“ทรู มันนี่” ทุ่ม 100 ล้าน พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยบนแอป 3 ชั้น

Loading

    ยกระดับการปกป้องบัญชีลูกค้า เปิดตัวระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น ตรวจ-จับ-หยุด ธุรกรรมแปลกปลอม   น.ส.มนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการทรูมันนี่ เปิดเผยว่า  บริษัทได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของระบบอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละปีมีการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้าทั้งระบบที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 26 ล้านราย มีการทำธุรกรรมอย่างปลอดภัย โดยปัจจุบันมีธุรกรรมผ่านระบบ 40,000 ล้านบาทต่อเดือน คิดเป็นปีละ 500,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริการของทรู มันนี่ ยังมีทั้งรูปแบบการออม และการลงทุน ซึ่งเงินของลูกค้าอยู่ในระบบหลักแสนบาท ที่สำคัญคือ บริษัทมีความมุ่งมั่นในการเป็นเวอร์ชวล แบงก์ ด้วย ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ   จากข้อมูล เดือน เม.ย. ที่ผ่านมาของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (ดีอีเอส) พบว่าใน 1 ปี  ที่ผ่านมา มีการแจ้งความออนไลน์…

ตำรวจไซเบอร์ เตือนมิจฉาชีพขโมยข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่นไปใช้ โทษหนักจำคุกสูงสุด 5 ปี

Loading

  โฆษก บช.สอท. เตือนมิจฉาชีพขโมยข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่นไปใช้ โทษหนักจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000- 100,000 บาท   วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง ได้นำหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ของตนไปตรวจสอบในระบบ หรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ พบว่า หมายเลขบัตรประชาชนของตนได้ถูกนำไปเปิดใช้บริการกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 30 หมายเลข โดยที่ตนไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการแต่อย่างใดนั้น ว่า   ในปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจสอบข้อมูล ขอเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยสะดวก รวมไปถึงการเปิดใช้งานลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสนำข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่ได้มาด้วยวิธีการต่าง ๆ มาแสวงหาผลประโยชน์โดยผิดกฎหมาย   การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “นำบัตร หรือใบรับหรือใบแทนใบรับของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526…

รัสเซีย บล็อก Google News หลังการพยายามคล้ายปฎิวัติ ปูติน ของกองทหารแวกเนอร์

Loading

    หลังกองทหารแวกเนอร์ พยายามก่อเหตุคล้ายปฎิวัติ ปูติน ทำ รัสเซีย สั่งบล็อก Google News เพื่อควบคุมข่าวให้อยู่ในมือรัฐบาล   NetBlocks กลุ่มผู้สังเกตุการอิสระความปลอดภัยไซเบอร์ เสรีภาพบนโลกออนไลน์และประชาธิปไตย ระบุว่า ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต อย่างน้อย 5 ราย ในรัสเซีย ได้ตัดการเข้าถึง หรือ บล็อก การเข้าถึง Google News บริการรวบรวมข่าวจากทั่วโลกของ Google หลัง เยฟกินี พริโกซิน หัวหน้ากองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์ พยายามก่อเหตุคล้ายปฎิวัติ ปูติน เพื่อขับไล่ เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย     เว็บไซต์ Engadget พยายามขอความคิดเห็นและข้อเท็จจริงจาก Google แต่ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด   สำหรับบริการของ Google News หากเปรียบเทียบให้ง่าย คือ แถบค้นหาที่เขียนว่า “ข่าวสาร” ในหน้าค้นหา…

กองทัพญี่ปุ่นเล็งใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของ “อีลอน มัสก์” ไม่กี่วันหลังโดนโยงเข้ากับเรือดำน้ำชมไททานิก

