เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ พบสารโคเคนที่ทำเนียบขาว

Loading

เมื่อ 2 ก.ค.66 เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (The United States Secret Service – USSS) เข้าตรวจสอบสถานที่ทำเนียบขาวตามภารกิจเวลา 18.00 น. และค้นพบผงสีขาวต้องสงสัยบริเวณส่วนกลางของพื้นที่ปีกตะวันตกในทำเนียบขาว จึงได้ยกระดับแจ้งเตือนความปลอดภัย โดยสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากอาคารและปิดทำเนียบขาวเป็นการชั่วคราว รวมถึงเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยทีมวัตถุอันตรายของหน่วยงานดับเพลิงและบริการการแพทย์ฉุกเฉินเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย (DC Fire & EMS) เข้าตรวจสอบเวลา 20.49 น. ซึ่งผลทดสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นโคเคน ด้านนาย Anthony Guglielmi โฆษกของ USSS กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสารดังกล่าวเพิ่มเติม รวมทั้งสอบสวนหาสาเหตุและวิธีการนำสารเข้ามายังทำเนียบขาว และอ้างถึงหน่วยงาน DC Fire & EMS ที่ระบุว่าสารซึ่งพบในพื้นที่นั้น “ไม่ถือเป็นภัยคุกคาม” ทั้งนี้ ขณะพบสารดังกล่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบขาว —————————————————————————————————————————————— ที่มา :               …

สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ ทำข้อมูลผู้รับบริการรั่วไหลนานหลายปี

Loading

  สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (USPTO) ทำข้อมูลที่อยู่ของผู้ยื่นเอกสารขอออกสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าประมาณ 61,000 ราย ระหว่าง ก.พ.63 ถึง มี.ค.66 รั่วไหลสู่สาธารณะโดยไม่ตั้งใจ ส่งผลกระทบประมาณร้อยละ 3 ของผู้ยื่นเอกสารทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว   ทั้งนี้ USPTO ได้ส่งประกาศแจ้งเตือนพร้อมทั้งคำขอโทษไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบทราบแล้ว โดยระบุว่าปัญหาเกิดจากช่องโหว่ของซอฟต์แวร์เชื่อมต่อระบบ หรือ Application Programing Interface – API ที่อนุญาตให้แอปพลิเคชันที่ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้จัดเก็บไฟล์สามารถเข้าถึงระบบเพื่อตรวจสอบสถานะของเครื่องหมายการค้าที่รอดำเนินการและจดทะเบียนแล้ว แต่ระบบไม่ได้ปกปิดข้อมูลที่อยู่ของผู้รับบริการ ทำให้ผู้อื่นสามารถเห็นข้อมูลดังกล่าวผ่านทางออนไลน์ได้   หลังจาก USPTO ทราบถึงปัญหาก็ได้ทำการแก้ไขเมื่อ 1 เม.ย.66 โดยการบล็อกการเข้าถึง API ที่ไม่สำคัญในระบบทั้งหมด รวมถึงลบข้อมูลที่ส่งผลกระทบจำนวนมากออกจากระบบจนกว่าจะมีการแก้ไขอย่างถาวร   อย่างไรก็ดี USPTO เชื่อว่าข้อมูลที่หลุดนี้จะไม่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด       ————————————————————————————————————————————— ที่มา :             เว็บไซต์ TechCrunch …

สหภาพยุโรปเตรียมออกกฎหมายควบคุมการใช้ข้อมูลผู้บริโภคและองค์กรในยุโรป

Loading

ประเทศในสหภาพยุโรปและฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงในการออกพระราชบัญญัติข้อมูล (Data Act) เมื่อ 27 มิ.ย.66 เพื่อควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Big Tech) และบริษัทอื่น ๆ ในการใช้ข้อมูลของผู้บริโภคและองค์กรในยุโรป รวมถึงป้องกันรัฐบาลนอกสหภาพยุโรปเข้าถึงข้อมูลอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้จะครอบคลุมไปถึงข้อมูลของผู้บริโภคที่สร้างบนอุปกรณ์อัจฉริยะ เครื่องจักร และสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ กฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ให้บริการระบบคลาวด์จะต้องให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการถ่ายโอนข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ต้องมีการสร้างหรือพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ หากเป็นการใช้ข้อมูลที่ซ้ำกัน  นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคและบริษัทสามารถคัดลอกหรือถ่ายโอนข้อมูลจากผู้ให้บริการรายเดิมไปยังผู้ให้บริการรายใหม่ได้ง่ายขึ้น และคาดว่าจะส่งผลให้การบังคับให้ผู้บริโภคแบ่งปันข้อมูลแก่บุคคลที่สามลดน้อยลง —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                             เว็บไซต์ Reuters                         / วันที่เผยแพร่  28…

