ตีแผ่ซีไอเอ! อดีตสายลับแฉเรื่องราวถูกหลอกใช้ ทอดทิ้ง ติดคุกนานนับสิบปี

Loading

Biden CIA   สำนักข่าวรอยเตอร์จัดทำรายงานพิเศษ เกี่ยวกับชีวิตของอดีตสายลับของรัฐบาลสหรัฐฯ ในอิหร่าน ที่ตีแผ่ถึงวิธีที่เจ้าหน้าที่ซีไอเอใช้ในการรับสมัครสายลับและติดต่อสื่อสาร ไปจนถึงชีวิตหลังจากที่ถูกเปิดเผยตัวตน การถูกทอดทิ้ง จับกุมคุมขัง และทรมานนานนับสิบปี   โกลัมเรซา ฮอสเซนี (Gholamreza Hosseini) ถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานอิมาม โคไมนี ในกรุงเตหะราน เมื่อปีค.ศ. 2010 ขณะกำลังจะขึ้นเครื่องบินไปยังกรุงเทพฯ เขาถูกคุมขังนานเกือบ 10 ปีในข้อหาเป็นสายลับให้กับรัฐบาลต่างชาติและเพิ่งได้รับอิสระเมื่อ 3 ปีที่แล้ว   วิศวกรอุตสาหการชาวอิหร่านผู้นี้ คือหนึ่งในอดีตสายลับชาวอิหร่าน 6 คนที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ถึงเรื่องราวการจับพลัดจับผลูไปเป็นสายลับให้แก่สำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ (Central Intelligence Agency – CIA) ไปจนถึงความยากลำบากจากการถูกซีไอเอทอดทิ้ง ถูกเปิดเผยตัวตน และถูกทางการอิหร่านจับกุมคุมขังในข้อหาจารกรรม   รายงานของรอยเตอร์ชิ้นนี้พบว่า ซีไอเอพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อเก็บข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ในประเทศเป้าหมาย รวมทั้งอิหร่าน ซึ่งหลายครั้งสร้างความเสี่ยงให้แก่บรรดาผู้ที่ทำงานให้กับหน่วยงานข่าวกรองขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้   FILE – In this…

เปิด 3 แอปพลิเคชัน ถูกแบนเพราะผิดกฎหมาย เปิดให้สอดแนม-แฮกมือถือได้

Loading

  เปิด 3 แอปฯ มือถือ ที่ถูกแบนเพราะผิดกฎหมาย เพราะเปิดข้อมูลส่วนบุคคลให้คนอื่นรู้ เสี่ยงโดนสอดแนม ถูกคุกคามทางเพศ และแฮกมือถือชาวบ้านได้   ชวนวัยรุ่นดิจิทัลไลฟ์ มาทำความรู้จัก เปิด 3 แอปฯ มือถือ ที่ผิดกฎหมายและถูกแบนเพราะเปิดโอกาสให้ชีวิตดิจิทัลเราเสี่ยงภัยมากขึ้น     AndroDumpper   แอปฯ AndroDumpper เป็นแอปพลิเคชันที่เปิดให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ของคนอื่นได้โดยไม่ต้องใช้รหัส Wi-Fi ด้วยฟีเจอร์ของมันทำให้คนร้ายอาจใช้ช่องโหว่นี้ในการโจมตีผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ จึงถูกถอดออกจาก Play Store และมีส่วนที่ผิดกฎหมายด้วย เพราะการพยายามเข้าสู่ระบบโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่ามีความผิด ในการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของผู้อื่น   ดังนั้นถ้าใครที่แอปฯ แฮก Wi-Fi ข้างบ้านก็ระวังตัวให้ดีครับ ถ้าเขาจับได้ก็อาจเจอดีได้ ส่วนใครที่บ้านมี Wi-Fi แรก ๆ ก็ระวังให้ดี เพราะไม่แน่ใครที่เดินผ่านไปมาอาจะแอบพยายามยืนแฮก Wi-Fi หน้าบ้านของคุณได้     Secret SMS Replicator  …

ย้อนรอยวิกฤติ ‘เลบานอน’ จาก ‘ปารีสแห่งตะวันออกกลาง’ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

