‘แอมะซอน’ งดให้บริการ ‘เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า’ แก่ตำรวจสหรัฐฯ เป็นเวลา 1 ปี

Loading

รอยเตอร์ – บริษัท Amazon.com Inc ประกาศงดให้บริการเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า (facial recognition software) แก่ตำรวจสหรัฐฯ เป็นเวลา 1 ปี หลังเกิดเหตุประท้วงกรณีตำรวจใช้ความรุนแรงสังหารชายผิวสี นักเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพพลเมืองในสหรัฐฯ ต่อสู้เรียกร้องมานานถึง 2 ปีว่าระบบตรวจจับใบหน้าของแอมะซอนอาจระบุตัวบุคคลผิดพลาด จนนำไปสู่การจับกุมอย่างไม่เป็นธรรมได้ การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ หนุ่มผิวสีซึ่งถูกตำรวจมินนาอาโพลิสใช้เข่ากดคอจนขาดใจตายเมื่อเดือน พ.ค. ยิ่งกระพือข้อกังวลว่าระบบตรวจจับใบหน้าจะถูกใช้เป็นเครื่องมือเล่นงานผู้ประท้วง นักวิจารณ์ยังชี้ถึงผลการศึกษาในอดีตที่แสดงให้เห็นว่า บริการ ‘Rekognition’ ของแอมะซอนมักมีปัญหาในการระบุเพศของคนผิวสีเข้ม ซึ่งเป็นผลวิจัยที่แอมะซอนออกมาโต้แย้ง ล่าสุด แอมะซอนซึ่งจำหน่ายเทคโนโลยีคลาวด์ผ่านทาง Amazon Web Services ได้แถลงยืนยันวานนี้ (10 มิ.ย.) ว่า บริษัทจะผลักดันให้มีการออกกฎควบคุมการใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับใบหน้าอย่างมีจริยธรรม “เราหวังว่าการระงับบริการ 1 ปีจะช่วยให้สภาคองเกรสมีเวลามากพอที่จะบังคับใช้กฎระเบียบที่เหมาะสม และเราพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ หากมีการขอร้องมา” แอมะซอน ระบุ ทั้งนี้ แอมะซอนจะยังคงอนุญาตให้มีการใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการตามหาเหยื่อค้ามนุษย์ สภาคองเกรสได้เริ่มพิจารณาออกกฎควบคุมการใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้ามาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (8) บริษัท ไอบีเอ็ม ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังคองเกรสว่าจะเลิกจำหน่ายและพัฒนาเทคโนโลยีชนิดนี้…

ค่ายรถฮอนด้าถูกโจมตีไซเบอร์ กระทบปฏิบัติการทั่วโลก

Loading

  บีบีซี – ฮอนด้าเปิดเผยว่า กำลังจัดการกับเหตุถูกโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลกระทบกับปฏิบัติการต่างๆ ทั่วโลกของบริษัท ถ้อยแถลงของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ระบุว่า “ฮอนด้ายืนยันว่า เกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์ต่อเครือข่ายของฮอนด้า” พร้อมระบุปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ของบริษัท รวมถึงการใช้อีเมลและอื่นๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในระบบภายใน “นอกจากนี้แล้ว มันยังส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตนอกประเทศญี่ปุ่น” ถ้อยแถลงระบุ “เวลานี้เราอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อลดผลกระทบ และเพื่อกู้ปฏิบัติการผลิต, การขายและกิจกรรมต่างด้านพัฒนา คืนมาอย่างสมบูรณ์” บริษัทแห่งนี้เปิดเผยต่อว่า หนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ภายในของเขาถูกโจมตีจากภายนอก และระบุว่า มีการแพร่ไวรัสผ่านเครือข่ายของบริษัท อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ฮอนด้าระบุว่า เหตุถูกโจมตีทางไซเบอร์ทำให้ปฏิบัติการที่โรงงานในสหราชอาณาจักรหยุดชะงัก ขณะเดียวกัน ก็จำเป็นต้องระงับปฏิบัติการต่างๆ ทั้งในอเมริกาเหนือ, ตุรกี, อิตาลี และ ญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม หวังว่า โรงงานที่ได้รับผลกระทบบางส่วนจะกลับมาออนไลน์ได้อีกครั้งในบ่ายวันนี้ (9 มิ.ย.) หรือไม่ก็ช่วงปลายสัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางไซเบอร์บางส่วนให้ความเห็นว่า ดูเหมือนมันจะเป็นโจมตีโดยไวรัสเรียกค่าไถ่ ซึ่งหมายถึงพวกแฮกเกอร์อาจเข้ารหัสข้อมูล หรือสกัดฮอนด้าออกจากระบบไอทีบางอย่างของตนเอง อย่างไรก็ตาม ฮอนด้ายืนยันไม่มีข้อมูลใดของบริษัทที่ถูกละเมิด และบอกว่าจนถึงตอนนี้ “เรายังเห็นผลกระทบต่อธุรกิจเพียงแค่เล็กน้อย” ————————————————— ที่มา : MGR…

