หนักกว่าเดิม สหรัฐเล็งใช้ อาวุธเลเซอร์ ตัวใหม่ ติดอาวุธโจมตีเป้าหมายเพิ่ม

Loading

  ไม่นานมานี้ บริษัท Lockheed Martin ได้ส่งมอบ อาวุธเลเซอร์ ที่ทรงพลังที่สุดในโลกให้กับกองทัพสหรัฐ เพื่อนำไปติดตั้งในเครื่องสาธิตอาวุธเลเซอร์ใหม่ที่ออกแบบมาโจมตีเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น   ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 บริษัทได้เปิดตัวอาวุธเลเซอร์ชื่อว่า HELIOS ที่บริษัทได้ส่งมอบให้กับกองทัพเรือสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมเพื่อนำไปประกอบรวมเข้ากับเรือรบที่มีอยู่ ซึ่งอาวุธเลเซอร์นี้สามารถทำลายเครื่องบินหรือหัวรบได้ก่อนที่มันจะมาถึงเรือ   แต่เลเซอร์ขนาดใหม่นี้ มีขนาด 300 กิโลวัตต์ ซึ่งมากกว่า 5 เท่าของ HELIOS นั่นแปลว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้เวลาน้อยลงในการทำลายเป้าหมาย สามารถโจมตีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นได้หลากหลายมากขึ้นในระยะไกลขึ้น   หากเทียบกับอาวุธอื่นเช่นจรวดมิสไซล์ หรือปืนกล อาวุธเลเซอร์ถือว่ามีประสิทธิภาพที่สูงกว่ามาก แถมยังมีต้นทุนในการยิงต่อครั้งไม่เกิน 100 ดอลลาร์ นับว่าเป็นเขี้ยวเล็บใหม่ของสหรัฐที่อาจทำให้หลาย ๆ ประเทศต้องยำเกรง     ที่มาข้อมูล https://newatlas.com/military/lockheed-martin-delivers-record-300-kw-laser-weapon-to-us-military/       ———————————————————————————————————————————————- ที่มา :    TechHub         …

ตร.ซ้อมแผนเผชิญเหตุเสมือนจริง รองรับการรักษาความปลอดภัยประชุมเอเปก

Loading

  ตร.ซ้อมแผนเผชิญเหตุเสมือนจริง รองรับการรักษาความปลอดภัยประชุมเอเปก   19 ก.ย.2565 – ที่ศูนย์การค้าเดอะคริสตัล เอกมัย – รามอินทรา กรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( ผบช.น.) ชมการฝึกซ้อมแผนแก้ไขปัญหาสถานการณ์วิกฤตและการเผชิญเหตุ รองรับการประชุมเอเปค 2565 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2565 โดยมีคณะผู้แทนสำนักงานรักษาความมั่นคงทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ,สำนักงานรักษาความมั่นคง ทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ,สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล(ศตก.) กองทัพไทย ร่วมชมความฝึก ดูความพร้อมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   โครงการฝึกซ้อมแผนแก้ไขปัญหาสถานการณ์วิกฤตและการเผชิญเหตุ รองรับการประชุมเอเปค…

ญี่ปุ่นสั่งอพยพ 4 ล้านคน – ยกเลิกเที่ยวบิน รับมือไต้ฝุ่นนันมาดอล

Loading

  ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยระดับพิเศษ และมีคำสั่งให้ประชาชนกว่า 4 ล้านคนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่น “นันมาดอล” ที่คาดว่าจะพัดเฉียดหรือขึ้นฝั่งบนเกาะคิวชูทางภาคใต้ในวันนี้   สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานวันนี้ว่า ตาพายุไต้ฝุ่น “นันมาดอล” อยู่ทางใต้ของเกาะคิวชูแล้วในเช้าวันนี้ และเคลื่อนตัวช้า ๆ โดยคาดว่า จะพัดเข้าใกล้ที่สุดหรือขึ้นฝั่งช่วงวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์   พายุอ่อนกำลังลงเมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ โดยในเมืองยากุชิมะ จังหวัดคาโงชิมะ วัคดวามเร็วลมได้สูงสุด 183.24 กม./ชม. แต่ยังอาจมีความเร็วลมสูงสุดถึง 250 กม./ชม.ได้ และพายุอาจทำให้มีฝนตกวัดได้ 600 มิลลิเมตรในพื้นที่ตอนใต้ของเกาะคิวชูในช่วง 24 ชม.จนถึง 6.00 น.ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น และทางตอนเหนือของเกาะคิวชูและเกาะชิโกกุอาจมีฝนตกวัดได้ 400 มิลลิเมตร หลังจากนั้นพายุจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่เกาะฮอนชู   ก่อนหน้านี้สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ออกคำเตือนภัยพายุระดับสูงที่สุดในจังหวัดคาโงชิมะเมื่อเย็นวันเสาร์ หลังจากพยากรณ์อากาศคาดว่า พายุจะมีความรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี และจะพัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดคาโงชิมะในวันอาทิตย์ โดยเป็นคำเตือนภัยระดับพิเศษเกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่นที่ประกาศนอกภูมิภาคโอกินาวะครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มมีการใช้ระบบเตือนภัยนี้ในปี 2556   ทางการประกาศเตือนภัยระดับ 5 ที่เป็นระดับสูงสุดให้ประชาชนกว่า 110,000 คนในจังหวัดคาโงชิมะ และจังหวัดมิยาซากิอพยพออกจากบ้านเรือน…

