สหรัฐคุมเข้มก่อนตัดสินคดี ตร.ใช้เข่ากดคอชายผิวดำ

Loading

  มินนีแอโพลิส 18 เม.ย.- เมืองมินนีแอโพลิสและอีกหลายเมืองในสหรัฐเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เตรียมรับมือการประท้วงและการก่อเหตุไม่สงบก่อนที่คณะลูกขุนจะตัดสินคดีนายเดเรค เชาวิน อดีตตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำเสียชีวิต ศาลเมืองมินนีแอโพลิสจะให้แถลงปิดคดีในวันจันทร์ในคดีที่นายเชาวินวัย 45 ปีใช้เข่ากดคอนายฟลอยด์วัย 46 ปีนาน 9 นาที 29 วินาที ก่อนที่เขาเสียชีวิตในวันที่ 25 พฤษภาคมปีก่อน โรงเรียนรัฐในเมืองมินนีแอโพลิสจะเริ่มสอนทางไกลในวันพุธหน้าไปจนหมดสัปดาห์ ยกเลิกการแข่งกีฬาทุกอย่าง ตำรวจติดตั้งรั้วลวดหนามรอบสำนักงาน กองกำลังพิทักษ์แห่งชาติถูกส่งไปประจำการตามย่านในกลางเมือง นายกเทศมนตรีเผยว่า ระดมกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติ 2,000 นายและตำรวจ 1,100 นายมาเตรียมพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนที่นครลอสแอนเจลิส ตำรวจเตรียมเสริมกำลังและเตือนคนบางกลุ่มอย่าก่อกวนการชุมนุมอย่างสงบ นครซานฟรานซิสโกยกเลิกวันลาของตำรวจและเตรียมเสริมกำลัง เช่นเดียวกับตำรวจแอตแลนตาที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ทุกระดับให้เตรียมรับมือเหตุการณ์ทันที ด้านตำรวจนครนิวยอร์กเผยว่า มีการประท้วงวันละ 10-20 จุดทุกวันมาตั้งแต่ปีก่อน ขอร้องผู้อยากแสดงความเห็นให้ใช้สันติ อย่าทำลายข้าวของ ขณะที่ตำรวจกรุงวอชิงตันดีซีจะให้ตำรวจทำงานเป็นกะ ๆ ละ 12 ชั่วโมงตั้งแต่วันจันทร์.   ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา : สำนักข่าวไทย      /…

สายการบินการูดา อินโดฯ ระงับขนส่งสมาร์ทโฟน “วีโว่” หลังมีรายงานเครื่องไฟไหม้ที่ฮ่องกง

Loading

    สายการบินการูดา อินโดฯ ระงับขนส่งสมาร์ทโฟน “วีโว่” หลังมีรายงานเครื่องไฟไหม้ที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 15 เมษายน บรรดาสื่ออินโดนีเซีย อย่างอันตารานิวส์ และรีพับลิกา อินโดนีเซีย ต่างรายงานข่าวว่า สายการบินการูดา อินโดนีเซีย ได้ออกประกาศระงับการขนส่งสมาร์ทโฟนยี่ห้อ “วีโว่” หลังมีรายงานว่า สมาร์ทโฟน วีโว่ Y20 เกิดไฟไหม้ขึ้นระหว่างการขนส่งที่สนามบินฮ่องกง เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา โดยนายเออร์ฟาน ซาปุตรา ผู้อำนวยการบริหารของการูดา เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางสายการบินได้ระงับบริการขนส่งสำหรับมือถือบางรุ่น หลังเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นที่ฮ่องกง และว่า การขนส่งมือถือยี่ห้อ วีโว่ ของจีน ทุกรุ่นจะถูกระงับลงชั่วคราว ขณะรอผลการสอบสวนของทางการฮ่องกงออกมา ข่าวระบุว่า จดหมายที่แจ้งไปยังพนักงานขนส่งสินค้าทางอากาศของสายการบิน ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่า จะไม่มีสมาร์ทโฟนของวีโว่ถูกโหลดขึ้นเครื่องบิน ซึ่งนายซาปุตรากล่าวว่า การระงับการขนส่งชั่วคราวดังกล่าวมีขึ้นตามมาตรการป้องกันเพื่อให้แน่ใจว่าการบินของสายการบินจะปลอดภัย และนโยบายดังกล่าวก็มีสายการบินหลายสายทั่วโลกนำไปใช้แล้ว และจะมีไปจนกว่าผลการสอบสวนของทางการฮ่องกงจะออกมา ขณะที่ตัวแทนของวีโว่ ในอินโดนีเซีย แถลงยืนยันว่าเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นจริง และกำลังตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่   ———————————————————————————————————————————————————— ที่มา :…