รายงานวุฒิสภาสหรัฐฯ เผยถึงความล้มเหลวด้านข่าวกรองและการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ

Loading

  วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานเมื่อ 27 มิ.ย.66 ระบุว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และหน่วยงานรัฐบาลกลางอื่น ๆ เพิกเฉยหรือมองข้ามคำเตือนและการเรียกร้องให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อระงับเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งยังล้มเหลวในการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย จนนำไปสู่เหตุจลาจลและการโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อ 6 ม.ค.65 นอกจากนี้ก่อนการโจมตีเพียงไม่กี่วัน การเฝ้าระวังและติดตามภัยคุกคามบนสื่อสังคมออนไลน์ของ FBI ได้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาที่เกี่ยวกับบุคคลที่สามในสื่อสังคมออนไลน์ ภายในรายงานยังเน้นคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ FBI สองคนที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเขาไม่ทราบว่ารัฐสภาอาจจะถูกปิดล้อม” อย่างไรก็ดี ผู้แทนของ FBI กล่าวแย้งว่า FBI มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในช่วงก่อนและในวันที่ 6 ม.ค.65 อาทิ การตั้งกองบัญชาการร่วม และหลังเหตุการณ์ก็ได้แบ่งปันข้อมูลอย่างรวดเร็ว           —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                     …

ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ในอังกฤษ จะต้องส่งข้อมูลเพื่อสอบสวนกรณีเด็กเสียชีวิต

Loading

    เว็บไซต์ The Guardian รายงานเมื่อ 22 มิ.ย.66 ว่า รัฐสภาสหราชอาณาจักรได้ผ่านร่างกฎหมายความปลอดภัยบนโลกออนไลน์   โดยกำหนดให้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ต้องส่งข้อมูลของเด็กในกรณีที่ต้องสงสัยว่าเสียชีวิตจากภัยบนโลกออนไลน์ให้แก่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพผ่าน Office of Communications (Ofcom) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรคมนาคม และการสื่อสารในสหราชอาณาจักร เพื่อร่วมกันหาสาเหตุการเสียชีวิต   แม้ปัจจุบันแพลตฟอร์มออนไลน์จะแบ่งปันข้อมูลของเด็กที่เสียชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพโดยสมัครใจแต่กฎหมายได้ให้อำนาจอย่างจำกัด เช่น กรณีของ Molly Russell ที่ใช้เวลายาวนานถึง 5 ปี ในการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากข้อจำกัดด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนอินสตราแกรม ซึ่งผลการสืบสวนพบว่า เธอได้ดูเนื้อหาจำนวนมากเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย ทั้งยังมีภาวะซึมเศร้า และทำร้ายตัวเอง สุดท้ายเธอได้ฆ่าตัวตายในอายุ 14 ปี   พ่อของ Russell กล่าวว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพและครอบครัวจะต้องเข้าถึงข้อมูลบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเด็ก “มาตรการนี้จะเป็นก้าวแรกในการหยุดวงจรการสูญเสียได้” และแม้บางแพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์ “มรดกดิจิทัล (Digital legacy)” ที่อนุญาตให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตสามารถเข้าถึงบัญชีได้ แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวก็ไม่เหมาะกับเด็กที่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน      …

ออสเตรเลียเตรียมยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ สอท.แห่งใหม่ของรัสเซีย เหตุกังวลด้านความมั่นคง

Loading

    รัฐบาลออสเตรเลียเร่งออกกฎหมายยุติการเช่าที่ดินในเมืองยาร์ราลัมลา กรุงแคนเบอร์รา ซึ่งเป็นสัญญาเช่าระหว่าง National Capital Authority (NCA) หน่วยงานด้านการวางแผนและพัฒนากรุงแคนเบอร์รากับสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อมิให้รัสเซียก่อสร้างสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภาออสเตรเลีย เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง ด้านนายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่า จะเร่งดำเนินการโดยเร็วเพื่อยับยั้งไม่ให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นสถานที่ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียเคยดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อยุติการเช่าที่ดินไปแล้วเมื่อ ส.ค.65 แต่ศาลรัฐบาลกลางของออสเตรเลียได้พิพากษายกคำร้อง เมื่อ 31 พ.ค.66 โดยปัจจุบันรัสเซียยังคงแสดงสถานะทางการทูตตามปกติในสถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย ณ เมืองกริฟฟิธ กรุงแคนเบอร์รา           —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                                เว็บไซต์ The Guardian     …