึงการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญระหว่างออสเตรเลีย และไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงการแจกแจงและจัดการความเสี่ยงทั้งของภาครัฐและเอกชน การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างมีประสิทธิภาพมีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งรวมถึงการจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ และระบบดิจิทัลที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งหลายประเทศต้องพึ่งระบบเหล่านี้ในการบริหารจัดการ นายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า บทเรียนสำคัญจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้เห็นถึงว่าโครงสร้างพื้นฐานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัย และความมั่นคงของประเทศ ” เราถือเป็นโอกาสที่สำคัญที่จะได้ร่วมงานกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทย ในการแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญรวมถึงการแจกแจง และจัดการความเสี่ยงเหล่านั้น” เอกอัครราชทูตออสเตรเลียยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อมในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส เขื่อนภูมิพล ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ แต่กระนั้นก็ยังต้องจัดการความเสี่ยงหลายอย่างต่อโครงสร้างพื้นฐานเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นการเอ่อล้นของแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงการขโมยข้อมูลการเงินทางไซเบอร์ นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศเนื่องจากจะเกิดผลกระทบต่อความปลอดภัย และการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนในวงกว้าง หากเกิดการหยุดชะงักของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ โดยตั้งแต่ในอดีตจนถึงจนปัจจุบัน สมช. ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และหน่วยงานต่างประเทศมาโดยตลอด…

กรมโรงงานฯ ขีดเส้น 23 ต.ค.โรงงานใช้สารเคมีตั้งแต่ 1 ตัน/ปีต้องรายงานข้อมูล

Loading

กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ออกคำสั่งให้โรงงานที่ใช้จัดเก็บสารเคมีอันตรายตั้งแต่ 1 ตัน/ปี ต้องรายงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีผลบังคับใช้ 23 ตุลาคม 2565 พร้อมจัดการฝึกอบรม “ระบบข้อมูลเพื่อการจัดการความปลอดภัยด้านสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม” ผ่านช่องทางออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานในเดือนมิถุนายน และกันยายน 2565 นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 มีสารเคมีกว่า 20 ตันระเบิดรั่วไหลออกมา ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบโรงงาน ทั้งความเสียหายทางทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้จัดทำประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานตามบัญชีแนบท้ายประกาศฯ และผู้ประกอบกิจการโรงงาน นอกเหนือจากบัญชีแนบท้ายประกาศฯ ต้องรายงานข้อมูลสารเคมีอันตรายที่มีการเก็บ หรือการใช้ในการประกอบกิจการโรงงาน ในปริมาณตั้งแต่ 1 ตัน/ปี ต่อสารเคมีอันตรายหนึ่งชนิด ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ กรอ. โดยประกาศดังกล่าวได้ลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23…