สหรัฐประกาศชัด หน่วยข่าวกรองรัสเซียแฮ็ก SolarWinds, แบน 6 บริษัทรัสเซียที่เกี่ยวข้อง

Loading

  นอกจากสงครามการค้ากับบริษัทจีนแล้ว ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการตอบโต้รัสเซียหลายข้อ จากกรณีการแฮ็ก SolarWinds และการโจมตีไซเบอร์อื่นๆ กรณีการแฮ็ก SolarWinds ครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานจำนวนมาก ถูกพูดกันมานานแล้วว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย แต่วันนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศอย่างเป็นทางการว่า หน่วยงานข่าวกรองของรัสเซีย 3 หน่วยคือ Federal Security Service (FSB), Russia’s Main Intelligence Directorate (GRU), Foreign Intelligence Service (SVR) อยู่เบื้องการโจมตีไซเบอร์ต่อสหรัฐหลายครั้ง สหรัฐชี้ว่า SVR คือหน่วยงานที่แฮ็กระบบ SolarWinds และยังขโมยซอฟต์แวร์ตรวจสอบการโจมตีไซเบอร์ไปจากบริษัทความปลอดภัยของสหรัฐอีกแห่งที่ไม่ระบุชื่อ   นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังเผยชื่อหน่วยงาน-บริษัทเทคโนโลยีรัสเซีย 6 ราย ที่สนับสนุนงานข่าวกรองของรัสเซีย ได้แก่ ERA Technopolis ศูนย์วิจัยที่ได้เงินสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ทำงานให้ GRU Pasit, AO (Pasit) บริษัทเอกชนที่ทำงานให้ SVR Federal State Autonomous Scientific Establishment…

สหรัฐขับไล่จนท.ทูต-คว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่

Loading

  รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศขับไล่นักการทูตรัสเซีย 10 คน ออกนอกประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมกับคว่ำบาตรบุคคลและนิติบุคคลรัสเซีย อีกกว่า 30 ราย เพื่อเป็นการลงโทษ การแทกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว และการเจาะล้วงข้อมูลหลายหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ว่า การขับไล่นักการทูตและคว่ำบาตรรัสเซีย ของรัฐบาลสหรัฐ เป็นไปตามความคาดหมาย ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และนับเป็นมาตรการตอบโต้เครมลินครั้งแรก ต่อการเจาะล้วงข้อมูล ซึ่งเชื่อกันว่าทีมแฮกเกอร์รัสเซีย สามารถเข้าถึงข้อมูลลับ ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอย่างน้อย 9 แห่ง นอกเหนือจากการเจาะล้วงข้อมูลแล้ว เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อนุมัติปฏิบัติการ เพื่อช่วยเหลืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ารัสเซียหรือใครอื่น เปลี่ยนแปลงผลคะแนน หรือพลิกผลการเลือกตั้ง     มาตรการที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี รวมถึงการคว่ำบาตรธุรกิจรัสเซีย 6 บริษัท ที่สนับสนุนปฏิบัติการโจมตีไซเบอร์ บุคคลและนิติบุคคล…

ฝรั่งเศสแนะพลเมืองเร่งอพยพออกจากปากีสถาน หลังกระแสต่อต้านชาวเมืองน้ำหอมนับวันยิ่งรุนแรง

