ย้อนดูเหตุการณ์กลุ่มตาลิบันบุกยึดอัฟกานิสถาน

Loading

กลุ่มตาลิบันเริ่มปฏิบัติการบุกยึดเมืองเมื่อราวสามเดือนที่แล้ว ยึดอำเภอเนิร์ค ซึ่งอยู่ติดกับกรุงคาบูลได้เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม และยึดเมืองจาลาลาบัดได้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ทำให้เข้าล้อมกรุงคาบูลได้สำเร็จ โดยประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน หลบหนีออกนอกประเทศในวันดังกล่าว   1 2 3 4 5 6 7 (ที่มา: สำนักข่าว Reuters) ———————————————————— Link : https://www.voathai.com/a/taliban-timeline/6006722.html โดย : voathai.com/ 18 สิงหาคม 2564

อินฟอร์’ แนะเคล็ดลับ ก้าวสู่ยุคใหม่ ‘เวิร์คฟรอมโฮม’

Loading

  การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน ต่างต้องพิจารณาทำแผนการทำงานที่บ้าน หรือ “เวิร์คฟรอมโฮม” เพื่อลดความแออัด การเดินทาง และความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลสำรวจโดย “การ์ทเนอร์” เมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้จะยังคงอยู่ตลอดไป โดยมีผู้บริหารองค์กรจำนวนสูงถึง 82% วางแผนให้พนักงานทำงานจากระยะไกลในอนาคต ฟาบิโอ ทิวิติ รองประธาน ประจำภูมิภาคอาเชียน บริษัท อินฟอร์ เปิดมุมมองว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่องค์กรพึงตระหนักถึงในการจัดทำแผนกลยุทธ์ระยะยาว คือ “ต้องใช้กลยุทธ์ที่ครอบคลุมพร้อมประเมินความเป็นไปได้ระยะยาว” ซึ่งองค์กรต้องมองภาพรวมให้รอบคอบก่อนทำการตัดสินใจ ‘ทางเลือก‘ มากับ ’ความเสี่ยง’ เขากล่าวว่า ไม่มีใครทราบเลยว่า การแพร่ระบาดของโควิดจะสิ้นสุดลงเมื่อใด และโลกของการทำงานจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหลังจากเหตุการณ์นี้ แต่ที่แน่ๆ รับรู้ได้ถึงผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตนี้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมายที่ได้ประสบในช่วง 12-18 เดือนที่ผ่านมา ทั้งยังพบว่าการทำงานเสมือนจริงไม่ว่าจะเป็นแบบไฮบริดที่ทำงานจากบ้านหรือจากที่ใดก็ตาม หรือเข้าออฟฟิศทุกวันเต็มเวลาจะยังคงอยู่ต่อไปอีกนาน อย่างไรก็ดี ในมุมหนึ่งโควิดให้โอกาสพิสูจน์แนวคิดเรื่องการทำงานจากที่บ้านว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่ จากการศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดแสดงให้เห็นว่า พนักงานที่ได้รับอนุญาตให้เวิร์คฟอร์มโฮมมีความสามารถในการทำงานเพิ่มขึ้น เทียบได้กับการทำงานเต็มวันในทุกสัปดาห์ ยิ่งไปกว่านั้น ผลสำรวจเพิ่มเติมจากรายงานฉบับนี้ยังแสดงให้เห็นว่า เวิร์คฟรอมโฮมทำให้การลาออกของพนักงานลดลง 50% และมีการลาป่วยน้อยลงอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ตอกย้ำข้อเท็จจริงนี้คือการลดพื้นที่สำนักงานได้ช่วยประหยัดเงินค่าเช่าลงได้อย่างมาก ที่ผ่านมา กลยุทธ์และนโยบายการเวิร์คฟอร์มโฮมส่วนใหญ่เกิดจากการจัดการกับวิกฤติ ซึ่งข้อบ่งชี้ถึงการทำงานระยะยาวแบบนี้เห็นได้ชัดว่า…

