ตั้งข้อหาอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ แปรพักตร์เป็นสายลับให้อิหร่าน
สนามบินลอนดอนแกตวิคนำ “หุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติ” ที่ชื่อว่า “สแตน” มาช่วยเพิ่มความสะดวกและจัดสรรพื้นที่จอดอย่างมีประสิทธิภาพ ท่าอากาศยานลอนดอนแกตวิค เป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของสหราชอาณาจักร ปีที่แล้วมีนักเดินทางผ่านเข้าออกที่นี่ราว 46.1 ล้านคน แน่นอนว่าอัตราผู้ใช้บริการที่สูงขนาดนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบอำนวยความสะดวกในสนามบิน โดยเฉพาะจุดจอดรถซึ่งมีพื้นที่จำกัด ในปีนี้สนามบินจึงได้นำเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง “หุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติ” เข้ามาเป็นตัวช่วย เพื่อเพิ่มความสะดวกและจัดสรรพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเจ้าหุ่นยนต์ที่ว่านี้จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนพนักงานที่นำรถของเราไปจอดยังช่องว่าง โดยที่เราไม่ต้องไปขับวนหาที่จอดเอง สแตน (Stan) คือชื่อหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติ ที่จะทำหน้าที่ในสนามบินแกตวิค โดยบริษัทที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมนี้ก็คือ Stanley Robotics บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเคยนำสแตนไปทดสอบที่สนามบินลียง แซงเต็กซูเปรี และท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ล เดอ โกล ของฝรั่งเศสมาแล้ว สำหรับที่สนามบินแกตวิคจะใช้เวลาทดลองระบบ 3 เดือน โดยโครงการเริ่มในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ และทดลองจริงในเดือน ส.ค. เพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานว่า สแตนจะช่วยจัดการให้พื้นที่จอดรถในสนามบินเพิ่มจำนวนขึ้นได้หรือไม่ โดยทางสนามบินจะเตรียมพื้นที่ 170 จุด จากพื้นที่จอดรถทั้งหมด 2,350 คัน ซึ่งคาดการณ์ว่าเมื่อใช้หุ่นยนต์มาช่วยจะทำให้ที่จอดรถสำหรับ 170 คัน เพิ่มเป็น 270…
ในฐานะองค์ประมุขประเทศ สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงวางพระองค์เป็นกลางในทางการเมือง และมักไม่แสดงความคิดเห็นส่วนพระองค์ในประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคม สื่อชั้นนำอังกฤษสองแห่ง เผยแผนฉุกเฉินของรัฐบาล หากเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศจากกรณีเบร็กซิทไร้ข้อตกลงในเดือนหน้า ด้วยการประกาศใช้แผนฉุกเฉินช่วงสงครามเย็นอพยพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 ตลอดจนเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ให้แปรพระราชฐานไปประทับยังเซฟเฮาส์นอกกรุงลอนดอน “แผนอพยพฉุกเฉินนี้ถูกกำหนดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น แต่ตอนนี้ได้มีการนำกลับมาใช้ใหม่หากเกิดความไม่สงบ หรือเกิดจลาจลในประเทศจากกรณีของเบร็กซิทที่ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้”ซันเดย์ไทม์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งบริหารจัดการเกี่ยวกับปัญหาละเอียดอ่อน ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะ เมล สื่อสิ่งพิมพ์ชื่อดังอีกฉบับของอังกฤษ รายงานตรงกันว่า รัฐบาลมีแผนที่จะให้บรรดาเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ รวมถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 แปรพระราชฐานไปประทับที่อื่นเช่นกัน เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2แห่งสหราชอาณาจักร มีพระราชดำรัสเรียกร้องให้ประชาชนแสวงหาความเห็นพ้องต้องกันที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และคารพ ความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งบรรดาผู้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่าพระราชดำรัสครั้งนี้ สื่อถึงประเด็นร้อนของประเทศคือการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (เบร็กซิท) ซึ่ง ส.ส.จะต้องลงมติในข้อตกลงเบร็กซิทของนายกรัฐมนตรีเทรีซา เมย์ ทั้งนี้ ในฐานะองค์ประมุข สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงวางพระองค์เป็นกลางในทางการเมือง และมักไม่แสดงความคิดเห็นส่วนพระองค์ในประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคม แต่พระราชดำรัสครั้งล่าสุดในงานฉลองครบรอบ 100 ปีขององค์กรสตรีซานดริงแฮม ในมณฑลนอร์ฟอล์ก สมเด็จพระราชินีนาถฯ ตรัสว่าการยึดถือความอดทนอดกลั้น มิตรภาพ การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และการคำนึงถึงความต้องการของผู้อื่น ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต —————————————————– ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / 4 กุมภาพันธ์…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว