นักการเมืองอเมริกันต้องการให้โจ ไบเดนสั่งแบน Honor เหมือนที่แบน Huawei!

Loading

  รายงานล่าสุดจาก Reuters เผยว่า นักการเมืองในสหรัฐอเมริกากลุ่มหนึ่งต้องการให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) เพิ่ม Honor อดีตบริษัทลูกของ Huawei อยู่ในแบล็กลิสต์ของอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ Honor สามารถส่งสมาร์ตโฟนที่มีบริการของ Google กลับสู่ท้องตลาดได้แล้ว Huawei ถูกสหรัฐอเมริกาตั้งแบล็กลิสต์ในปี 2019 โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ซึ่งอ้างว่าบริษัทเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ทำให้ Huawei ถูกตัดขาดจากการเข้าถึงสินค้าและเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ รวมถึงชิปและบริการจาก Google Honor ทำการตลาดแบบเน้นเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้บริโภควัยเยาว์ ที่มีข้อจำกัดเรื่องงบสำหรับการซื้อสมาร์ตโฟน รวมทั้งมีการขายสินค้าอื่น ๆ เช่น สมาร์ตวอตช์ และเกมมิงแล็ปท็อป ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา Huawei ขาย Honor เพื่อให้แบรนด์ลูกอย่าง Honor ได้เป็นอิสระจากการแบนของสหรัฐฯ การตัดสินใจดังกล่าวทำให้ในที่สุด Honor หลุดออกจากการแบนของสหรัฐฯ และสามารถทำการค้ากับบริษัทอย่าง Qualcomm, Google, Microsoft, AMD, Intel,…

ระบบสาธารณสุขอิสราเอลถูกโจมตีทางไซเบอร์อย่างหนักหน่วง

Loading

  เจ้าหน้าที่ด้านไซเบอร์และบุคลากรทางการแพทย์ของอิสราเอลเผยว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลและสถาบันทางการแพทย์หลายแห่งในอิสราเอลถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ แต่เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่สามารถจัดการกับการโจมตีที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ศูนย์การแพทย์ฮิลเลล ยาฟเฟ (Hillel Yaffe Medical Center) ในฮาเดรา ทางตอนเหนือของกรุงเทลอาวีฟ เป็นหนึ่งในสถาบันทางการแพทย์ที่ใช้เวลาหลายวันเพื่อฟื้นตัวจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 ตุลาคม) ที่ระบบเครือข่ายของโรงพยาบาลหยุดชะงัก โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคกำลังพยายามกู้ระบบให้กลับมาใช้งานได้ ในระหว่างนี้บุคลากรจำเป็นต้องใช้ระบบกระดาษในการรับคนไข้ไปพลางก่อน หลายแหล่งเชื่อว่าการฟื้่นตัวอาจใช้เวลาหลายเดือน ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าใครหรือกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังการโจมตีที่เกิดขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ริเริ่มกระบวนการสืบสวนแล้ว ที่มา Haaretz —————————————————————————————————————————————– ที่มา : Beartai            / วันที่่เผยแพร่  17 ต.ค.2564 Link : https://www.beartai.com/news/itnews/819308

อังกฤษสุดอาลัย ‘เดวิด เอมิส’ ส.ส. 40 ปี ถูกแทงดับ รายที่ 2 ในรอบ 5 ปี

Loading

  ชาวอังกฤษตกตะลึงและเสียใจ ‘เซอร์ เดวิด เอมิส’ ส.ส. พรรครัฐบาล คอนเซอร์เวทีฟ ที่ทำงานมานับ 40 ปี ถูกมือมีดกระหน่ำแทงจนเสียชีวิตอย่างสุดสลดในโบสถ์ ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก เจ้าชายวิลเลียม ดัชเชสเคทแสดงความเสียพระทัย ขณะที่ รมว.มหาดไทยอังกฤษ สั่งสำนักงานตำรวจทั้งหมดทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เหล่า ส.ส.ทันที ตำรวจชี้เหตุฆาตกรรมครั้งนี้ เป็นการก่อการร้ายเชื่อมโยงกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ขณะที่เซอร์เดวิด เอมิส นับเป็นส.ส.อังกฤษรายที่ 2 ที่ถูกสังหารในรอบ 5 ปี   ชาวอังกฤษต้องช็อกเสียใจอย่างมาก เมื่อต้องสูญเสีย เซอร์เดวิด เอมิส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วัย 69 ปี ซึ่งเป็นที่รักและเป็น ส.ส. ‘น้ำดี’ ของอังกฤษ จากการมุ่งมั่นทุ่มเททำงานการเมือง เป็น ส.ส. มายาวนานเกือบ 40 ปี แต่ต้องมาถูกชายคนร้ายใจคอโหดเหี้ยมใช้มีดกระหน่ำแทงจนเสียชีวิตที่โบสถ์เบลเฟรนส์ เมโธดิสต์ ในมณฑลเอสเซกซ์ เมื่อช่วงเที่ยง เวลา 12.05 น.…

ไฟล์ Windows ตกเป็นเหยื่ออันดับ 1 ของมัลแวร์เรียกค่าไถ่แบบขาดลอย

Loading

  รายงานการศึกษามัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่รวบรวมจาก 232 ประเทศของ VirusTotal ที่เผยแพร่ในเดือนตุลาคม 2564 พบว่าประเภทไฟล์ที่ได้รับผลกระทบจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ถึงร้อยละ 95 คือไฟล์ประเภท executables (.exe) หรือ dynamic link libraries (.dll) บนระบบปฏิบัติการ Windows ในคอมพิวเตอร์ ขณะที่อีกร้อยละ 2 อยู่บน Android ประเทศที่เป็นเป้าการโจมตีของมัลแวร์เรียกค่าไถ่มากที่สุดคืออิสราเอล ซึ่งสูงขึ้นจากเดิมถึง 6 เท่า รองลงมาคือ เกาหลีใต้ เวียดนาม จีน และสิงคโปร์ ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่แพร่ระบาดอยู่บนโลกออนไลน์ถึง 130 ตระกูล โดยตระกูลที่มีรายงานการโจมตีสูงที่สุดคือ Gandcrab ซึ่งมีอัตราการวิวัฒนาการอย่างสูงในช่วงปีที่แล้วถึงไตรมาสแรกของปีนี้ รองลงมาคือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ในตระกูล Babuk ที่ทำยอดการโจมตีสูงช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้สนใจสามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่ ที่มา Windows Central, VirusTotal   —————————————————————————————————————————————– ที่มา :…

ผู้ว่ารัฐมิสซูรีประกาศดำเนินคดีนักข่าวว่าแฮกเว็บ หลังนักข่าวพบว่ามีข้อมูลส่วนตัวในโค้ด HTML บนเว็บรัฐ

Loading

  Mike Parson ผู้ว่ารัฐมิสซูรีกล่าวหานักข่าวของ St. Louis Post-Dispatch สำนักข่าวท้องถิ่นในรัฐ ว่าเป็นผู้แฮกเว็บ หลังนักข่าวพบว่าเว็บการฝ่ายการศึกษาระดับประถมและมัธยมของรัฐมีข้อมูลส่วนตัวของครูฝังอยู่ในโค้ด HTML จึงแจ้งผู้ดูแลก่อนจะรายงานช่องโหว่นี้ออกมาภายหลังจากผู้ดูแลแก้ไขแล้ว ตัว Parson ระบุว่าผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ถอดรหัส (decode) โค้ดข้อมูลที่ฝังอยู่ใน HTML การเข้าถึงข้อมูลจึงเป็นการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และนักข่าวก็เข้าถึงข้อมูลครูอย่างน้อย 3 คน และตอนนี้ผู้ดูแลเว็บของรัฐได้ถอดหน้าเว็บดังกล่าวไปแล้ว ประเด็นนี้ทำให้ Parson ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไร้ความสามารถในด้านเทคโนโลยี ไม่เข้าใจว่าการดูซอร์สโค้ด HTML บนหน้าเว็บไม่ใช่การแฮกเว็บ แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะผู้พัฒนาไม่ตรวจสอบสิทธิ์บนฝั่งเซิร์ฟเวอร์ก่อนใส่ข้อมูลเข้าไปใน HTML ของหน้าเว็บเอง ทวีตของเขาถูกโควตไปเกือบ 6,000 ครั้งส่วนใหญ่เป็นการวิจารณ์ว่าการพยายามดำเนินคดีเช่นนี้ไม่สมเหตุสมผล   ที่มา – Missouri Independent —————————————————————————————————————————————– ที่มา : Blognone by lew  / วันที่่เผยแพร่  15 ต.ค.2564 Link : https://www.blognone.com/node/125285

กูเกิลส่งคำเตือนให้ผู้ใช้ 50,000 ราย ผู้ตกเป็นเป้าของแฮกเกอร์ที่มีรัฐบาลหนุนหลัง โดยเฉพาะในอิหร่าน

Loading

  ทีม Threat Analysis Group (TAG) ของกูเกิล เผยว่าได้ส่งคำเตือนไปยังผู้ใช้งานกว่า 50,000 ราย ผู้ซึ่งตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ด้วยวิธีฟิชชิ่งและฝังมัลแวร์ กูเกิลระบุว่าคนที่ได้รับคำเตือน ไม่ได้หมายความว่าบัญชีถูกแฮ็กไปแล้ว เพราะกูเกิลได้จัดการเพื่อหยุดการโจมตีบางอย่างไปแล้ว แต่เป็นการส่งคำเตือนให้รู้ว่าผู้ใช้งานนั้นๆ กำลังตกเป็นเป้าหมาย โดยตัวเลขเป้าหมายโจมตีในปีนี้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเกือบ 33% ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มแฮกเกอร์ส่วนใหญ่มาจากรัสเซีย อย่างเช่นกลุ่ม Fancy Bear แต่ล่าสุดไม่ใช่แค่รัสเซีย แต่มีถึงราวๆ 50 ประเทศที่มีกลุ่มแฮกเกอร์ทำงานกันในแต่ละวัน ตัวอย่างกลุ่มแฮกเกอร์ที่กูเกิลหยิบยกมาในครั้งนี้คือ APT35 จากอิหร่าน ที่ทำการฟิชชิ่งเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 เป้าหมายคือบุคคลที่ทำหน้าที่หาเสียง หรือทำงานเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อทำการจารกรรมข้อมูลที่ส่งผลประโยชน์ต่อรัฐบาลอิหร่าน วิธีการคือ อัพโหลดแอป VPN ปลอมบน Google Play Store ซึ่งฝังสปายแวร์ เอาข้อมูลจำพวก การโทร ข้อความ ผู้ติดต่อ โลเคชัน ซึ่งกูเกิลบอกว่าได้ลบแอปดังกล่าวทิ้งไปก่อนจะมีใครดาวน์โหลดมันไปใช้ APT35 ยังใช้ API Telegram…