ผู้ที่อยู่ในคิวรอถวายความเคารพและรักอาลัยต่อสมเด็จพระราชินีนาถ บอกว่ามีคนร้องไห้ระงม และช็อกกันไปหมดที่ต้องประสบกับเหตุร้ายน่าสะเทือนขวัญ

Loading

  ชมคลิปดรามาระทึกไล่ล็อกตัวพัลวัน หนุ่มเฮี้ยนพุ่งฝ่าแนวพิทักษ์พระบรมศพควีน จะกระชากธงคลุมหีบ!!   ในจำนวนผู้คนหลายแสนชีวิตที่เข้าเฝ้าถวายคารวาลัยแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ณ ท้องพระโรง อาคารเวสต์มินสเตอร์ ฮอลล์ ของรัฐสภาอังกฤษ ปรากฏว่ามีวายร้ายออกปฏิบัติการเดี่ยว พุ่งตัวฝ่าตำรวจและทหารมากมายที่เฝ้าพิทักษ์ปกป้องพระบรมศพ หมายจะขึ้นไปกระชายธงพระอิสริยยศที่คลุมหีบพระบรมศพ แต่ชายจอมเฮี้ยนรายนี้กระทำการไม่สำเร็จ และถูกปราบอย่างเฉียบขาด ถูกจับกุมและนำตัวออกจากท้องพระโรงไปอย่างรวดเร็ว นับเป็นความโกลาหลที่สร้างความสะเทือนใจอย่างที่สุดที่มีคนบ้าบิ่นบังอาจกระทำการจาบจ้วงพระเกียรติยศของสมเด็จพระราชินีนาถผู้เป็นที่รักและเคารพของประชาชนชาวอังกฤษ   ประชาชนนับร้อยกรีดร้องดังก้องท้องพระโรงที่ประดิษฐานหีบพระบรมศพควีนอังกฤษ เนื่องจากเกิดเหตุโกลาหลที่แสนจะเหลือเชื่อว่าใครเลยจะกล้า ชายผู้บ้าบิ่นขั้นสุดพุ่งตัวออกจากแถวคิว วิ่งฝ่าตำรวจและทหาร หมายจะเข้าไปคว้าผืนธงคลุมหีบพระบรมศพซึ่งตั้งบนเวทียกพื้นตื้นๆ เพียงประมาณสองฟุต   ทีมเจ้าหน้าที่ซึ่งมีปฏิกิริยาฉับไวพากันกระโจนตามไล่คว้าตัวชายลึกลับเป็นพัลวัน พร้อมกับลากให้ออกห่างจากหีบพระบรมศพได้ภายในไม่กี่วินาที แม้จะมีการดิ้นรนวุ่นวายเพราะจะไม่ยอมถูกจับกุม เดอะมิเรอร์รายงาน   ตามคลิปสั้นๆ ที่มีคนตาไวบันทึกคลิปเหตุการณ์โกลาหลอันน่าระทึกใจไว้ได้นั้น ชายลึกลับร่างสันทัดนายนี้ปฏิบัติการได้รวดเร็วทีเดียว เขาสามารถทะยานขึ้นไปถึงยกพื้นเวทีขั้นที่ 3 ภายใต้ความพยายามจะเข้าไปคว้าธงพระอิสริยยศให้หลุดจากหีบพระบรมศพ โดยดูเหมือนว่าเขาได้แตะๆ เฉียดๆ ชายผืนธงพระอิสริยยศแบบแว่บๆ   ในวินาทีเดียวกันนั้น สุดยอดเจ้าหน้าที่ร่างสูงใหญ่ในเครื่องแบบสีดำผู้ทรงประสิทธิภาพในการถวายอารักขาอย่างอัศจรรย์ สามารถออกปฏิกิริยาพุ่งกายตามไปคว้าวายร้ายได้ทันควัน และใช้พละกำลังกับความชำนาญในการปะทะที่เหนือชั้น ล็อกและดันวายร้ายจอมระห่ำให้ถอยกรูด จนกระทั่งถลาล้มกองไปบนพื้นหินด้วยกันอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ ศักยภาพขั้นสูงของเจ้าหน้าที่ทำให้ปฏิบัติการของคนร้ายล้มเหลว หลังจากที่จวนเจียนจะสามารถจาบจ้วงเบื้องพระยุคลบาทได้ แบบว่าเกือบจะสำเร็จอย่างหวุดหวิด ชนิดที่ว่าอีกเพียงหนึ่งวินาที วายร้ายผู้ฉับไวใจคอบ้าบิ่นนายนี้อาจจะสามารถฉวยชายผืนธงพระอิสริยยศได้อยู่มือ และอาจกระทำการอันร้ายกาจได้อย่างที่ไม่น่าจินตนาการกันเลย  …

ใหญ่สุดใน ปวศ.! อังกฤษระดมจนท.ฝ่ายความมั่นคงทั่วปท. คุมเข้มรักษาความปลอดภัยงานพิธีพระบรมศพ

Loading

เอเอฟพี   ใหญ่สุดในปวศ.! อังกฤษระดมจนท.ฝ่ายความมั่นคงทั่วปท. คุมเข้มรักษาความปลอดภัยงานพิธีพระบรมศพ   ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน แถลงต่อผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (16 ก.ย.)ว่า พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเป็นงานรักษาความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของกรุงลอนดอน โดยจะมีผู้นำจากทั่วโลกและประชาชนนับหลายแสนคนที่พากันมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของสหราชอาณาจักรแห่งนี้   สจ๊วต คันดี รองผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน กล่าวว่า ตนยืนยันได้ว่านี่จะเป็นงานรักษาความสงบเรียบร้อยครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ตำรวจนครบาลลอนดอนเคยดำเนินการมา งานนี้ใหญ่กว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2012 และใหญ่กว่างานฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปี โดยจะมีการเกณฑ์กำลังเจ้าหน้าที่มากกว่า 2,000 นายจากทั่วประเทศ เพื่อมาสมทบกำลังกับตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดในการรักษาการณ์   เอเอฟพี   เจ้าหน้าที่ตำรวจจะระดมวางแนวกั้นเป็นระยะทางมากกว่า 36 กิโลเมตรในใจกลางกรุงลอนดอน โดยคาดว่าจะมีประชาชนหลายแสนคนที่จะมาเฝ้ารอรับขบวนอัญเชิญพระบรมศพตลอดเส้นทางการเคลื่อนพระบรมศพ   รองผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจฯกล่าวอีกว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝูงชนและจำนวน การเพิ่มขึ้นและการเบียดเสียด นั่นเป็นสิ่งที่ตำรวจจะคอยจับตาดูอยู่เสมอ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีที่มี เราจึงสามารถเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากมุมต่างๆ ได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในแง่ของการควบคุมฝูงชน แต่ไม่ใช่เพียงแค่จำนวนผู้คนเท่านั้นที่เป็นสิ่งท้าท้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่นี่จะเป็นปฏิบัติการคุ้มครองด้านความปลอดภัยระดับโลกครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ตำรวจนครบาลลอนดอนเคยดำเนินการมา   เอเอฟพี   ทั้งนี้คาดว่าจะมีแขกบุคคลสำคัญระดับโลกมากกว่า 2,000 คน ที่จะมาร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2…

คีย์บอร์ดบึ้ม นร.ตายที่แท้ปืนลั่น “ตรีนุช”สั่งสอบ รร.ปิดข้อมูล-ซ่อนอาวุธ

Loading

  รมว.ศึกษาธิการ สั่งสอบโรงเรียนดังย่านนนทบุรี แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ระเบิดทำเด็กตาย ที่แท้สาเหตุปืนลั่น พร้อมหาข้อเท็จจริงผู้ปกปิดข้อมูลและซ่อนอาวุธปืน   เมื่อวันที่ 15 ก.ย. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีมีเหตุระเบิดหน้าคอมพิวเตอร์ ภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นเหตุทำให้นักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 1 ราย จากการตรวจสอบพบร่องรอยความเสียหายเกิดขึ้นบริเวณแป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ดว่า ตนได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) แล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่า การเสียชีวิตของนักเรียนชายคนดังกล่าว ไม่ได้เกิดจากแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ระเบิด แต่เกิดจากเพื่อนทำปืนลั่นใส่ โดยตนสั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนว่า สาเหตุใดโรงเรียนถึงปกปิดข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนการดำเนินคดีให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่สอบสวนต่อไป   รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมา ตนย้ำมาตลอดเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา เพราะเป็นนโยบายสำคัญของ ศธ. ที่นักเรียนจะต้องได้รับความปลอดภัยในทุกมิติ ดังนั้นขอให้ครูและผู้บริหารได้เข้มงวดมาตรการความปลอดภัยต่างๆ ด้วย รวมถึงสังเกตพฤติกรรมของเด็กในห้องเรียนเป็นรายบุคคลด้วยว่า จะมีความสุ่มเสี่ยงไปทำอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือไม่         ที่มา : เดลินิวส์   /   วันที่เผยแพร่…