‘ไบโอเมตริก’ ตรวจจับต่างชาติติดแบล็คลิสต์แอบลักลอบเข้าประเทศ

Loading

“ไบโอเมตริก” ตรวจจับต่างชาติติดแบล็คลิสต์แอบลักลอบเข้าประเทศ หลังเปลี่ยนชื่อ-เปลี่ยนพาสปอร์ต หวังตบตาเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.62 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. ร่วมกันแถลงจับกุมชาวต่างชาติติดแบล็คลิสท์ แอบลักลอบเข้าประเทศ หลังทำการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนพาสปอร์ต หวังตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ถูกตรวจสอบด้วยระบบไบโอเมตริก (Biometrics) หลังขอต่อวีซ่า เพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีกครั้ง โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวที่มีรายชื่อติดแบ็ลลิสท์แอบลักลอบเข้าประเทศ จำนวน 13 คน เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้ 1 คน สัญชาติจีน 4 คน สัญชาติเบลเยี่ยม 1 คน สัญชาติอียิปต์ 2 คน สัญชาติอุซเบก 2 คน สัญชาติเมียนม่า 1 สัญชาติอินเดีย 1 คน และสัญชาติซีเรีย อีก…

กองทัพอากาศสหรัฐฯ ย้ายซอฟต์แวร์ควบคุมอาวุธนิวเคลียร์จาก floppy disk ไป SSD ในที่สุด

Loading

ภาพระบบ SACCS เมื่อปี 2016 กองทัพอากาศสหรัฐฯ รันซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมอาวุธนิวเคลียร์บนแผ่นฟลอบปี้ดิสก์มาตลอด และเคยประกาศจะยกเลิกใช้งานในปี 2017 ล่าสุดทางกองทัพก็ยืนยันว่าย้ายซอฟต์แวร์ไปอยู่บน SSD ความปลอดภัยสูงเรียบร้อยแล้วตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ซอฟต์แวร์ Strategic Automated Command and Control System (SACCS) ทำงานอยู่บนเครื่อง IBM Series/1 ที่วางขายตั้งแต่ช่วงปี 1976 เป็นคอมพิวเตอร์ 16 บิตที่มีหน่วยความจำ 16-100 กิโลไบต์เท่านั้น ทางกองทัพอากาศยืนยันว่ามีแผนอัพเกรด SACCS ทั้งระบบ แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลว่ากระบวนการอัพเกรดเป็นอย่างไรและมีกำหนดเสร็จเมื่อใด อย่างไรก็ดีตัวซอฟต์แวร์ที่รันบน SACCS นั้นมีการพัฒนาต่อเนื่อง ————————————– ที่มา : Blognone / 21 October 2019 Link : https://www.blognone.com/node/112641

ชิลีขยายเวลาเคอร์ฟิว หลังยอดตายพุ่ง 7 ศพ

Loading

ทางการชิลีต้องประกาศขยายเวลาเคอร์ฟิวในกรุงซานติอาโกเป็นวันที่ 2 หลังเกิดเหตุกลุ่มปล้นชิงทรัพย์จุดไฟเผาโรงงานเย็บผ้าชานเมืองหลวง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมเป็น 7 รายแล้ว ประธานาธิบดีบราซิลได้จัดการประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐในช่วงเย็นวันที่ 20 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับยืนยันความจำเป็นที่จะต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา และส่งทหารหลายพันนายไปประจำการอยู่บนท้องถนน “ประชาธิปไตยไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของสิทธิ แต่ยังมีพันธะกรณีที่จะป้องกันในทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดการกับผู้ที่ต้องการทำลายมัน”ประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา ของชิลีระบุ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารต้องยิงแก๊สน้ำตารวมถึงปืนฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุมในกรุงซานติอาโก หลังกลุ่มผู้ประท้วงก่อเหตุเนื่องจากไม่พอใจที่มีการขึ้นค่ารถไฟฟ้ารวมถึงไม่พอใจต่อความไม่เท่าเทียมทางสังคม โดยการประท้วงยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 3 ทั้งนี้ระบบขนส่งมวลชนเกือบทั้งหมดในกรุงซานติอาโกซึ่งมีพลเมืองอาศัยอยู่ราว 7,000,000 คนต้องยุติการให้บริการในวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ร้านค้าก็ปิดทำการ และมีรายงานด้วยว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งขาเข้าและขาออกจากกรุงซานติอาโกจำนวนมากถูกยกเลิก ———————————————— ที่มา : มติชน / 21 ตุลาคม 2562 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_1720556

สถานทูตเตือนคนไทยในบาร์เซโลนา หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุม หลังมีแนวโน้มรุนแรง

Loading

(Photo by Pau Barrena / AFP) สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งข้อมูลและคำแนะนำแก่ผู้ที่พำนักและเดินทางมาท่องเที่ยวในนครบาร์เซโลนาเกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ในช่วงนี้ ดังนี้ 1. คาดว่าสถานการณ์การชุมนุมจะยังคงยืดเยื้อ โดยผู้ชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์วันที่ 19-20 ต.ค.2562 น่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีแนวโน้มของการใช้ความรุนแรงในช่วงค่ำ 2. เหตุชุมนุมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเดินทางภายในแคว้นคาตาโลเนีย รวมถึงการใช้บริการท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในนครบาร์เซโลนา ซึ่งอาจให้บริการได้ไม่เต็มที่ โดยมีรายงานข่าวกลุ่มคนกีดขวางเส้นทางการจราจรอยู่เป็นระยะ อีกทั้งอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โอกาสในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมก่ออาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น 3. สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุม และพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วง ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางการสเปนอย่างเคร่งครัด และติดตามข่าวสารเป็นระยะ โดยอาจตรวจสอบจากสื่อสเปนที่เป็นภาษาอังกฤษ ได้แก่ https://elpais.com/elpais/inenglish.html 4. ท่านสามารถตรวจสอบเที่ยวบินได้ที่หน่วยงานด้านการบินของสเปน http://www.aena.es/en/passengers/passengers.html และการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนในนครบาร์เซโลนาที่ https://twitter.com/TMB_Barcelona 5. กรณีฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางหมายเลข 00 34 660 24 2507 หรือ line id: hotlinemadrid ได้ตลอด 24…

สภาฮ่องกงยังวุ่น ฝ่ายค้านประท้วงจนผู้นำอภิปรายไม่ได้

Loading

สภานิติบัญญัติของฮ่องกงยังไม่สามารถเปิดประชุมได้เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จากการที่บรรดาสมาชิกฝ่ายค้านยังคงประท้วงขับไล่นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหาร ส่วนแกนนำม็บที่ถูกลอบทำร้ายมีอาการดีขึ้นแล้ว สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่าความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติฮ่องกงในการเปิดประชุมสภานิติบัญญัติ (เล็กโค) เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อให้นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหาร ได้มีโอกาสอภิปรายและตอบกระทู้ถามสดของสมาชิก หลังการประชุมเมื่อวันพุธที่เป็นการแถลงนโยบายไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านประท้วงอย่างหนัก จนผู้นำหญิงของฮ่องกงต้องออกจากที่ประชุมเพื่อไปบันทึกเทปการแถลงนโยบาย แล้วออกอากาศทางโทรทัศน์แทน ยังคงเป็นไปด้วยความวุ่นวายและโกลาหล จากการที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านหลายคนประท้วงและตะโกนด่าทอเธอ ขณะที่สมาชิกฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านหลายคนชกต่อยกันเองในสภา จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องระดมกำลังเพิ่มเป็นพิเศษ และนำตัวบรรดาสมาชิกอารมณ์ร้อนทั้งหมดออกไปสงบสติด้านนอก นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง เดินออกจากห้องประุชมสภา หลังไม่สามารถอภิปรายได้เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน เพราะฝ่ายค้านประท้วงอย่างหนัก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำตัวนายจิมมี ซั้ม ในสภาพได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้การประชุมเกิดขึ้นไม่ได้ ไม่ต่างจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง นายจิมมี ซั้ม ผู้นำแนวร่วมสิทธิมนุษยชนพลเรือน ( ซีเอชอาร์เอฟ ) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระเคลื่อนไหวทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน  เปิดเผยผ่านบัญชีสังคมออนไลน์ของตัวเอง ว่าอาการบาดเจ็บของเขา “ดีขึ้นเป็นลำดับ” หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ทราบฝ่ายรุมทำร้ายโดยใช้ค้อนเป็นอาวุธ…

จี้รัฐบาลไซปรัสแจงขายพาสปอร์ตให้ไฮโซกัมพูชา

Loading

ส.ส.ฝ่ายค้านไซปรัส ประเทศเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฟากตะวันออก เรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงข้อเท็จจริง หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผย กรณีที่สมาชิกในครอบครัวและกลุ่มคนสนิทของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต ไซปรัส ภายใต้โครงการอื้อฉาว ขายสิทธิความเป็นพลเมือง แลกกับเงินลงทุนในประเทศ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงนิโคเซีย สาธารณรัฐไซปรัส เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า นางไอรีน ชาราลัมไบด์ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน อาเคล ของไซปรัส และยังเป็นผู้แทนพิเศษฝ่ายต่อต้านการทุจริตขององค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) เขียนข้อความบนเฟซบุ๊กว่า การเปิดเผยของสำนักข่าวรอยเตอร์ ทำให้ไซปรัสถูกดูหมิ่นดูแคลนจากนานาชาติ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยไซปรัส ต้องให้คำตอบในเรื่องนี้ รายงานผลการสืบสวนของรอยเตอร์ เผยให้เห็นว่า สมาชิกในครอบครัวของฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และครอบครัวของกลุ่มคนใกล้ชิด มีทรัพย์สินอยู่ในต่างแดนหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ และใช้ความร่ำรวยซื้อสิทธิความเป็นพลเมืองต่างชาติ ซึ่งฮุน เซน เอง เคยกล่าวประณามว่า เป็นการกระทำที่ “ไม่รักชาติ” ายงานของรอยบเตอร์ระบุว่า สมาชิก 8 คนของครอบครัวฮุน เซน รวมทั้งครอบครัวของผุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ขอซื้อและได้รับพาสปอร์ตไซปรัส ระหว่างปี พ.ศ.…