ผลสำรวจของ Pew พบว่าชาวอเมริกันเกินครึ่งมองว่า TikTok เป็นภัยความมั่นคงของชาติ

Loading

    ผลการสำรวจของสำนักวิจัยของสหรัฐฯ Pew Research Center ในช่วงกลางเดือน พ.ค.66 หลังจากที่นาย Greg Gianforte ผู้ว่าการรัฐมอนแทนา ได้ประกาศลงนามในกฎหมายสั่งแบนแอปพลิเคชัน TikTok ของจีน ซึ่งเป็นรัฐแห่งแรกในสหรัฐฯ ที่แบนอย่างเป็นทางการ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกันร้อยละ 59 จากชาวอเมริกันจำนวน 5,100 คน มองว่า TikTok เป็นภัยความมั่นคงของประเทศสหรัฐฯ จำนวนร้อยละ 17 คิดว่าแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคาม และอีกร้อยละ 23 ตอบว่าไม่แน่ใจ   นอกจากนี้ ผลการสำรวจพบว่า อายุมีผลต่อความคิดที่แตกต่างกัน โดยผู้ที่มีอายุ 18-29 ปี คิดว่า TikTok เป็นภัยคุกคามสำคัญเพียงร้อยละ 13 ในขณะที่ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปมองว่าเป็นภัยคุกคามสำคัญมากถึงร้อยละ 46   อย่างไรก็ตาม เมื่อ มี.ค.66 TikTok เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันที่ใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok มีจำนวน…

รัฐสภาสิงคโปร์ผ่านร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เป็นอันตราย

Loading

    เมื่อ 5 ก.ค.66 รัฐสภาสิงคโปร์ผ่านร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เป็นอันตราย (The Online Criminal Harms Act – OCHA) กำหนดให้รัฐบาลมีอำนาจสั่งลบเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และบัญชีออนไลน์ที่ต้องสงสัยว่าใช้ในกิจกรรมทางไซเบอร์ที่เป็นอันตราย เช่น การหลอกลวง การให้กู้ยืมเงินที่ผิดกฎหมาย การพนันที่ผิดกฎหมาย ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวมถึงความผิดอื่น ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปรองดองของคนในชาติ และความปลอดภัยของบุคคล   หากมีข้อสงสัยหรือมีเหตุให้เชื่อว่ากิจกรรมออนไลน์นั้นกำลังดำเนินการเพื่อเตรียมการหรือเป็นส่วนหนึ่งในการกระทำความผิด แม้ว่าความผิดจะยังไม่เกิดขึ้น รัฐบาลสามารถออกคำสั่งให้บุคคลหรือบริการออนไลน์หยุดการสื่อสารเนื้อหาออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย อาทิ ปิดกั้นการใช้งานหรือการเข้าถึงเนื้อหา ระงับบัญชี บล็อกการเข้าถึงโดเมนเว็บไซต์ หรือลบแอปพลิเคชันออกจากร้านค้าออนไลน์ หรือกรณีเว็บไซต์ที่มีโดเมนคล้ายกับธนาคารอาจถูกลบออกหากมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะถูกใช้เพื่อปลอมแปลงเป็นธนาคาร โดยภารกิจดังกล่าวจะใช้กลไกของศูนย์ต่อต้านการหลอกลวง (Anti-Scam Center) ซึ่งสามารถปฏิบัติงานทั้งในเชิงรับและเชิงรุกอย่างรวดเร็วเพื่อลดผลกระทบและป้องกันไม่ให้มีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเพิ่มมากขึ้น   รัฐบาลจะสร้างสมดุลระหว่างการป้องกันอันตรายและความเป็นส่วนตัว เช่น ยังคงอนุญาตให้บริษัทออนไลน์ใช้การเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางในการส่งข้อความส่วนตัว รวมถึงให้เสรีภาพในการพูด ซึ่งจะต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลและสังคม หรือใช้คำพูดแสดงความเกลียดชัง   อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้เฉพาะกับเนื้อหาออนไลน์และกิจกรรมที่ถือเป็นความผิดทางอาญาในสิงคโปร์เท่านั้น แต่ยังอนุญาตให้รัฐบาลออกคำสั่งแก่หน่วยงานและบุคคล แม้จะไม่ได้อยู่ในสิงคโปร์ แต่มีข้อจำกัดที่บางประเทศอาจเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตาม    …

ออสเตรเลียจัดตั้งศูนย์ต่อต้านการหลอกลวงแห่งชาติ

Loading

  ออสเตรเลียเปิดตัวศูนย์ต่อต้านการหลอกลวงแห่งชาติ (National Anti-Scam Centre) เมื่อ 3 ก.ค.66 ซึ่งบริหารงานภายใต้คณะกรรมาธิการด้านการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย (ACCC)   โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นคณะทำงานซึ่งทำหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแล ได้แก่ กรมสรรพากร (ATO) กระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย องค์การสื่อและการสื่อสารแห่งออสเตรเลีย (ACMA) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย (ASIC) ส่วนผู้ปฏิบัติงานนั้นประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจากทั้งภาครัฐ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และภาคเอกชน ซึ่งจะใช้ความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ รวมถึงด้านข่าวกรอง เพื่อต่อสู้กับการหลอกลวง   จุดมุ่งหมายในการจัดตั้งศูนย์ฯ เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการหลอกลวงและทราบถึงกลโกงหรือวิธีการของมิจฉาชีพ ตรวจจับและขัดขวางการกระทำของมิจฉาชีพ รวมถึงช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับเงินที่สูญเสียไปกลับคืน โดยเฉพาะการหลอกลวงให้ลงทุน ซึ่งมากกว่าร้อยละ 50 ของการหลอกลวงประเภทอื่น ส่งผลให้ชาวออสเตรเลียสูญเสียเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 23,450 ล้านบาท) ต่อปี   ACCC กำลังดำเนินการจัดสร้างระบบเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูลระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน สำหรับการแจ้งเตือนข้อมูลการหลอกลวง อย่างไรก็ดี ในปี 2565 ชาวออสเตรเลียสูญเสียเงินมากกว่า 3.1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย…

เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ พบสารโคเคนที่ทำเนียบขาว

Loading

เมื่อ 2 ก.ค.66 เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (The United States Secret Service – USSS) เข้าตรวจสอบสถานที่ทำเนียบขาวตามภารกิจเวลา 18.00 น. และค้นพบผงสีขาวต้องสงสัยบริเวณส่วนกลางของพื้นที่ปีกตะวันตกในทำเนียบขาว จึงได้ยกระดับแจ้งเตือนความปลอดภัย โดยสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากอาคารและปิดทำเนียบขาวเป็นการชั่วคราว รวมถึงเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยทีมวัตถุอันตรายของหน่วยงานดับเพลิงและบริการการแพทย์ฉุกเฉินเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย (DC Fire & EMS) เข้าตรวจสอบเวลา 20.49 น. ซึ่งผลทดสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นโคเคน ด้านนาย Anthony Guglielmi โฆษกของ USSS กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสารดังกล่าวเพิ่มเติม รวมทั้งสอบสวนหาสาเหตุและวิธีการนำสารเข้ามายังทำเนียบขาว และอ้างถึงหน่วยงาน DC Fire & EMS ที่ระบุว่าสารซึ่งพบในพื้นที่นั้น “ไม่ถือเป็นภัยคุกคาม” ทั้งนี้ ขณะพบสารดังกล่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบขาว —————————————————————————————————————————————— ที่มา :               …

สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ ทำข้อมูลผู้รับบริการรั่วไหลนานหลายปี

Loading

  สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (USPTO) ทำข้อมูลที่อยู่ของผู้ยื่นเอกสารขอออกสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าประมาณ 61,000 ราย ระหว่าง ก.พ.63 ถึง มี.ค.66 รั่วไหลสู่สาธารณะโดยไม่ตั้งใจ ส่งผลกระทบประมาณร้อยละ 3 ของผู้ยื่นเอกสารทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว   ทั้งนี้ USPTO ได้ส่งประกาศแจ้งเตือนพร้อมทั้งคำขอโทษไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบทราบแล้ว โดยระบุว่าปัญหาเกิดจากช่องโหว่ของซอฟต์แวร์เชื่อมต่อระบบ หรือ Application Programing Interface – API ที่อนุญาตให้แอปพลิเคชันที่ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้จัดเก็บไฟล์สามารถเข้าถึงระบบเพื่อตรวจสอบสถานะของเครื่องหมายการค้าที่รอดำเนินการและจดทะเบียนแล้ว แต่ระบบไม่ได้ปกปิดข้อมูลที่อยู่ของผู้รับบริการ ทำให้ผู้อื่นสามารถเห็นข้อมูลดังกล่าวผ่านทางออนไลน์ได้   หลังจาก USPTO ทราบถึงปัญหาก็ได้ทำการแก้ไขเมื่อ 1 เม.ย.66 โดยการบล็อกการเข้าถึง API ที่ไม่สำคัญในระบบทั้งหมด รวมถึงลบข้อมูลที่ส่งผลกระทบจำนวนมากออกจากระบบจนกว่าจะมีการแก้ไขอย่างถาวร   อย่างไรก็ดี USPTO เชื่อว่าข้อมูลที่หลุดนี้จะไม่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด       ————————————————————————————————————————————— ที่มา :             เว็บไซต์ TechCrunch …

สหภาพยุโรปเตรียมออกกฎหมายควบคุมการใช้ข้อมูลผู้บริโภคและองค์กรในยุโรป

Loading

ประเทศในสหภาพยุโรปและฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงในการออกพระราชบัญญัติข้อมูล (Data Act) เมื่อ 27 มิ.ย.66 เพื่อควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Big Tech) และบริษัทอื่น ๆ ในการใช้ข้อมูลของผู้บริโภคและองค์กรในยุโรป รวมถึงป้องกันรัฐบาลนอกสหภาพยุโรปเข้าถึงข้อมูลอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้จะครอบคลุมไปถึงข้อมูลของผู้บริโภคที่สร้างบนอุปกรณ์อัจฉริยะ เครื่องจักร และสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ กฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ให้บริการระบบคลาวด์จะต้องให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการถ่ายโอนข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ต้องมีการสร้างหรือพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ หากเป็นการใช้ข้อมูลที่ซ้ำกัน  นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคและบริษัทสามารถคัดลอกหรือถ่ายโอนข้อมูลจากผู้ให้บริการรายเดิมไปยังผู้ให้บริการรายใหม่ได้ง่ายขึ้น และคาดว่าจะส่งผลให้การบังคับให้ผู้บริโภคแบ่งปันข้อมูลแก่บุคคลที่สามลดน้อยลง —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                             เว็บไซต์ Reuters                         / วันที่เผยแพร่  28…