สหรัฐฯ เตือนคนไอทีเกาหลีเหนือปลอมเป็นคนชาติอื่น รับงานไอที เขียนแอปมือถือ , แพลตฟอร์มคริปโต , ซัพพอร์ต

Loading

  กระทรวงการคลังสหรัฐฯ (Department of Treasury) ออกประกาศแจ้งเตือนว่า เกาหลีเหนือกำลังส่งออกแรงงานไอทีนับพันคน รับงานบริษัทต่างชาติโดยปิดบังสัญชาติที่แท้จริงของคนทำงานเพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรสหรัฐฯ แรงงานไอทีเหล่านี้มักมีฐานรับงานอยู่นอกเกาหลีเหนือ เช่น จีน , รัสเซีย , บางส่วนอยู่ในแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอาศัยการปลอมแปลงเอกสารประจำตัวว่าเป็นคนจีน , เกาหลีใต้ , ญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังตั้งบริษัทนอกเกาหลีเหนือเพื่อบังหน้า งานที่แรงงานไอทีจากเกาหลีเหนือรับงานมีหลากหลาย เช่น การพัฒนาแอปและเว็บ , สร้างแพลตฟอร์มเงินดิจิทัล , ให้บริการไอทีซัพพอร์ต , ทำกราฟิก/อนิเมชั่น , พัฒนาเกม , สร้างแพลตฟอร์มพนันออนไลน์, ระบบปัญญาประดิษฐ์ , งานพัฒนาฮาร์ดแวร์และเฟิร์มแวร์ โดยเกาหลีเหนือลงทุนกับการพัฒนาบุคลากรไอทีอย่างหนัก คาดว่าในช่วงรัฐบาลคิมจองอึนมีนักเรียนด้านไอทีจบจากมหาวิทยาลัยในเกาหลีเหนือมาแล้วประมาณ 30,000 คน แรงงานเหล่านี้รับงานที่ในลักษณะฟรีแลนซ์ที่ได้รายได้สูง บางคนอาจจะมีรายได้ถึงปีละ 300,000 ดอลลาร์หรือกว่าสิบล้านบาท บางทีมรับงานได้ปีละ 3 ล้านดอลลาร์หรือร้อยล้านบาทเลยทีเดียว แม้ว่าแรงงานเหล่านี้จะทำงานจริง และดูไม่ได้มุ่งร้ายกับองค์กรที่ไปรับงานนัก แต่ประกาศก็เตือนว่าแรงงานเหล่านี้เป็นแหล่งรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือไปพัฒนาอาวุธ และการจ้างแรงานเหล่านี้เป็นการละเมิดการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มา – Department…

อังกฤษเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่เพื่อสู้กับสายลับที่หลอกเอาข้อมูลลับจากผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดีย

Loading

  “รัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดตัว Think Before You Link แอปพลิเคชันช่วยตรวจสอบตัวตนบัญชีผู้ใช้บนโซเชียลมีเดียอย่าง LinkedIn และ Facebook” เคน แม็คคอลลัม (Ken McCallum) ผู้อำนวยการทั่วไปของแผนกต่อต้านการจารกรรมแห่งสหราชอาณาจักร หรือ เอ็มไอไฟว์ (MI5) ได้เปิดเผยในช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้วว่ามีผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะบนลิงก์อิน (LinkedIn) และเฟซบุ๊ก (Facebook) กว่า 10,000 คน ตกเป็นเป้าหมายการจารกรรมข้อมูลความมั่นคงแห่งชาติผ่านบัญชีที่สร้างตัวตนปลอมขึ้นมา และในปีนี้ ทางการได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ที่มีชื่อว่า Think Before You Link เพื่อยกระดับการจัดการกับปัญหานี้ คิดก่อนลิงก์ (Think Before You Link) เป็นโครงการรณรงค์การตระหนักรู้ทางไซเบอร์ (Cyber Awareness) ที่เริ่มรณรงค์ตั้งแต่ปีก่อนเพื่อป้องกันการถูกล่อลวงจากบัญชีแปลกหน้าที่มีประวัติดีเกินไปบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเฉพาะ ลิงก์อิน (LinkedIn) ที่เป็นแพลตฟอร์ม (Platform) ยอดนิยมสำหรับคนทำงาน เป้าหมายของสายลับที่แฝงตัวบนลิงก์อิน (LinkedIn) ส่วนใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลที่มีสิทธิ์เข้าถึงระดับชั้นความลับขั้นสูง ปลอมตัวเป็นตัวแทนจากบริษัทที่อ้างว่าเป็นเครือข่ายคนทำงานหรือเครือข่ายอาชีพเฉพาะทางระดับโลก หลังจากทำความคุ้นเคยกับเป้าหมายแล้ว สายลับจะพาไปงานเสวนาปลอมที่จัดขึ้นในต่างประเทศเพื่อหลอกถามข้อมูลลับต่อไป แอปพลิเคชันในชื่อเดียวกับโครงการถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยต่อกรกับบัญชีที่มีตัวตนปลอมเหล่านี้…

