ชะตากรรม ‘กลุ่มไอซิส’ หลังการเสียชีวิตของผู้นำสูงสุด

Loading

สหรัฐฯ ยืนยันว่าจะไม่มีการฟื้นกำลังของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ISIS ขึ้นมาอีก หลังการเสียชีวิตของนายอาบู อัคร์ อัล-แบกห์ดาดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเตือนว่า กลุ่มไอซิสถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลระดับผู้นำเพียงไม่กี่คน นายอาบู อัคร์ อัล-แบกห์ดาดี เริ่มบทบาทในฐานะผู้นำสาขาย่อยของกลุ่มอัล-ไคยด้า ในอิรัก เมื่อปี ค.ศ.2010 ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนสถานะของกลุ่มก่อการร้ายนี้ให้กลายเป็นกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีในหลายเมืองทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปลายปี 2015 ในช่วงที่กลุ่มไอซิสกำลังมีอำนาจมากที่สุด กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ พยายามที่จะสกัดกั้นการขยายพื้นที่การครอบครองของไอซิส โดยใช้การโจมตีทางอากาศสังหารนักรบระดับนำของกลุ่มไอซิสเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยสองวันต่อหนึ่งคน ในเวลานั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันระบุว่ายุทธวิธีการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อกลุ่มรัฐอิสลาม แต่ปฏิบัติการของกลุ่มไอซิสก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องอีกหลายปี เนื่องจากกลุ่มไอซิสถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่มีผู้นำคนใดคนหนึ่งเป็นศูนย์กลาง ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มอัล-ไคยด้า ในยุคของอุสซาม่า บิน ลาเดน สำหรับในครั้งนี้ เจมส์ แคลปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวกับวีโอเอว่า แม้การเสียชีวิตของนายแบกห์ดาดี ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของกลุ่มรัฐอิสลาม เนื่องจากเขาคือสัญลักษณ์สำคัญของไอซิส แต่ตนเชื่อว่านั่นยังไม่เพียงพอจะทำให้กลุ่มไอซิสล่มสลาย เพราะบรรดาผู้นำของกลุ่มนี้ถูกฝึกมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่มีผู้นำสูงสุดอยู่แล้ว ด้านคุณไมเคิล โฮโรวิทซ์ นักวิเคราะห์ด้านการก่อการร้ายขององค์กรที่ปรึกษา Le Beck ชี้ว่า ปกติแล้วการเสียชีวิตของผู้นำสูงสุดของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง…

หน่วยงาน FTC สหรัฐฯ ออกข้อแนะนำในการป้องกันการโจมตีด้วยวิธีสลับซิม (SIM swapping)

Loading

คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา (U.S. Federal Trade Commission หรือ FTC) ได้เผยแพร่ข้อแนะนำแนวทางการป้องกันตัวจากการถูกโจมตีด้วยวิธีสลับซิม (SIM swapping) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ผู้ประสงค์ร้ายใช้สวมรอยขโมยซิมของเหยื่อเพื่อนำซิมดังกล่าวมารับรหัส SMS OTP สำหรับใช้ในการทำธุรกรรมออนไลน์ ถึงแม้การใช้ SMS เพื่อยืนยันตัวตนจะถูกระบุว่าไม่ปลอดภัยแล้วก็ตาม แต่ปัจจุบันผู้ให้บริการออนไลน์ส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้กระบวนการนี้ในการอนุมัติการทำธุรกรรมกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการล็อกอิน การโอนเงิน หรือการซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิต เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีรายงานเหตุการณ์การโจมตีด้วยวิธีสลับซิมกันอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ ในการโจมตี ผู้ไม่หวังดีอาจใช้วิธีหลอกพนักงานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือว่าทำซิมหายเพื่อขอออกซิมใหม่เบอร์เดิม หรืออาจร่วมมือกับพนักงานเพื่อทุจริตออกซิมใหม่โดยที่เจ้าของซิมตัวจริงไม่ได้ยินยอม ซึ่งหากทำได้สำเร็จผู้ไม่หวังดีก็จะสามารถใช้ซิมดังกล่าวในการรับรหัส SMS OTP เพื่อใช้ทำธุรกรรมอื่น ๆ ต่อได้ ทาง FTC ได้มีข้อแนะนำในการป้องกันตัว ดังนี้ – อย่าหลงเชื่อโทรศัพท์ อีเมล หรือ SMS ที่สอบถามข้อมูลส่วนตัว เนื่องจากผู้ไม่หวังดีอาจใช้วิธีนี้เพื่อหลอกสอบถามข้อมูลสำหรับใช้ในการรีเซ็ตรหัสผ่านบัญชีหรือใช้เพื่อแอบอ้างออกซิมใหม่ได้ – ตระหนักและระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวแบบสาธารณะ โดยเฉพาะข้อมูลที่อาจใช้เพื่อแอบอ้างสวมรอยได้ เช่น ชื่อเต็ม ที่อยู่ วันเกิด หรือหมายเลขโทรศัพท์ – หากผู้ให้บริการออนไลน์นั้นรองรับกระบวนการยืนยันตัวตนด้วยวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่า SMS…

