ระทึก! ‘ทรัมป์’ เผ่นหนีออกจากห้องแถลงข่าว หลังเกิดเหตุยิงกันนอกทำเนียบขาว

Loading

รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถูกตำรวจอารักขาประธานาธิบดี (ซีเคร็ต เซอร์วิส) พาออกจากห้องแถลงข่าวอย่างกะทันหันเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) หลังเกิดเหตุยิงกันที่ด้านนอกทำเนียบขาว ทรัมป์ กำลังยืนบนโพเดียมและชี้แจงเรื่องตลาดหุ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสคนหนึ่งเข้ามาเบรกและเชิญเขาออกไปจากห้อง ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สตีเวน มนูชิน และผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณ รัสส์ วอต ก็ถูกพาออกจากห้องแถลงข่าวเช่นเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ เดินกลับเข้าไปที่ห้องสื่อมวลชนอีกครั้งในอีกหลายนาทีต่อมา และชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้ยิงสกัดบุคคลคนๆ หนึ่งซึ่งมีอาวุธ และนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลแล้ว “มีการยิงกันเกิดขึ้นที่ด้านนอกทำเนียบขาว และดูเหมือนจะคุมสถานการณ์ได้แล้ว” ทรัมป์ บอก “แต่มีการยิงเกิดขึ้นจริงๆ และใครบางคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผมยังไม่ทราบว่าอาการเขาเป็นอย่างไร” ทรัมป์ เผยด้วยว่า จุดที่มีการยิงกันนั้นอยู่ใกล้กับรั้วด้านนอกทำเนียบ หน่วยซีเคร็ตเซอร์วิสแถลงผ่านสื่อทวิตเตอร์ว่า “เรากำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสที่เกี่ยวข้องกับเหตุยิงกันครั้งนี้ ชายผู้ต้องสงสัยและเจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสถูกนำส่งโรงพยาบาลทั้งคู่ แต่เรายืนยันว่าไม่มีใครบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ทำเนียบขาว และไม่มีผู้ถูกอารักขาคนใดได้รับอันตราย” ประตูห้องแถลงข่าวของทำเนียบขาวถูกล็อกทันที หลังจากเจ้าหน้าที่พาตัว ทรัมป์ ออกไป ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวชื่นชมตำรวจอารักขาซึ่งปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองตนอย่างรวดเร็ว และระบุว่าทางซีเคร็ตเซอร์วิสจะแถลงรายละเอียดให้ทราบในภายหลัง ————————————————————- ที่มา : MGR Online…

สหรัฐสั่งคุก 15 ปี มือวางแผนก่อวินาศกรรมถล่มทำเนียบขาว

Loading

แฟ้มภาพนายแฮเชอร์ ทาเฮบ ผู้ต้องหาในคดีวางแผนโจมตีทำเนียบขาว ซึ่งทั้งสองภาพถ่ายไว้ในปี 2015 (เอพี) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาแถลงเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า นายแฮเชอร์ ทาเฮบ ชาวเมืองคัมมิง รัฐจอร์เจีย อายุ 23 ปี ถูกศาลตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปี จากการวางแผนที่จะก่อวินาศกรรมโจมตีทำเนียบขาวด้วยจรวดต่อต้านรถถังและวัตถุระเบิดต่างๆ และยังมีแผนที่จะโจมตีรูปปั้นเทพีเสรีภาพ อนุสาวรีย์วอชิงตัน อนุสรณ์สถานลินคอล์น และ โบสถ์ยิวในกรุงวอชิงตันด้วย ข่าวแจ้งว่า การตัดสินโทษมีขึ้นหลังจากนายทาเฮบถูกเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐจับกุมตัวไว้ได้เมื่อวันที่ 16 มกราคมปี 2019 หนึ่งปีหลังจากที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอของสหรัฐได้รวบรวมข้อมูลหลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในชุมชนว่านายทาเฮบซึ่งขณะนั้นมีอายุ 21 ปี มีรากฐานทางความคิดที่เปลี่ยนไป ในคำฟ้องระบุว่านายทาเฮบได้พยายามเกณฑ์ให้ผู้แจ้งข่าวและเจ้าหน้าที่เอฟบีไอนอกเครื่องแบบเข้าร่วมแผนการก่อวินาศกรรมของตนเอง ซึ่งนายทาเฮบกล่าวอ้างว่าเป็นหน้าที่ของเขาในการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อจะได้เป็นผู้พลีชีพเพื่อศาสนา โดยในตอนแรกนายทาเฮบหวังจะเดินทางไปยังพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในตะวันออกกลาง แต่ได้เปลี่ยนใจที่จะลงมือในสหรัฐ เนื่องจากเขาไม่มีพาสปอร์ต ทั้งนี้การจับกุมนายทาเฮบมีขึ้นขณะเขาถูกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอล่อจับในระหว่างรอรับอาวุธที่นายทาเฮบสั่งให้นำมาส่งให้ทั้งอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ระเบิดและอาวุธต่อต้านรถถังเอที-4 —————————————————————- ที่มา : มติชน / 24 กรกฎาคม 2563 LInk : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2279229

รถ ผบ.ตร.เม็กซิโก ถูกกราดยิงกลางเมืองหลวงของประเทศ

Loading

ในช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในประเทศเม็กซิโก เมื่อมือปืนหลายสิบคนได้รุมกระหน่ำยิงรถของ ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 63 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโอมาร์ การ์เซีย ฟาร์ฮุค ผู้บัญชาการตำรวจกรุงเม็กซิโกซิตี้ ถูกมือปืนกระหน่ำยิงขณะกำลังนั่งรถเดินทางภายในเมืองเมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.30 นาทีของวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยโฆษกอัยการเปิดเผยว่ามือปืน 28 คน ได้ดักรอรถของผู้บัญชาการตำรวจตั้งแต่ช่วงเวลา 04.00 น. ของวันเดียวกัน และเมื่อรถของเป้าหมายมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายก็ใช้รถบรรทุกปิดเส้นทางและเริ่มลงมือกราดยิงใส่รถยนต์ นางคลอเดีย เชียนบาม นายกเทศมนตรีประจำกรุงเม็กซิโก ซิตี้ได้เปิดเผยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้นายฟาร์ฮุคได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน และหญิงที่ใช้ท้องถนนในระหว่างเกิดเหตุอีก 1 คนเสียชีวิต ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้มีอาการทรงตัว โดยผู้ได้รับบาดเจ็บมีแผลที่บริเวณหัวไหล่ หัวเข่า และกระดูกไหปลาร้า ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุอุกอาจครั้งนี้ 12 คน และทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบด้วยการดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ รวมไปถึงสอบปากคำผู้ต้องสงสัย ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังรวมไปถึงมูลเหตุจูงในการก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้ ด้านนายฟาร์ฮุคได้ทวีตข้อความกล่าวหาว่ากลุ่ม CJNG แก๊งอาชญกรรมในเม็กซิโกเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ———————————————————– ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / 27 มิถุนายน…

ระทึก รถนายกฯ อังกฤษหลบผู้ประท้วง ก่อนโดนชนท้ายหน้ารัฐสภา

Loading

รถยนต์ที่บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยสาร ประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายหน้ารัฐสภา หลังเบรกกะทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า รถยนต์ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักรกำลังโดยสาร ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน เมื่อวันพุธที่ 17 มิ.ย. 2563 หลังจากรถคันดังกล่าวพยายามหลบผู้ประท้วงที่สนับสนุนชาวเคิร์ด ที่วิ่งลงมาบนถนน ทำให้รถที่ขับตามมาพุ่งชนท้าย คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นว่า รถยนต์จากัวร์ของนายกฯ จอห์นสัน ซึ่งกำลังเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ต้องเบรกกะทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน ก่อนจะถูกรถยนต์ที่ตามมาชนท้ายจนเกิดรอยยุบขนาดใหญ่ ขณะที่ตำรวจปลุกปล้ำจับกุมผู้ประท้วงที่ก่อเหตุลงกับพื้น ด้านตำรวจเทศบาลกรุงลอนดอนระบุว่า การเฉี่ยวชนเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 14.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ผู้ประท้วงผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวในข้อหาสร้างความไม่สงบในที่สาธารณะ และกีดขวางการจราจรบนท้องถนน ส่วนสำนักงานนายกรัฐมนตรียืนยันว่า นายจอห์นสันที่อยู่ในรถไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งนี้ คาดว่าผู้ประท้วงดังกล่าวออกมาเคลื่อนไหวแสดงการต่อต้านตุรกี ที่ตัดสินใจส่งทหารโจมตีกบฏชาวเคิร์ดในซีเรียอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ——————————————————- ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / 18 มิถุนายน 2563 Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1871317