ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศกรมการปกครอง ยกเลิกเรียกสำเนาทะเบียนบ้าน-บัตรประชาชน รองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล

Loading

  ราชกิจจานุเบกษาเผยประกาศกรมการปกครอง ยกเลิกใช้สำเนาบัตรประชาชน-สำเนาทะเบียนบ้าน อำนวยความสะดวก ลดภาระประชาชน รองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2564 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกรมการปกครอง เรื่อง ยกเลิกการเรียกสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน โดยได้ระบุข้อความว่า ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ลงวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2560 ข้อ 17 ประกอบกับมติคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย Thailand 4.0 ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติให้ยกเลิกการใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อรองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 มีมติเห็นชอบมาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระของประชาชน (การไม่เรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้จากประชาชน) ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอ นั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการตามกฎหมายที่อยู่ในอำนาจของกรมการปกครองเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและมาตรการดังกล่าวอันเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และลดภาระของประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.…

FBI จับกุมอดีตหัวหน้าทีมคลาวด์ Ubiquiti ฐานขโมยข้อมูลลูกค้าแล้วเรียกค่าไถ่บริษัท

Loading

  FBI แถลงจับกุม Nickolas Sharp อดีตหัวหน้าทีมคลาวด์ (cloud lead) ของบริษัท Ubiquiti ที่ทำงานกับบริษัทตั้งแต่ปี 2018 ถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย FBI ระบุว่า Sharp ขโมยข้อมูลออกจากบริษัทไปเมื่อเดือนธันวาคม 2020 และใช้ข้อมูลเรียกค่าไถ่จากบริษัทเอง แถลงข่าวจับกุมไม่ได้ระบุชื่อบริษัทโดยตรง แต่เรียกเพียงว่า Company-1 ที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีในนิวยอร์ค แต่ก็ตรงกับ Ubiquiti และประวัติของ Sharp เองก็ทำงานกับ Ubiquiti ในช่วงนั้น โดยเมื่อเดือนมกราคมทาง Ubiquiti แจ้งเตือนลูกค้าว่าเซิร์ฟเวอร์พอร์ทัลถูกแฮก ตำแหน่งของ Sharp ทำให้เขามีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี AWS และ GitHub ของบริษัท รายงานระบุว่าเขาใช้บริการ VPN ชื่อว่า Surfshark จากที่บ้านเพื่อปิดบังไอพีในการดาวน์โหลดข้อมูล แต่เนื่องจากอินเทอร์เน็ตบ้านของเขาดับไปช่วงหนึ่งจึงทำให้ไอพีบ้านถูกเปิดเผย (รายงานไม่ได้บอกรายละเอียด คาดว่า VPN น่าจะหลุดและต่อกลับมาไม่ทันเมื่ออินเทอร์เน็ตกลับมาใช้งานได้ จึงทำให้โปรแกรมดาวน์โหลดต่อตรงเข้าเซิร์ฟเวอร์) จากนั้นเขาใช้ข้อมูลที่ดาวน์โหลดมาเรียกค่าไถ่จากบริษัทเป็นเงินคริปโต 50BTC และเมื่อบริษัทไม่ยอมจ่ายก็เปิดเผยข้อมูลออกสู่สาธารณะ…

ข้อมูลลูกค้า LINE Pay 133,484 รายจากทั้งญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย หลุดลง GitHub

Loading

  ข้อมูลลูกค้าที่เข้าร่วมโปรโมชั่นกับ LINE Pay ช่วงเดือนธันวาคม 2020 จนถึงเมษายน 2021 กว่า 133,484 ราย แบ่งเป็นจากญี่ปุ่น 51,543 ราย และที่เหลือ 81,941 ราย จากนอกญี่ปุ่น (ไต้หวันและไทย) ถูกอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ GitHub จากความผิดพลาดของพนักงานรีเสิร์ช และถูกเข้าถึงไป 11 ครั้ง ก่อนถูกลบ LINE ออกแถลงการณ์ขออภัย รวมถึงระบุรายละเอียดของข้อมูลและช่วงเวลาที่หลุดว่า ประกอบด้วย วัน เวลา และยอดเงินที่ทำการใช้จ่าย รวมถึงรหัสผู้ใช้และร้านค้า แต่ไม่มีข้อมูลบัญชี เบอร์โทร ที่อยู่ บัตรเครดิต หรือเลขบัญชีธนาคาร รวมถึงแจ้งเวลาที่ลบและแจ้งผู้ใช้ตามขั้นตอน พร้อมระบุว่าจะกำชับและฝึกฝนพนักงานให้เข้มงวดมากขึ้นต่อไป ส่วนผู้ใช้ในไทยแม้ยังไม่แน่ชัดว่าสงผลกระทบแค่ไหน แต่ควรตรวจสอบยอดใช้จ่ายในแอปให้ชัดเจนอีกครั้ง และเปลี่ยนรหัสผ่านแอป และรหัสผ่านสำหรับการทำธุรกรรมอย่างสม่ำเสมอเป็นปกติ ที่มา – LINE via The Register     ที่มา :…

ตำรวจแคนาดาเตือนประชาชนให้ระวังโจรใช้ AirTag เพื่อติดตามและขโมยรถของคุณ!