ช่องโหว่ใหม่ iPhone โหลดมัลแวร์เอง แม้ไม่ได้เปิดเครื่อง

Loading

ใครใช้ iPhone อยู่ อ่านหัวข้อแล้วอย่าพึ่งตกใจไปครับ อ่านข้อมูลกันสักนิดก่อน . ด้วยฟีเจอร์ของ iOS รุ่นล่าสุด ทำให้ผู้ใช้ระบุตำแหน่งของ iPhone ได้ แม้ว่าเครื่องจะถูกปิดอยู่ นั่นเป็นเพราะชิปไร้สายบางตัวยังคงเปิดทำงาน เพื่อทำให้เจ้าของสามารถค้นหา iPhone ได้จากการถูกขโมย หรือสูญหายขณะเครื่องถูกปิด . แต่ตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวอาจกลายเป็นช่องโหว่ให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมโทรศัพท์ได้ โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งดาร์มสตัดท์ในเยอรมนีพบว่า ด้วยฟีเจอร์ค้นหาในขณะที่ปิดเครื่อง iPhone จำเป็นต้องเปิดใช้งานชิป Bluetooth ภายในอยู่ ซึ่งชิปตัวนี้จะเปิดใช้งานตลอด แม้เครื่องจะถูกปิด และนั่นอาจทำให้แฮกเกอร์มุดเข้ามาเพื่อติดตั้งมัลแวร์บนโทรศัพท์ได้ . นักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าสามารถติดตั้งมัลแวร์บนชิป Bluetooth ได้ แต่ว่าข้อมูลงานวิจัยส่วนใหญ่ยังอยู่ในเชิงทฤษฏี และขั้นตอนการแฮกนั้นไม่ได้ทำง่ายขนาดนั้น เพราะแฮกเกอร์จะต้องทำการเจลเบรก iPhone ก่อนถึงจะสามารถเข้าถึงชิป Bluetooth และใช้ประโยชน์จากมันได้ . นั่นแปลว่า เรามีโอกาสจะถูกแฮกเกอร์ก็ต่อเมื่อนำเครื่องไปฝาก หรือไปซ่อมที่ร้านที่ไม่น่าไว้ใจ รวมถึงช่วงที่โทรศัพท์สูญหายและไม่รู้ว่าก่อนเราจะตามเครื่องเจอ เครื่องถูกทำอะไรมาบ้างครับ แต่หากเครื่องอยู่กับตัวเราตลอด เป็นไปไม่ได้เลยที่แฮกเกอร์จะอาศัยช่องโหว่นี้เพื่อโจมตี . แต่ถึงกระนั้น นักวิจัยก็แค่ออกมาบอกว่า มันมีช่องโหว่นี้อยู่นะ และคงคาดหวังว่า Apple จะแก้ไขช่องโหว่ดังกล่าว…

มือระเบิดฆ่าตัวตายปากีสถานเตรียมบึ้มคนจีนซ้ำ

Loading

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีรถตู้ของครูชาวจีน และผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อ 3 คน ที่มหาวิทยาลัยเมืองการาจี เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2565 – ภาพซินหัว โกลบอลไทมส์/สื่อต่างประเทศ – กลุ่มก่อการร้ายในปากีสถานตามราวีไม่เลิก โดยหลังจากส่งหญิงสวมผ้าคลุมศีรษะเดินขึ้นรถตู้ ระเบิดบึ้มครูชาวจีนประจำสถาบันขงจื่อ ซึ่งนั่งอยู่ในรถจอดนอกมหาวิทยาลัยเมืองการาจีดับ 3 คน เมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ยังเตรียมส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงปฏิบัติการโหดอีกครั้ง แต่หน่วยข่าวกรองไหวทันเสียก่อน ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของปากีสถานบุกจับกุมหญิงคนหนึ่งในเมืองโฮชับ แคว้นบาลูจิสถาน หญิงผู้นี้วางแผนระเบิดฆ่าตัวตาย เล็งเป้าหมายขบวนรถของชาวจีน ซึ่งมาทำงานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน โดยเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์ระเบิดเป็นหลักฐานมัดตัว เจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นมือระเบิดแก๊งเดียวกับที่ก่อเหตุในเมืองการาจี คือกองทัพปลดปล่อยบาลูจิสถาน หรือบีแอลเอ (Balochistan Liberation Army : BLA) โดยการตามล่าสมาชิกคนอื่นๆ ที่ร่วมก่อเหตุ กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น การสกัดแผนโจมตีครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ (16 พ.ค.) วันเดียวกับที่นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ของจีนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน กำชับให้ปากีสถานนำตัวผู้ก่อเหตุสังหารชาวจีนในเมืองการาจี มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด พร้อมกับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถาบัน และพลเมืองของจีนในปากีสถาน…

‘ไบเดน’ ระบุเหตุยิงกราดซูเปอร์มาร์เก็ตรัฐนิวยอร์กเป็น ‘การก่อการร้ายในประเทศ’

Loading

President Joe Biden and first lady Jill Biden visit the scene of a shooting at a supermarket to pay respects and speak to families of the victims of Saturday’s shooting in Buffalo, N.Y.   ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าเหตุยิงกราดซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นการก่อการร้ายในประเทศ ที่มีต้นตอมาจากลัทธิแนวคิดสุดโต่งชาตินิยมผิวขาว ผู้นำสหรัฐฯ และสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้พบปะกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ในเหตุการณ์ที่ เพย์ตัน เกนดรอน คนร้ายชายผิวขาววัย 18 ปี ก่อเหตุยิงใส่ผู้คนที่ร้าน Tops Friendly…

เผยมือกราดยิงโบสถ์แคลิฟอร์เนียมีเชื้อสายจีน ก่อเหตุเพราะเกลียดไต้หวัน

Loading

  เอฟบีไอจ่อสอบเหตุกราดยิงโบสถ์รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ในฐานะคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชัง หลังพบว่ามือปืนมีเชื้อสายจีน และมีความโกรธแค้นไต้หวัน ความคืบหน้าเหตุคนร้ายบุกเข้าไปกราดยิงภายในโบสถ์เจนีวา เพรสไบทีเรียน (Geneva Presbyterian) เมืองลากูนา วูดส์ (Laguna Woods) ระหว่างที่คริสตชนชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวันประมาณ 30-40 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ กำลังรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน     ล่าสุด เจ้าหน้าที่เผยว่าผู้ก่อเหตุ คือ นาย เดวิด โจว วัย 68 ปี เป็นพลเมืองอเมริกันที่อพยพมาจากจีน ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพักอาศัยอยู่ในนครลาสเวกัส     จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า นายโจววางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดี มีการซ่อนกระเป๋าใส่ระเบิดขวด และกระสุนสำรองไว้ตามจุดต่าง ๆ รอบโบสถ์ ซึ่งหลังจากบุกเข้าไปด้านใน คนร้ายได้ใช้โซ่และกาวปิดล็อกประตูไว้ ก่อนเปิดฉากยิงด้วยปืนสั้น 2 กระบอก     ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ (FBI) เตรียมเปิดการสืบสวนในฐานะคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชัง หลังเชื่อว่าคนร้ายมีแรงจูงใจจากความเกลียดชังไต้หวัน โดยจากการตรวจค้นรถยนต์ พบบันทึกเขียนด้วยภาษาจีนกลาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาหมกมุ่นเรื่องไต้หวัน…