Loading

    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – กองทัพญี่ปุ่นมีเป้าหมายเตรียมใช้เทคโนโลยีดาวเทียมของอีลอน มัสก์ ในงบประมาณปีหน้า ระหว่างที่ปัจจุบันกำลังทดสอบการใช้งาน เกิดขึ้นท่ามกลางมัสก์โดนเผือกร้อนโดนโยงชื่อเกี่ยวกับเรือดำน้ำชมเรือไททานิกที่หายไป จนเจ้าตัวต้องออกมาตอบไม่กี่วันก่อนหน้า   รอยเตอร์รายงานวันนี้ (25 มิ.ย.) ว่า กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นนั้นปัจจุบันสามารถเข้าถึงดาวเทียมสื่อสารระดับวงโคจรค้างฟ้า (geostationary orbit) ได้ แต่ทว่าการที่จะเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมบริษัทสตาร์ลิงค์ของมหาเศรษฐีอเมริกัน อีลอน มัสก์ จะช่วยทำให้ญี่ปุ่นเพิ่มความสามารถการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตระดับดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ   แหล่งข่าวใกล้ชิดในรัฐบาลโตเกียวเปิดเผยว่า กองทัพญี่ปุ่นในปัจจุบันกำลังทำการทดสอบระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของมัสก์ ซึ่งโตเกียวมีเป้าหมายจะเริ่มใช้เทคโนโลยีสตาร์ลิงค์ที่ว่านี้ในงบประมาณปีหน้า   ทั้งนี้ พบว่ากองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นนั้นเริ่มการทดสอบระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียมมาตั้งแต่เดือนมีนาคมสำหรับระบบที่ถูกใช้ใน 10 จุด และในการฝึกซ้อม หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นกล่าว   ซึ่งในเวลานี้ในหลายประเทศทั่วโลกต่างกำลังสร้างความยืดหยุ่นเพื่อป้องกันความเสี่ยงระบบการสื่อสารถูกรบกวนสัญญาณ หรือมีการโจมตีในกรณีดาวเทียมโดนทำลายหากเกิดความขัดแย้ง ซึ่งเมื่อต้นเดือนนี้เพนตากอนลงนามเซ็นสัญญายอมจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตดาวเทียมให้ยูเครน หลังเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว มัสก์ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทของเขาไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับยูเครนตก 20 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนต่อไปไหว   ซึ่งนอกเหนือจากยูเครนแล้ว มัสก์ยังแจกซับสคริปชันอินเทอร์เน็ตดาวเทียมฟรีให้ทั้งการประท้วงอิหร่าน และมีรายงานกลุ่มต่อสู้ชนกลุ่มน้อยแนวพรมแดนพม่าติดไทยเพื่อสู้รบกับรัฐบาลทหารพม่าอีกด้วย   เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากชื่อบริษัทสตาร์ลิงค์ตกเป็นข่าวโยงประเด็นเรือดำน้ำ Titan Submersible ของบริษัทโอเชียนเกตสูญหายและล่าสุดมีรายงานว่า คาดว่าผู้โดยสารทั้ง 5 รายเสียชีวิตทั้งหมดหลังเกิดระเบิด…

นายกฯ ออสเตรเลียแนะนำ “ปิดมือถือวันละ 5 นาที” ลดความเสี่ยงการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้

Loading

  Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียแถลง ในระหว่างการประกาศแต่งตั้งหัวหน้าหน่วยงานดูแลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ โดยพูดถึงปัญหาและความสำคัญที่มากขึ้น ของการดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศ   เนื้อหาตอนหนึ่งเขาบอกว่าการดูแลความปลอดภัยนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนและองค์กรทุกภาคส่วนต้องให้ความร่วมมือ ซึ่งเขาแนะนำวิธีการง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวันนั่นคือ ปิดโทรศัพท์ทุกคืน เป็นเวลา 5 นาที เขาแนะนำว่าอาจทำระหว่างไปแปรงฟันก่อนเข้านอนก็ได้   คำแนะนำนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้ไม่ได้การันตีว่าโทรศัพท์จะปลอดภัยจากการถูกโจมตี แต่มัลแวร์จำนวนมากไม่ได้ฝังอยู่ในหน่วยความจำถาวร แต่ทำงานอยู่ในหน่วยความจำเท่านั้น เมื่อบูตเครื่องใหม่มัลแวร์จึงหายไป ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์บอกว่า ก็ทำให้ต้นทุนในการดึงข้อมูลของแฮ็กเกอร์ผ่านมัลแวร์ที่มักรันอยู่เบื้องหลัง มีมูลค่าสูงขึ้น และทำได้ลำบากมากขึ้นนั่นเอง     ที่มา: 7News Australia       ————————————————————————————————————————- ที่มา :                    Blognone by arjin         …

รัฐบาลมาเลเซียขู่ดำเนินคดีกับเมตา (Meta)

Loading

โลโก้ของเมตา (Meta) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook), อินสตาแกรม (Instagram) และวอทแอปส์ (WhatsApp) (Photo by Chris DELMAS / AFP)   มาเลเซียขู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับเมตา (Meta) โดยกล่าวหาว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีไม่สามารถลบเนื้อหาที่ “ไม่พึงปรารถนา” ออกจากเฟซบุ๊กได้   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566 กล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของมาเลเซียเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับเมตา (Meta) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook)   หน่วยงานภายใต้การกำกับของรัฐบาลกล่าวว่า แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กถูกรบกวนด้วยปริมาณที่มากมายของโพสต์ที่เป็นอันตรายในประเด็นต่าง ๆ เช่น เชื้อชาติ, ราชวงศ์, ศาสนา และการพนันออนไลน์ และเมตาล้มเหลวในการคัดกรองเนื้อหาดังกล่าวแม้ว่าจะมีการร้องขอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับบริษัทสหรัฐฯ   “เนื่องจากเมตาไม่ได้ให้ความร่วมมืออย่างเพียงพอ คณะกรรมาธิการจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดทางกฎหมาย” คณะกรรมาธิการการสื่อสารและมัลติมีเดียของมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์   อย่างไรก็ดี มูลฟ้องยังไม่ได้รับการเปิดเผยว่าเมตาจะถูกดำเนินคดีข้อหาอะไร   ฟาห์มี ฟาดซิล รัฐมนตรีกระทรวงสื่อสารของมาเลเซีย แสดงความคิดเห็นต่อคำแถลงของหน่วยงานกำกับดูแล…