Loading

  ในแคนาดามีการค้นพบวิธีใช้งาน AirTag อุปกรณ์ติดตามสิ่งของของ Apple ซึ่งเป็นวิธีการที่ Apple อาจจะไม่เอามาโฆษณาประชาสัมพันธ์ล่าสุดจากตำรวจแคนาดาเผยว่า โจรได้ใช้วิธีการใหม่ในการติดตามรถหรูผ่านการใช้ AirTag พาหนะของผู้ใช้ เริ่มต้นในเดือนกันยายน ตำรวจภูมิภาคเมืองยอร์ก (York) ได้สืบสวนการใช้อุปกรณ์ติดตามขนาดเล็กบนพาหนะหรูที่ช่วยให้โจรสามารถติดตามสถานที่เพื่อที่จะขโมยพาหนะคันดังกล่าวได้     ตำรวจเผยว่า AirTag ถูกติดบริเวณสถานที่ที่มองเห็นได้ยากบนรถหรูที่จอดในที่การจราจรหนาแน่น ห้างสรรพสินค้าหรือที่จอดรถ จากนั้นจึงได้ติดตามรถคันดังกล่าวไปตามที่อยู่อาศัยของเจ้าของ และใช้อุปกรณ์เพื่อให้สามารถเข้าไปในรถได้ผ่านประตูฝั่งคนขับหรือผู้โดยสาร เมื่อโจรสามารถเข้าไปในรถได้ พวกมันจะติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถปรับแต่งระบบของรถให้ยอมรับกุญแจที่โจรนำมาด้วยและขับรถออกไป                                                            …

หน่วยข่าวเกาหลีใต้เตือนภัยไซเบอร์ในช่วงเลือกตั้งผู้นำ

Loading

  ศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (National Cyber Security Center – NCSC) หน่วยภายใต้กำกับดูแลของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (National Intelligence Service – NIS) ของเกาหลีใต้ได้เผยแพร่รายงานประจำปีที่่ระบุว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีรัฐบาลต่างชาติหนุนหลังจะพยายามจารกรรมข้อมูลของรัฐบาลเกาหลีใต้อย่างหนักหน่วงในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 มีนาคมปีหน้า NCSC คาดการณ์ในรายงานว่าจะในช่วงเวลาดังกล่าวแฮกเกอร์จะให้ความสนใจกับนโยบายต่อเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกาในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งเป็นพิเศษ แต่รายงานไม่ได้ระบุว่าประเทศใดอยู่เบื้องหลังแฮกเกอร์เหล่านี้ ในรายงานยังระบุด้วยว่า จำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีรัฐสนับสนุนในครึ่งแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีที่แล้ว นอกจากนี้ แฮกเกอร์จะพัฒนาขีดความสามารถในการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ขั้นสูงต่อโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและระบบไอที โดยจะผสมผสานการโจมตีที่มีเป้าหมายระหว่างบริษัทเอกชนและสถาบันวิจัยในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี NCSC ยังระบุอีกว่าแฮกเกอร์เกาหลีเหนือที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักข่าวกรองของรัฐบาล (Reconnaissance General Bureau – RGB) ได้พยายามโจรกรรมข้อมูลจากองค์กรด้านการทหาร การต่างประเทศ และการรวมชาติ ในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยเชื่อว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนการโจมตีทางไซเบอร์กับความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี สำหรับ RGB เป็นหน่วยงานข่าวหลักของรัฐบาลเกาหลีเหนือที่ถูกองค์การสหประชาชาติและกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ คว่ำบาตร ที่ผ่านมาสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรพยายามกล่าวหาว่ากลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus , Bluenoroff และ Andariel นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของ RGB ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มีเคยก่อเหตุโจมตีทางไซเบอร์อย่าง WannaCry…

Clearview AI จะได้รับสิทธิบัตรเทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าในสหรัฐฯ

Loading

  Politico ได้รายงานว่า Clearview AI บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยี AI ช่วยจดจำใบหน้าที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างสูงในยุโรป กำลังจะได้รับสิทธิบัตรจาก สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐฯ หรือ USPTO (US Patent and Trademark Office) ทาง Politico ได้ระบุว่า ทาง USPTO ได้ออกหนังสือแจ้งการรับจดทะเบียน (Notice of Allowance) ให้แก่ Clearview AI ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะอนุมัติให้ Clearview AI ยื่นจดสิทธิบัตรระบบ AI จดจำใบหน้าดังกล่่าวได้ เทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าของ Clearview AI นั้น เป็นระบบสแกนใบหน้าบุคคลในปรากฏในข้อมูลอินเทอร์เน็ตสาธารณะและฟุตเทจกล้อวิดีโอวงจรปิดขนาดใหญ่ เพื่อค้นหาบุคคลตามที่หน่วยงานของรัฐกำหนด     Hoan Ton-That ผู้ก่อตั้ง Clearview AI ได้กล่าวอ้างว่านี่เป็นสิทธิบัตรเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าชิ้นแรกที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ ซึ่งทางบริษัทจะขายเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่ได้รับการพัฒนานี้ให้แก่หน่วยงานของทางภาครัฐ รวมถึงหน่วยงานที่บังคับใช้กฏหมาย โดยหวังว่าจะช่วยเร่งการค้่นหาบุคคลที่ภาครัฐต้องการตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี…