อดีตวิศวกร Amazon ถูกตัดสินคุมประพฤติ จากกรณีแฮ็กข้อมูลคนนับร้อยล้านราย

Loading

  เพจ ทอมป์สัน (Paige Thompson) อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Amazon ที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮ็กธนาคาร Capital One และหลายบริษัทในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2019 ถูกศาลตัดสินคุมประพฤติเป็นเวลา 5 ปี   โรเบิร์ต เอส ลาสนิก (Robert S. Lasnik) ผู้พิพากษาประจำเขต ลงความเห็นว่าหากตัดสินให้จำคุกจะส่งผลเสียต่อทอมป์สัน เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพจิต และสถานะความเป็นคนข้ามเพศ   อย่างไรก็ดี ทางด้านอัยการ นิก บราวน์ (Nick Brown) ระบุว่าผิดหวังกับคำตัดสินที่ออกมา เพราะทางฝ่ายอัยการอยากให้ศาลตัดสินจำคุก 7 ปี บราวน์ถึงขั้นบอกว่าผิดหวังในกระบวนการยุติธรรม   สำหรับรายละเอียดการกระทำผิดนั้น ทอมป์สันได้เจาะข้อมูลส่วนบุคคลของมากกว่า 100 ล้านคน เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ Capital One ต้องยอมจ่ายเงิน 190 ล้านเหรียญ (ราว 7,113 ล้านบาท) เพื่อยุติการฟ้องร้องจากลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ แถมยังต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน 80…

แฮ็ก”ทวิตเตอร์ ปภ.” ปรับแจ้งเตือนน้ำท่วมผ่านเฟซบุ๊ก เฝ้าระวัง”กลาง-อีสาน-เหนือ”

Loading

  แฮ็กเกอร์ ยึดทวิตเตอร์ “ปภ.” แอดมินเร่งกู้คืน แจ้งการติดตามประกาศเตือนภัยน้ำท่วมผ่านเฟซบุ๊ก ล่าสุดเปิดพื้นที่ “เหนือ-อีสาน-กลาง” เตรียมรับมือน้ำท่วม   5 ตุลาคม 2565 ปภ. ถูกแฮ็กเกอร์โจมตี ทวิตเตอร์ (Twitter) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊ก “กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM” เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ถูก แฮ็กเกอร์ เข้าถึงระบบหลังบ้านและได้เปลี่ยนแปลงบัญชี “Twitter” ทำให้แอดมินของ ปภ. ไม่สามารถใช้งานได้ โดยมีเนื้อหาดังนี้..   ” เนื่องจากขณะนี้ Twitter ของ ปภ. ชื่อกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บัญชี @DDPMNews ถูกแฮ็ก แอดมินอยู่ระหว่างการประสานดำเนินการแก้ไขเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ผู้ที่ติดตามข้อมูลสาธารณภัยของ ปภ. สามารถติดตามข้อมูลได้ผ่านทาง Facebook ค่ะ “  …

ไมโครซอฟท์รายงานกลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ ใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สโจมตีเหยื่อ

Loading

  ไมโครซอฟท์รายงานถึงกลุ่มแฮ็กเกอร์ ZINC ที่มีฐานอยู่ในเกาหลีเหนือพยายามโจมตีองค์กรจำนวนมาก ทั้งในสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, อินเดีย, และรัสเซีย โดยอาศัยการหลอกเหยื่อประกอบกับการแปลงโปรแกรมโอเพนซอร์สที่ใช้งานได้จริง แต่มีฟีเจอร์มุ่งร้ายฝังอยู่ภายใน   ช่วงเริ่มต้นกลุ่ม ZINC จะแสดงตัวเป็นฝ่ายบุคคลที่ตามหาผู้สมัครให้กับบริษัทใหญ่ๆ แล้วติดต่อเหยื่อผ่านทาง LinkedIn จากนั้นจะพยายามหลอกล่อให้เหยื่อไปคุยกันผ่านทาง WhatsApp และส่งโปรแกรมให้เหยื่อ โดยโปรแกรมทำงานได้ตามปกติแต่แอบติดต่อเซิร์ฟเวอร์ของคนร้ายเพื่อขโมยข้อมูล   โปรแกรมหนึ่งที่คนร้ายใช้คือ KiTTY ที่ใช้สำหรับติดต่อเซิร์ฟเวอร์ด้วยโปรโตคอล Secure Shell ตัวโปรแกรมที่คนร้ายดัดแปลงยังคงใช้งานได้ แต่จะเก็บข้อมูลชื่อเครื่อง, ชื่อผู้ใช้, และรหัสผ่าน ส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคนร้าย หรือโปรแกรม TightVNC ที่ถูกดัดแปลงให้ส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์เช่นกัน   ไมโครซอฟท์เปิดเผยรายชื่อไอพีเซิร์ฟเวอร์ของคนร้าย, รายการค่าแฮชของโปรแกรมที่คนร้ายดัดแปลงแล้ว, และโดเมนต่างๆ ที่คนร้ายแฮก พร้อมกับแนะนำให้บล็อกอินเทอร์เน็ตไม่ให้เชื่อมต่อไปยังเครื่องในรายกร และแนะนำให้เปิดใช้การล็อกอินสองขั้นตอนเพื่อป้องกันการโจมตีในกรณีเช่นนี้ที่คนร้ายขโมยรหัสผ่านออกไปได้     ที่มา – Microsoft       —————————————————————————————————————————————————- ที่มา :       …

รัฐบาลเม็กซิโกโดนแฮ็กครั้งใหญ่ ข้อมูลสุขภาพประธานาธิบดีหลุด

Loading

  รัฐบาลเม็กซิโก ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ ข้อมูลกองทัพหลุดรวมถึงรายละเอียดโรคหัวใจของประธานาธิบดีแอนเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อเดือน ม.ค.   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ประธานาธิบดีเม็กซิโก แถลงข่าวประจำวันเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น กล่าวว่า ข้อมูลที่สื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อคืนที่ผ่านมาเรื่องการแฮกข้อมูลกระทรวงกลาโหมเป็นข่าวจริง พร้อมยืนยันข้อมูลสุขภาพของตนที่ถูกเปิดเผยเป็นของจริง แฮ็กเกอร์ใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงระบบไอทีของกองทัพ   ทั้งนี้ ตามรายงานข่าว การโจมตีข้อมูลครั้งนี้เข้าถึงข้อมูล 6 เทราไบต์จากกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วยข้อมูลอาชญากร สำเนาการสื่อสาร และการจับตานายเคน เซลาซาร์ ทูตสหรัฐประจำเม็กซิโก ด้านสถานทูตสหรัฐยังไม่ให้ความเห็นกับรอยเตอร์   การโจมตีข้อมูลครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาลเมื่อวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.) ว่า เฮลิคอปเตอร์ทหารลำหนึ่งตกในเดือน ก.ค. มีผู้เสียชีวิต 14 คน สาเหตุมาจากน้ำมันหมด   นายฮาเวียร์ โอลิวา นักรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก กล่าวว่า ข้อมูลหลุดชี้ให้เห็นความเสี่ยงอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะในช่วงที่บทบาทของกองทัพกำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างร้อนแรง       ——————————————————————————————————————————- ที่มา…

แฮ็กเกอร์จากจีนออกอาละวาดด้วยการซ่อนมัลแวร์ไว้ในโลโก้ Windows

Loading

  ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์จาก Symantec พบปฏิบัติการไซเบอร์จากจีนที่ซ่อนมัลแวร์ไว้ในโลโก้ Windows ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้   กลุ่มแฮ็กเกอร์นี้มีชื่อเรียกขานว่า Witchetty ที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ Cicada (อีกชื่อหนึ่งคือ APT10) กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีรัฐบาลจีนหนุนหลัง และยังน่าจะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร TA410 ที่เคยโจมตีบริษัทพลังงานของสหรัฐอเมริกา   Witchetty เริ่มปฏิบัติการซ่อนมัลแวร์มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่ 2 ประเทศในตะวันออกกลาง ในจำนวนนี้มีการโจมตีตลาดหุ้น   สำหรับวิธีการปฏิบัติการของ Witchetty กระทำโดยเทคนิกที่เรียกว่าวิทยาการอำพรางข้อมูล (Steganography) ซึ่งเป็นการซ่อนข้อมูลลับไว้ในภาพหรือข้อความอื่นในการซ่อน Backdoor (หรือทางลัดในการเข้าถึงอุปกรณ์หรือระบบเครือข่าย) ที่เข้ารหัสด้วยวิธีการ XOR ลงในปุ่ม Start   การซ่อนมัลแวร์ไว้ในภาพมักจะเล็ดลอดการตรวจจับของซอฟต์แวร์ Anti-Virus ไปได้ เนื่องจากมักไม่ค่อยตรวจหาไวรัสจากรูปภาพ   โดย Backdoor ตัวนี้จะเป็นช่องทางให้กลุ่มแฮ็กเกอร์เจาะเข้าไปดูไฟล์ข้อมูล เปิดปิดโปรแกรม ดาวน์โหลดมัลแวร์ลงบนเครื่องของเหยื่อเพิ่มเติม เข้าไปแก้ไข Windows Registry หรือแม้แต่ทำให้อุปกรณ์ของเหยื่อเป็นเซิร์ฟเวอร์สำหรับการแฮ็กเหยื่อรายต่อ ๆ ไป    …

เว็บสื่อก็ไม่รอด แฮ็กเกอร์เล็งเป้าโจมตี ปล่อยข่าวปลอม มากับภาพโป๊

Loading

  หากใครชอบอ่านข่าวต่างประเทศ น่าจะเคยผ่านตากับเว็บที่ชื่อว่า Fast Company มาบ้างนะ โดยตอนนี้ เว็บดังกล่าวได้ถูกแฮกเกอร์โจมตี และปล่อยข่าวปลอม ข้อความเหยีดผิว และรูปภาพโป๊อนาจารไปยังผู้อ่านผ่านแพลทฟอร์ม Apple News   ในการตอบสนองต่อเรื่องดังกล่าว Apple ได้ให้ข้อมูลว่า เว็บไซต์ FastCompany ถูกแฮก ทำให้ Apple ได้ทำการปิดการใช้งาน FastCompany บน Apple News ทันทีครับ   ทั้งนี้ Fast Company ได้แพร่แถลงการณ์ที่ยืนยันการโจมตีจริง ๆ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จนตอนนี้ ต้องปิดการใช้งานหน้าเว็บ และรอการแก้ไขครับ   เห็นแบบนี้แล้ว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัว เพราะการเผยแพร่ข่าวที่สร้างความเกลียดชังหรือสร้างกระแสลบใด ๆ ออก การจะแก้ข่าวก็อาจเป็นเรื่องที่ยากกว่า เห็นได้ชัดกับกรณี Fake News ในบ้านเรา ซึ่งถ้าหากว่าวันหนึ่ง เว็บไซต์สื่อดัง ๆ โดนแฮกแล้วเผยแพร่ข่าวปลอม มันอาจจะสร้างความเสียหายมาก ๆ…