ครม. เห็นชอบขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอีก 1 ปี

Loading

  ครม. เห็นชอบขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอีก 1 ปี มีผลใช้บังคับ 1 มิ.ย.65 หวังลดผลกระทบทุกกลุ่มในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ มีมติเห็นชอบในหลักการ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานและกิจการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาฯ พ.ศ.2563 ในส่วนที่กำหนดระยะเวลาใช้บังคับ ทำให้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ทั้งนี้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เป็นกฎหมายกลางที่กำหนด หลักเกณฑ์ กลไก หรือมาตรการกำกับดูแลเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพ สร้างความเป็นไปตามมาตรฐานสากล และมีมาตรการเยียวยาเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากการถูกละเมิดอย่างเหมาะสม แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและรุนแรงยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมเป็นอย่างมาก   ดังนั้น…

ฮ่องกงเอาจริง หาช่องสู้เฟกนิวส์

Loading

  นางแคร์รี แลม ผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีนกล่าวในการแถลงข่าววันที่ 4 พ.ค.ว่ากำลังดำเนินการออกกฎหมายว่าด้วยข่าวลวง เพื่อจัดการกับข้อมูลอันเป็นเท็จ ข้อมูลที่สร้างความเกลียดชังและการโกหกภายใต้ทิศทางของรัฐบาลจีน ฮ่องกงบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับสมบูรณ์ในปี 2563 พร้อมยังผลักดันให้ผู้รักชาติได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในการบริหารฮ่องกง การยกเครื่องสถานีวิทยุโทรทัศน์ฮ่องกง (RTHK) ครั้งใหญ่ ซึ่งเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร โดยแต่งตั้งข้าราชการใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านสื่อสารมวลชนถูกมองว่าเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลจะควบคุมสื่อในไม่ช้า และจะตามมาด้วยภาคส่วนอื่นเช่นการศึกษา โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลว่ารัฐบาลต่างๆ จัดการกับประเด็นนี้อย่างไร โดยยืนยันจะจัดการอย่างจริงจังเพราะข่าวลวงสร้างความเสียหายกับคนจำนวนมาก โดยยังไม่มีกรอบเวลาในการออกกฎหมาย.   ————————————————————————————————————————————– ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์    / วันที่เผยแพร่  5 พ.ค.2564 Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2084413?utm_source=PANORAMA_TOPIC

เกษตรกรไถเพลิน ทำเขตแดนประเทศเคลื่อน ฝรั่งเศส-เบลเยียม

Loading

  เกษตรกรไถเพลิน – บีบีซี รายงานว่า เกษตรกรชาวเบลเยียมคนหนึ่งสร้างปัญหาพรมแดนระหว่างประเทศโดยไม่ตั้งใจ เพราะถอนเสาปักปันเขตแดนเบลเยียม–ฝรั่งเศส ทำให้เขตแดนเคลื่อนไปจากจุดเดิม 2.29 เมตร ชาวไร่คนนี้รำคาญหินก้อนหนึ่งที่ขวางทางเส้นทางรถไถ จึงย้ายหินก้อนนี้ให้พ้นทางโดยไม่รู้เลยว่าก้อนหินเป็นเสาปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ     แต่นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นคนหนึ่งสังเกตว่าเสาปักปันเขตแดนถูกย้ายไป 2.29 เมตรและตำแหน่งใหม่ตั้งอยู่ในดินแดนของฝรั่งเศส เรื่องวุ่นวายนี้ไม่ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับสากล แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้กับทั้ง 2 ฝ่าย นายดาวิด ลาโวซ์ นายกเทศมนตรีเมืองแอคเคอลีนเนอ กล่าวติดตลกกับสถานีโทรทัศน์เตเอฟเอิงของฝรั่งเศสว่าเกษตรกรคนนี้ทำให้ดินแดนเบลเยียมใหญ่ขึ้น แต่ฝรั่งเศสเล็กลงและนายกเทศมนตรีเมืองบูสินี ซูร์ ค็อกของฝรั่งเศสไม่เห็นด้วยแน่นอน     การย้ายเสาปักปันเขตแดนจึงเป็นความคิดที่ไม่ค่อยดีนักและสร้างเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเจ้าของที่ดินเอกชนทั้ง 2 ประเทศ ส่วนนางโอเคลีย์ เวลโลเนค นายกเทศมนตรีเมืองเพื่อนบ้านของเบลเยียมให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ขันกับหนังสือพิมพ์ลา วัวซ์ ดู นอร์ ว่า “เราควรหลีกเลี่ยงสงครามชายแดนครั้งใหม่นะคะ” พรมแดนระหว่างฝรั่งเศสและเบลเยียมมีระยะทาง 620 กิโลเมตร ตามสนธิสัญญาคอร์เทร ซึ่งลงนามในปี 2363 หลังจากจักพรรดินโปเลียนพ่ายแพ้ศึกสมรภูมิวอเตอร์ลูได้ 5 ปี หินก้อนนี้เป็นสัญลักษณ์ปักปันเขตแดนครั้งแรกในปีค.ศ. 1819  …

รัฐบาลทหารเมียนมาชี้ทีวีดาวเทียม “เป็นภัยความมั่นคง”

Loading

  การรับชมโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเมียนมาแล้ว ผู้ใดฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษจำคุกนานถึง 1 ปี และปรับเงินมากกว่า 10,000 บาท สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ว่า สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมียนมา ( เอ็มอาร์ทีวี ) ประกาศว่า นับจากนี้เป็นต้นไป โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเป็นบริการผิดกฎหมายในประเทศ การรับชมโทรทัศน์ผ่านกล่องรับสัญญาณดาวเทียมต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 จ๊าด ( ราว 10,025.65 บาท )   Yup, you heard it right. 1 year imprisonment and 500,000 MMK fine for having a satellite dish/receiver! 'စေတနာကောင်း' ဖြင့်အသိပေးခြင်းတဲ့ pic.twitter.com/WAcVQeBn23 — M…

จีนสร้างฐานข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฝึก “AI” รู้จักรุ่นเครื่องบิน ตรวจจับเรือรบ

Loading

  กลุ่มสื่อต่างประเทศ รายงาน (1 พ.ค.) สภาบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (Chinese Academy of Sciences) เปิดเผยว่า “FAIR1M” ฐานข้อมูลภาพการสำรวจระยะไกลความละเอียดสูงชุดใหม่ มีขนาดใหญ่กว่าชุดข้อมูลที่คล้ายกันที่ใช้ในประเทศอื่น ๆ หลายสิบหรือหลายร้อยเท่า ศาสตราจารย์ฟู่ คุน Fu Kun นักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันวิจัยข้อมูลการบินและอวกาศของสถาบันในปักกิ่งได้รับเงินทุนจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน ในการใช้ดาวเทียมสังเกตการณ์ “Gaofen” สร้างฐานข้อมูลที่มีภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูงมากกว่า 15,000 ภาพ โดยมีฉากประกอบข้อมูล 1 ล้านภาพ ซึ่งเทียบกับฐานข้อมูล VEDAI ของฝรั่งเศสซึ่งมีเพียงประมาณ 3,600 ภาพ ฐานข้อมูล FAIR1M มีข้อมูลโดยละเอียดของสถานที่มากกว่าล้านแห่งในประเทศจีน และสามารถรู้จักข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพ เช่น ลักษณะเครื่องบินแต่ละรุ่น และสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างเรือรบกับเรือโดยสาร ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ทหารใช้ดาวเทียมสอดแนมเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ จนเมื่อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างรวดเร็ว ทำให้ภาคเอกชนสามารถนำข้อมูลดาวเทียมไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เช่น การนับจำนวนรถบรรทุกสินค้าบนท้องถนนในเมือง หรือแม้แต่ในระดับประเทศ ก็สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานได้…

รายงานสหรัฐฯ ระบุ มีการโจมตีจากไส้ศึกในกองกำลังอัฟกันเพิ่มขึ้น 82 เปอร์เซ็นต์

Loading

  รายงานของทางการสหรัฐฯ ระบุว่า มี “การโจมตีจากไส้ศึกภายใน” ต่อกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลอัฟกานิสถานเพิ่มขึ้น 82 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ทำให้มีบุคลากรถูกสังหาร 115 คน ได้รับบาดเจ็บ 39 คน เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้ตรวจการพิเศษเพื่อการฟื้นฟูอัฟกานิสถาน หรือ SIGAR รายงานต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า ยอดผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตของกองกำลังป้องกันและความมั่นคงแห่งชาติอัฟกัน หรือ ANDSF มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ผู้ตรวจการพิเศษฯ ไม่ได้รับอนุญาตให้ระบุยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตของกองกำลังของทางการอัฟกันทั้งหมดในรายงานได้ เนื่องจากกองกำลังสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน เก็บข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับตามคำขอของรัฐบาลอัฟกานิสถาน รายงานดังกล่าวระบุว่า กองกำลังของทางการอัฟกันถูกโจมตีจากไส้ศึกภายใน 31 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 1 เมษายน ทำให้มีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยกลุ่มตาลิบันที่แฝงตัวเป็นตำรวจหรือทหารอัฟกันอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีส่วนใหญ่     ผู้ตรวจการพิเศษฯ ส่งรายงานไตรมาสดังกล่าวขณะที่กองกำลังสหรัฐฯ ราว 2,500 นายกำลังเตรียมการเริ่มถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานในวันเสาร์นี้ โดยมีกำหนดถอนกำลังทั้งหมดออกภายในวันที่ 11 กันยายนเพื่อยุติสงครามที่ยาวนานที่สุดของสหรัฐฯ ลูกจ้างของกระทรวงกลาโหมเกือบ 17,000 คน…