Loading

  ประเด็นความวุ่นวายใน “เลบานอน” กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศปิดทำการไม่มีกำหนด เนื่องจากหวั่นความปลอดภัย หลังลูกค้าที่โกรธแค้นบุกปล้นธนาคารหลายแห่งเพื่อเอาเงินฝากตัวเองคืน ขณะที่ค่าเงินปอนด์เลบานอนอ่อนค่าลงถึง 90% นับตั้งแต่ปี 2562 เรามาย้อนรอยวิกฤติใหญ่ในเลบานอนกันว่า มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร   สถานการณ์ในเลบานอนขณะนี้ อาจแทบเรียกได้ว่าเข้าสู่ “กลียุค” เพราะถูกรุมเร้าจากทั้งหนี้สาธารณะท่วม เหตุจลาจลทั่วประเทศ และเศรษฐกิจล้มละลายจนต้องขอกู้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ขณะที่ประชาชนที่ฝากเงินกับธนาคารไม่สามารถถอนเงินตัวเองออกมาใช้ได้ จนเกิดเหตุการณ์ปล้นธนาคารทั่วทุกหัวระแหง   เมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.ย.) สมาคมธนาคารเลบานอน ประกาศว่า ธนาคารทุกแห่งจะยังปิดทำการต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่ได้รับความมั่นใจจากทางการในการรักษาความปลอดภัย ยังคงมีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องสำหรับพนักงานและลูกค้า และบรรยากาศของการปลุกระดมยังคงมีอยู่     – เหตุจลาจลในเลบานอนล่าสุด ก.ย. 2565 (เครดิจภาพ: REUTERS/Mohamed Azakir) – ธนาคารหลายแห่งปิดประตูไม่ต้อนรับลูกค้า หลังจากเกิดเหตุการณ์ประชาชนที่โกรธแค้นบุกปล้นธนาคาร 7 แห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่วิกฤติการเงินที่ยืดเยื้อนาน 3 ปีกลับเลวร้ายลงอีก และชีวิตชาวเลบานอนยากลำบากยิ่งขึ้น   ภาคธนาคารเลบานอน “อายัดเงินฝาก” มานานกว่า…

ข้อมูลรั่วไหล ‘คลาวด์’ โจทย์ท้าทายธุรกิจยุคใหม่

Loading

  บริษัทต่าง ๆ ต้องย้ายการดำเนินธุรกิจของตนไปยังระบบคลาวด์กันมากขึ้น การลดความเสี่ยงของบริษัทต่าง ๆ จึงเริ่มยากขึ้นเรื่อย ๆ   มีการคาดการณ์ว่า ตลาดการป้องกันข้อมูลรั่วไหล (Data Loss Prevention หรือ DLP) บนคลาวด์ จะเติบโตจาก 2.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 ไปเป็น 2.75 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2574 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตต่อปีถึง 28% ด้วยกัน   ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ความเสี่ยงจากการสูญเสียข้อมูลมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังได้สร้าง DLP ที่ซับซ้อนในระดับใหม่ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการกำกับดูแล   สาเหตุนี้เองที่ส่งผลให้ตลาด DLP เติบโตอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังมีการเพิ่มขึ้นของข้อมูลที่ดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์ USB โดยพนักงานถึง 123% และกว่า 74% ของข้อมูลถูกจัดประเภทตามนโยบายการกำกับดูแลข้อมูลขององค์กร ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ครั้งใหญ่นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินงานของหลายอุตสาหกรรมด้วยกัน ลูกค้าจึงได้เปลี่ยนวิธีการคิดใหม่   โดยเริ่มหันมายอมรับและใช้งานเทคโนโลยีในรูปแบบที่หลากหลายกันมากขึ้น มีการใช้โซลูชัน…

กทปส. หนุนนักวิจัยไทย พัฒนาเรดาร์ตรวจจับโดรนขนาดเล็กรัศมีไกล 2 กม. ต่อยอดสู่การบินมั่นคงปลอดภัย

Loading

  ปัจจุบันโดรนหรืออากาศยานไร้คนขับ  (UAV) ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญของการสำรวจและถ่ายภาพมากขึ้น ขณะที่การควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการก่อการร้าย ยังมีข้อจำกัดที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และมีราคาที่สูงอยู่ ด้วยเหตุนี้โครงการการวิจัยและพัฒนาระบบเรดาร์เพื่อการตรวจจับโดรนเพื่อป้องกันการบินโดรนที่ไม่ได้รับอนุญาต ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. จึงได้ทำการวิจัยและคิดค้นพัฒนาระบบตรวจจับโดรนขึ้นมา   รองศาสตราจารย์ ดร. เอกรัฐ บุญภูงา หัวหน้าโครงการการวิจัยและพัฒนาระบบเรดาร์เพื่อการตรวจจับโดรนเพื่อป้องกันการบินโดรนที่ไม่ได้รับอนุญาตของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการใช้โดรนกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งก็มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการถ่ายภาพ การสำรวจ แต่ว่าบางทีโดรนก็อาจจะถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี เช่น การก่อการร้าย เนื่องจากสามารถติดระเบิดแล้วเอาไปจู่โจมบุคคลสำคัญได้ หรือบางครั้งการใช้โดรนอาจจะมีการใช้ในพื้นที่ที่หวงห้าม เช่นเขตพระราชวัง หรือบริเวณงานพระราชพิธี ตลอดจนขอบเขตการคุ้มกันบุคคลสำคัญ   ซึ่งแม้ว่าการพัฒนาเรดาร์เพื่อการตรวจจับโดรนจะมีให้เห็นแล้วในต่างประเทศ แต่ราคาของเครื่องหรือระบบก็มีราคาที่สูงมาก เราจึงคิดว่าควรจะพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับโดรนที่บินโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ได้ด้วยฝีมือคนไทย ซึ่งเทคโนโลยี เรดาร์ก็เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงและสมัยใหม่ ที่ใช้ในการตรวจจับพวกเครื่องบินอยู่แล้ว แต่โดรนซึ่งมีขนาดที่เล็กกว่า จำเป็นต้องมีการออกแบบเรดาร์ใหม่ เพื่อให้สามารถตรวจจับโดรนที่มีขนาดเล็กกว่าเครื่องบินให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น   โดยชุดอุปกรณ์ตัวเรดาร์ จะมีลักษณะเป็นแบบสามารถเคลื่อนที่ได้ ทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก อีกทั้งยังสามารถติดตั้งกับรถยนต์ได้ เพื่อช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวกและทันท่วงทีในการเคลื่อนย้ายเข้าสู่พื้นที่ที่ต้องการ…

รู้ก่อนไปญี่ปุ่น! เหตุผล “สมาร์ทโฟน” ที่ญี่ปุ่นต้องมี “เสียงชัตเตอร์”

Loading

  “เที่ยวญี่ปุ่น” อย่างไรให้ปลอดภัยไม่เสี่ยงคุกจากการถ่ายภาพด้วย “สมาร์ทโฟน” เพราะแค่การ “ปิดเสียงชัตเตอร์” ก็อาจเท่ากับทำผิดกฎหมายแล้ว   ประเทศญี่ปุ่น กำลังจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว แน่นอนว่าคนไทยก็เตรียมตัวที่จะแห่ไป เที่ยวญี่ปุ่น กันหลังจากอัดอั้นมานานกับมาตรการปิดประเทศของญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในหมุดหมายในดวงใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย   แต่ก่อนจะไป “เที่ยวญี่ปุ่น” ครั้งนี้ รู้หรือไม่ว่า ประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายเกี่ยวกับการใช้ สมาร์ทโฟน ถ่ายภาพที่บังคับใช้มานานแล้ว แต่หลายคนยังไม่รู้ ที่สำคัญกฎหมายที่ว่านี้ถูกนำไปใช้ในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศยอดนิยมของคนไทยอย่างเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน นั่นคือ การบังคับให้สมาร์ทโฟนห้าม ปิดเสียงชัตเตอร์   โดยปกติแล้วกฎนี้จะบังคับใช้กับ “สมาร์ทโฟน” ที่จำหน่ายภายในประเทศดังกล่าว หมายความว่าถ้าคุณซื้อสมาร์ทโฟนที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะแบรนด์ใด รุ่นใด ก็จะ “ปิดเสียงชัตเตอร์” ไม่ได้   เหตุผลที่ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้สมาร์ทโฟนในประเทศถ่ายภาพโดยปิดเสียงก็เพื่อแก้ปัญหาการแอบถ่าย ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง และเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วย อย่างที่รู้ๆ กันว่า ชาวญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ จริงจังเรื่องสิทธิส่วนบุคคลมากขนาดไหน   การที่ “สมาร์ทโฟน” ปิดเสียงชัตเตอร์ได้ อาจทำให้มีการละเมิดด้วยการแอบถ่ายภาพใม่พึงประสงค์ ทางการญี่ปุ่นจึงออกกฎนี้เพื่อตัดปัญหา แต่ใช่ว่าการใช้งานสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นจะปิดเสียงชัตเตอร์ไม่ได้เลย เพราะยังมีวิธีการปิดเสียงแบบเลี่ยงบาลีที่ทำได้ง่ายๆ แต่หลายคนยังไม่รู้…