Loading

  ฝรั่งเศสแนะพลเมืองเร่งอพยพออกจากปากีสถาน หลังกระแสต่อต้านชาวเมืองน้ำหอมนับวันยิ่งรุนแรง เมื่อวันที่ 15 เมษายน สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศปากีสถาน ประกาศแนะนำให้พลเมืองชาวฝรั่งเศสและบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส อพยพออกจากปากีสถาน หลังจากกระแสประท้วงต่อต้านฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้ถูกโหมกระพือรุนแรงหนักมากขึ้นในปากีสถาน จนทำให้ในหลายพื้นที่กลายเป็นอัมพาต ในอีเมลของสถานทูตฝรั่งเศสที่ส่งถึงพลเมืองฝรั่งเศสที่พำนักอยู่ในปากีสถานระบุว่า เนื่องจากมีการคุกคามต่อผลประโยชน์ฝรั่งเศสในปากีสถานอย่างร้ายแรง จึงขอแนะนำให้พลเมืองและบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสอพยพออกจากปากีสถานไปก่อนเป็นการชั่วคราวด้วยเที่ยวบินพาณิชย์ที่ยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ความรู้สึกต่อต้านฝรั่งเศสในปากีสถานทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง ได้ออกมาแสดงความสนับสนุนสิทธิเสรีภาพสื่อของนิตยสารฉบับหนึ่ง ที่กระทำการตีพิมพ์ซ้ำภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม ซึ่งชาวมุสลิมส่วนใหญ่ต่างรู้สึกว่าเป็นการดูหมิ่นศาสนาอิสลาม   ————————————————————————————————————————————————————- ที่มา : มติชนออนไลน์     /  วันที่เผยแพร่  15 เม.ย.2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2674819

รายงานความมั่นคงสหรัฐฯจัดลำดับ จีน รัสเซีย อิหร่าน คานอิทธิพลอเมริกาบนเวทีโลก

Loading

  สำนักงานผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ The Office of the Director of National Intelligence (ODNI) ซึ่งมีองค์กรหลายแห่งเช่น CIA หรือหน่วยข่าวกรองกลาง อยู่ภายใต้สังกัดได้จัดลำดับในรายงานประเมินด้านความมั่นคงในปีล่าสุดว่า จีน รัสเซีย อิหร่าน และ เกาหลีเหนือนั้นล้วนท้าทายอิทธิพลของอเมริกาบนเวทีโลก รายงานดังกล่าวมีการเรียบเรียงโดยหน่วยข่าวกรองใหญ่ของสหรัฐฯซึ่งจะทำการนำเสนอข้อมูลสำคัญๆด้านความมั่นคงต่อวุฒิสภาทุกปีๆ แต่เมื่อปี 2019 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์วิจารณ์การประเมินของหน่วยข่าวกรองว่าไม่เด็ดขาดและดีพอ จึงทำให้ไม่มีการรายงานถึงภัยคุกคามต่างๆ ในปี 2020 ต่อวุฒิสภา เพราะฉะนั้น รายงานการประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงของปีนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก       จีนคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด   รายงานของปี 2021 ระบุว่าปัจจุบัน จีนคือภัยคุกคามอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ โดยอธิบายว่า “รัฐบาลจีนใช้กลยุทธ์แซกแทรงความสัมพันธ์ที่ดีของอเมริกากับประเทศพันธมิตร และ พยามสร้างบรรทัดฐานโลกใหม่ที่สนับสนุนแนวคิดการปกครองระบอบเผด็จการตามแบบจีน” ท่ามกลางความตรึงเครียดจากแข่งขันกันเป็นมหาอำนาจโลกระหว่างจีนและสหรัฐฯนั้น รายงานระบุว่า จีนพร้อมที่เพิ่มขนาดกองทัพทหารในประเทศต่างๆ และการแสดงการแสนยานุภาพของขีปนาวุธต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงการพัฒนาและสั่งสมคลังแสงของหัวอาวุธนิวเคลียร์ที่มีความทันสมัยและอันตรายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อที่จีนจะสามารถโต้กลับด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศตนเอง หากถูกโจมตีด้วยอาวุธชนิดดังกล่าวจากประเทศอื่น ส่วนการแข่งขันทางด้านอวกาศและเทคโนโลยี สหรัฐฯชี้ว่าสถานีอวกาศของจีนที่จะทำการโคจรรอบโลกต่อไปในระยะเวลาสามปีนั้นเป็นภัยคุกคามสำคัญ…