เฟสบุ๊กเปิดตัว “เซคชั่นข่าว” ช่วยสำนักข่าวมีรายได้เพิ่ม-สู้ข่าวปลอม

Loading

FILE – The social media application, Facebook is displayed on Apple’s App Store, July 30, 2019. Facebook is launching a long-promised tool that lets users block the social network from gathering information about them on outside websites and apps. เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เฟสบุ๊กเปิดตัวเซคชั่นใหม่เรียกว่า “News Tab” หรือ “หน้าข่าว” ผ่านแอพพ์เฟสบุ๊กในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะแสดงหัวข้อข่าวของสำนักข่าวใหญ่ต่าง ๆ เช่น The Wall Street Journal, The Washington…

เพนตากอนมอบสัญญารับเหมาระบบคลาวน์หมื่นล้านให้ ‘ไมโครซอฟท์’

Loading

Microsoft’s corporate headquarters in Redmond, Washington. (Photo: Diaa Bekheet) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน มอบสัญญารับเหมาติดตั้งระบบคลาวน์คอมพิวเตอร์ มูลค่าหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ ให้แก่บริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) ซึ่งถือว่าพลิกความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้คาดกันว่าบริษัทแอมะซอน (Amazon) จะได้สัญญาฉบับนี้ สัญญาโครงการ Joint Enterprise Defense Infrastructure, or JEDI ถือเป็นสัญญาที่มีมูลค่ามหาศาล และทำให้เกิดการแข่งขันของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ หลายบริษัท ได้แก่ ไมโครซอฟท์ แอมะซอน ออราเคิล และไอบีเอ็ม มีข่าวว่าแอมะซอนจะเป็นผู้ชนะโครงการนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทออราเคิลได้ยื่นคำร้องต่อศาล แต่ถูกปัดตกไป แต่เมื่อเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมากล่าวว่า รัฐบาลจะพิจารณากระบวนการคัดเลือกผู้รับเหมาโครงการนี้อีกครั้งหลังจากมีการร้องเรียน ซึ่งที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ มักวิจารณ์บริษัทแอมะซอน และ เจฟฟ์ เบโซส ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ วอชิงตัน โพสต์ อยู่เสมอ ระบบ JEDI จะจัดเก็บข้อมูลลับปริมาณมหาศาลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เอาไว้ในเครือข่ายคลาวน์คอมพิวเตอร์…

ส.ส.สหรัฐฯ โต้ตอบกับ ‘มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก’ เรื่องโฆษณาเท็จและการกีดกัน

Loading

แฟ้มภาพ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กในงาน Facebook’s Developer Conference เมื่อ 30 เมษายน 2019 (ที่มา: Anthony Quintano/Flickr) เนื่องจากกังวลว่าโซเชียลมีเดียจากบรรษัทเอกชนจะมีอำนาจมากเกินไป กลุ่มนักการเมืองพรรคเดโมแครตในสหรัฐฯ ตั้งคำถาม-วิพากษ์วิจารณ์ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กรณีเฟสบุคอนุญาตให้โฆษณาเรื่องเท็จทางการเมือง วิพากษ์ระบบอัลกอริทึมที่ส่งเสริมการแบ่งแยกกีดกัน และมีการพูดถึงกรณีเงินสกุลดิจิทัลที่เฟสบุคมีแผนการจัดตั้งขึ้นอย่างสกุลเงิน “ลิบรา” ด้วย เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมามาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเฟสบุ๊ค เข้าชี้แจงต่อสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับแผนการเปิดตัว “ลิบรา” สกุลเงินดิจิทัลของเฟซบุ๊ก ด้านนักการเมืองพรรคเดโมแครตตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องที่น่ากังขาเกี่ยวกับเฟสบุคหลายประการไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องการโฆษณาทางการเมือง เรื่องการปฏิบัติต่อลูกจ้างขอตัวเอง และเรื่องที่มีนักวิจารณ์เคยวิพากษ์วิจารณ์ว่าเฟสบุคมีส่วนส่งเสริมให้เกิดการแบ่งแยกกีดกัน คอมมอนดรีมส์รายงานว่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเฟสบุคใช้เงินไปมากกว่า 12 ล้านดอลลาร์ เพื่อล็อบบีรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ในการอนุมัติโครงการสกุลเงินออนไลน์ของพวกเขาเองที่เรียกว่า “ลิบรา” และเมื่อไม่นานนี้ก็มีการเรียกตัวซัคเคอร์เบิร์กเข้าพบเพื่อให้การกับคณะกรรมาธิการด้านการเงินของสภาผู้แทนฯ สหรัฐ (House Financial Services Committee หรือ HCFS) เพื่อให้การว่าทำไม ส.ส. และประชาชนทั่วไปถึงควรจะเชื่อในตัวเฟสบุค ประธานกรรมาธิการของ HCFS…

บังคับใช้แล้ว! ระเบียบศาล รธน. 45 ข้อ ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล

Loading

23 ต.ค 62 – เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล พ.ศ. 2562 เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยของศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญและการรักษาความสงบเรียบร้อยของการพิจารณาคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมและรัดกุมสอดคล้องกับกฎหมาย กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโครงสร้างการบริหารราชการของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2542 และ ข้อ 8 (8) ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ อ่านทั้งหมด —————————————— ที่มา : ไทยโพสต์ / 25 ตุลาคม 2562 Link : https://www.thaipost.net/main/detail/48669