เอไอ : คุณจะให้หุ่นยนต์เป็นทนายความแก้ต่างให้คุณหรือไม่

Loading

GETTY IMAGES : เอไอ กำลังถูกนำมาใช้ในแวดวงกฎหมายเพิ่มมากขึ้น   ทนายความคนต่อไปของคุณอาจจะเป็นหุ่นยนต์ก็ได้ คำพูดนี้อาจฟังดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ในความเป็นจริงในปัจจุบันมีการนำระบบซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถอัปเดตและ “คิด” ได้ด้วยตัวเองมาใช้งานเพิ่มมากขึ้นในแวดวงกฎหมาย โจชัว บราวเดอร์ เรียกแอปพลิเคชัน DoNotPay ของเขาว่า “หุ่นยนต์ทนายความตัวแรกของโลก” แอปฯ นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานร่างเอกสารด้านกฎหมายได้ เพียงแค่คุณบอกกับแชตบอตไปว่า เกิดปัญหาอะไรขึ้น เช่น อุทธรณ์ค่าปรับจอดรถ จากนั้นมันก็จะแนะนำว่า ภาษากฎหมายที่เหมาะสมที่สุดที่ควรใช้คืออะไร “คนสามารถพิมพ์ข้อโต้แย้งของตัวเองลงไปโดยใช้คำพูดของตัวเอง แล้วซอฟต์แวร์ตัวนี้ซึ่งมีแบบจำลองการเรียนรู้ของคอมพิวเตอร์ก็จะจับคู่คำพูดนั้นกับวิธีการพูดในทางกฎหมายที่ถูกต้อง” เขากล่าว ชายหนุ่มวัย 24 ปี และบริษัทของเขาเองอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ แต่จุดกำเนิดของบริษัทก่อตั้งขึ้นในกรุงลอนดอนช่วงปี 2015 ซึ่งขณะนั้นนายบราวเดอร์มีอายุ 18 ปี JOSHUA BROWDER :โจชัว บราวเดอร์ พัฒนา DoNotPay เพื่อแก้ปัญหาใบสั่งค่าปรับจอดรถของตัวเอง “ในฐานะวัยรุ่นตอนปลายในเมืองเฮนดอนทางเหนือของกรุงลอนดอน ผมขับรถแย่มาก” เขากล่าว “ผมได้ใบสั่งค่าปรับจอดรถแพงมาก ซึ่งผมจ่ายไม่ไหว เพราะผมยังเรียนมัธยมปลายอยู่” หลังจากได้ค้นคว้าและใช้สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลอย่างเสรี นายบราวเดอร์ระบุว่า…

โกลบอลโฟกัส : ความล้มเหลวที่ “อัฟกานิสถาน”

Loading

ภาพ รอยเตอร์   ความล้มเหลวที่ “อัฟกานิสถาน” การรุกแบบสายฟ้าแลบโดยกองกำลังติดอาวุธของขบวนการทาลิบัน ไม่เพียงสร้างความตื่นตะลึงให้เกิดขึ้นเท่านั้น ยังสร้างความฉงนฉงายขึ้นพร้อมกันไปด้วยว่า เกิดอะไรขึ้นกับ กองทัพ กองทัพอากาศ หน่วยรบพิเศษคอมมานโด และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง กองกำลังพันธมิตรนาโต นำโดยสหรัฐอเมริกา พัฒนา ฝึก และ ติดอาวุธให้ ด้วยงบประมาณที่ทุ่มเทลงไปมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ กับระยะเวลา 20 ปีนับตั้งแต่ปี 2001 เรื่อยมา ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงเลยหรือ? ทาลิบัน ใช้เวลา 1 สัปดาห์ ยึดเมืองเอกของจังหวัดสำคัญๆ ทางตอนเหนือของประเทศได้ถึง 10 เมือง อีก 3-4 วัดถัดมา จำนวนเมืองใหญ่ที่ตกอยู่ในการยึดครองของทาลิบันก็เพิ่มเป็น 17 เมือง รวมทั้งเมืองใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของประเทศอย่าง กันดาฮาร์, เฮรัต และ กัซนี ซึ่งอยู่ห่างจากคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานไปเพียง…

‘ตาลีบัน’ยึด’อัฟกานิสถาน’ปลุก’ก่อการร้าย’คืนชีพ

Loading

‘ตาลีบัน‘ยึด‘อัฟกานิสถาน‘ปลุก‘ก่อการร้าย‘คืนชีพ ขณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอังกฤษยอมรับกลุ่มตาลีบันยึดครองอัฟกานิสถานได้แล้ว และอังกฤษจะไม่ส่งทหารกลับเข้าอัฟกานิสถานเพื่อไปสู้รบกับกลุ่มตาลีบันอีก การประกาศชัยชนะของกลุ่มตาลีบัน หลังบุกเข้ายึดกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานได้สำเร็จวานนี้ (16ส.ค.)สร้างความประหลาดใจแก่ชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐ ที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าประมาณ 90 วันกรุงคาบูลจึงจะแตก ทำให้ต้องเร่งทำลายเอกสารทางการทูต อพยพผู้คนทั้งพลเมืองและเจ้าหน้าที่การทูตออกจากดินแดนแห่งนี้เร็วกว่าที่คิด เว็บไซต์ข่าวอะซิออส(Axios) เผยแพร่คำเตือนของพล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐที่ว่า การหวนคืนสู่อำนาจของตาลีบันอาจจะทำให้กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ใช้ดินแดนในอัฟกานิสถานเป็นแหล่งซ่องสุมกำลัง และฟื้นตัวกลับมาเป็นภัยคุกคามเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ คำเตือนนี้มีขึ้นระหว่างที่ มิลลีย์ เสนอรายงานเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในอัฟกานิสถานต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน และสมาชิกสภาคองเกรสจากทั้ง 2 พรรคการเมือง ซึ่งนายพลอาวุโสผู้นี้อ้างถึงการประเมินความเสี่ยงครั้งก่อนที่คาดว่ากลุ่มก่อการร้ายอาจฟื้นตัวในอัฟกานิสถานภายใน 2 ปีหลังจากที่สหรัฐถอนทหารออกมา พร้อมทั้งบอกว่า มีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนกรอบเวลาดังกล่าวใหม่ คำเตือนของมิลลีย์ สอดคล้องกับถ้อยคำของ”ลอยด์ ออสติน”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ที่กล่าวไว้เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มก่อการร้ายจะกลับมาใช้อัฟกานิสถานเป็นแหล่งซ่องสุมกำลัง และคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปีกว่าที่สถานการณ์จะดำเนินไปถึงจุดนั้น   เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่สหรัฐกังวลมากที่สุด เพราะหากย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว อัฟกานิสถานก็เคยเป็นแหล่งกบดานของพวกนักรบอัลกออิดะห์ ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรม 9/11 จนเป็นชนวนนำมาสู่สงครามอัฟกานิสถานที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 20 ปี รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน…

‘TikTok’ พัฒนาระบบดูแลผู้ใช้วัยรุ่น

Loading

Tik Tok TikTok   แอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอสั้น TikTok เพิ่มระบบดูแลผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่นจากภัยอันตรายบนสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งการรังแกและล้อเลียนบนโลกออนไลน์ รวมทั้งปัญหาการนอนหลับไม่เพียงพอ ตามรายงานของ AFP ทางแอปพลิเคชัน TikTok ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายจากผู้ใช้ที่เป็นคนอายุน้อย หันมาใส่ใจฐานผู้ใช้ในกลุ่มนี้มากขึ้น โดยระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องลงมืออย่างจริงจังในการสร้างความปลอดภัยให้กับวัยรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ภายใต้ระบบดูแลผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่นของ TikTok จะตัดระบบการส่งข้อความส่วนตัว สำหรับผู้ใช้อายุ 16-17 ปี ขณะที่จะมีข้อความแจ้งเตือนก่อนแชร์ ในการกำหนดการมองเห็นของผู้ใช้คนอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นวัยรุ่นอายุ 16 ปี จะสามารถเลือกได้ว่าจะแชร์คลิปให้ผู้ที่ติดตาม หรือเฉพาะเพื่อน หรือปิดการมองเห็นได้ นอกจากนี้ TikTok ยังปิดระบบบางอย่าง เช่น Stitch และ Duet ที่จะให้คนถ่ายคลิปประชันกัน ซึ่งผู้ใช้บางรายอาจทำเพื่อความสนุกสนานและให้เกียรติเจ้าของคลิปที่นำมาประชัน แต่ยบางรายอาจนำมาใช้เพื่อการรังแกผู้ใช้คนอื่นบนโลกออนไลน์แทน สำหรับผู้ใช้อายุ 13-15 ปี ทาง TikTok จะตัดระบบแจ้งเตือนหลังจาก 21.00 น. ส่วนผู้ใช้อายุ 16-17 ปี จะตัดระบบแจ้งเตือนหลังจาก 22.00 น.…