จีนปรามอังกฤษให้สัญชาติคนฮ่องกงอพยพหนีกม.มั่นคง

Loading

แฟ้มภาพ หญิงชาวฮ่องกงถือพาสปอร์ตอังกฤษระหว่างชุมนุมประท้วงในเขตเซ็นทรัลของฮ่องกงเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 รัฐบาลจีนแถลงไม่พอใจอังกฤษแทรกแซงกิจการภายในโดยลืมไปแล้วว่ามอบฮ่องกงกลับคืนเป็นของจีน เตือนแผนการขยายสิทธิพลเมืองเปิดทางให้สัญชาติชาวฮ่องกงเกือบ 3 ล้านคนนั้นจะเป็นผลร้ายย้อนกลับคืนอังกฤษเอง เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดอมินิก ราบ และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ เปิดเผยเกี่ยวกับแผนการให้สัญชาติชาวฮ่องกง ที่ต้องการอพยพหนีการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่สภาผู้แทนประชาชนจีนอนุมัติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้กระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงตอบโต้ด้วยความไม่พอใจเมื่อวันพุธ จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงกล่าวที่กรุงปักกิ่งว่า จีนได้ยื่นหนังสือแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อรัฐบาลอังกฤษ เกี่ยวกับคำกล่าวของราบ ซึ่งเป็นการแทรกแซงกิจการของฮ่องกง จีนแนะนำอังกฤษให้ถอยห่างจากปากเหว ล้มเลิกความคิดจิตใจแบบสงครามเย็นและจ้าวอาณานิคมเสีย และยอมรับและเคารพข้อเท็จจริงที่ว่าฮ่องกงกลับคืนสู่จีนแล้ว อังกฤษต้อง “หยุดแทรกแซงกิจการของฮ่องกงและกิจการภายในของจีนทันที มิเช่นนี้สิ่งนี้จะย้อนกลับคืนสู่อังกฤษเองอย่างแน่นอน” ราบกล่าวต่อสภาล่างของอังกฤษว่า เขาได้ทาบทามไปยังรัฐบาลออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหรัฐ และแคนาดา ซึ่งอยู่ในกลุ่มความร่วมมือด้านข่าวกรอง “ไฟฟ์อายส์” ถึงแผนรองรับหากกฎหมายความมั่นคงมีผลบังคับใช้และทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากต้องการอพยพ โดยในการพูดคุยเมื่อวันจันทร์เขาเสนอถึงความเป็นไปได้ที่ประเทศเหล่านี้จะแบ่งเบาคลื่นอพยพของชาวฮ่องกง ส่วนนายกฯ จอห์นสัน เขียนคอลัมน์ลงหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์และเซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ ยืนยันว่าอังกฤษจะไม่ทอดทิ้งชาวฮ่องกง และเขาจะเสนอวีซาให้ชาวฮ่องกงหลายล้านคน ที่อาจเปิดทางสู่การได้สัญชาติอังกฤษต่อไป หากจีนยืนกรานผ่านกฎหมายฉบับนี้ ปัจจุบันมีชาวฮ่องกงถือหนังสือเดินทาง (นอกราชอาณาจักร) ของอังกฤษ หรือ BN(O) ราว 350,000…

หน่วยรบพิเศษ’ฝรั่งเศส’ เด็ดหัวแกนนำ’อัล-กออิดะห์’แอฟริกาเหนือ

Loading

6 มิถุนายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน  หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพฝรั่งเศสซึ่งประจำการอยู่ในภูมิภาคซาเฮล ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อของทะเลทรายซาฮารา สามารถสังหารนายอับเดลมาเล็ก ดรูกเดล ผู้นำกลุ่มมาเกร็บ เครือข่ายของอัล-กออิดะห์ในแอฟริกาเหนือ ในเขตทางเหนือของมาลี ใกล้กับภาคใต้ของแอลจีเรีย พร้อมวิสามัญสมาชิกระดับแกนนำได้อีกหลายคน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น รัฐบาลแอลจีเรียพยายามเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพร่วมกับกลุ่มติดอาวุธส่วนใหญ่ในประเทศ ตลอดระยะเวลนานกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แม้มีกองกำลังหลายกลุ่มยอมวางอาวุธและเข้าร่วมโครงการของรัฐ แต่ดรูกเดลซึ่งข้อมูลข่าวกรองของฝรั่งเศสระบุว่าอายุประมาณ 49 ปี ปฏิเสธให้ความร่วมมือ และหันไปสวามิภักดิ์กับกลุ่มอัล-กออิดะห์ตั้งแต่ปี 2549 ——————————————— ที่มา : แนวหน้า / 6 มิถุนายน 2563 LInk : https://www.naewna.com/inter/497492

กรณีศึกษา แอปพลิเคชันติดตามผู้สัมผัส COVID-19 ของประเทศกาตาร์ข้อมูลรั่วไหลเพราะไม่มีระบบยืนยันตัวตน

Loading

ในช่วงการระบาดของโรค COVID-19 นั้นรัฐบาลหลายประเทศได้ใช้แอปพลิเคชันติดตามผู้สัมผัส หรือ contact tracing มาช่วยเป็นหนึ่งในมาตรการติดตามและควบคุมโรค โดยหลักการทำงานของแอปพลิเคชันดังกล่าวอาจเป็นได้หลายรูปแบบ เช่น เก็บข้อมูลการเดินทางจาก GPS, เก็บข้อมูลการเข้าใกล้จาก Bluetooth, หรือเก็บบันทึกประวัติการเข้าใช้บริการด้วยการสแกน QR code ซึ่งบางแอปพลิเคชันอาจมีความสามารถมากกว่าการติดตามโรค เช่น แสดงข้อมูลประวัติการติดเชื้อหรือข้อมูลความปลอดภัยของร้านค้าและบริการ ทีมวิจัยของ Amnesty International ได้ตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของแอปพลิเคชันติดตามผู้สัมผัสของหลาย ๆ ประเทศ โดยพบว่าแอปพลิเคชัน Ehteraz ของประเทศกาตาร์นั้นมีช่องโหว่ที่อาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลได้ อ้างอิงจากรายงานของ Amnesty International แอปพลิเคชัน Ehteraz นั้นรัฐบาลของประเทศกาตาร์ได้กำหนดให้ประชาชนต้องติดตั้งและใช้งาน โดยมียอดดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 1 ล้านครั้ง ตัวแอปพลิเคชันดังกล่าวใช้ข้อมูลทั้ง GPS และ Bluetooth เพื่อติดตามตำแหน่ง รวมทั้งมีความสามารถในการแสดง QR code บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเพื่อแจ้งให้บุคคลอื่นทราบได้ว่าตัวผู้ใช้นั้นติดเชื้อหรือไม่ (เช่น สีเขียวคือสุขภาพดี สีเหลืองคืออยู่ระหว่างกักตัว และสีแดงคือติดเชื้อ) ทางทีมวิจัยของ Amnesty International พบว่าระบบแสดงตัวโดยใช้ QR…

‘ทรัมป์’ เตรียมประกาศให้กลุ่มซ้ายสุดโต่ง “แอนติฟา” เป็นกลุ่มก่อการร้าย

Loading

Demonstration in Minneapolis, Minnesota over the death of George Floyd ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันอาทิตย์ ยกย่องกองกำลังสำรองของรัฐ หรือ เนชันแนลการ์ด ว่าทำงานได้อย่าง “ยอดเยี่ยม” ในการตอบสนองต่อการประท้วงที่นครมินนีแอโปลิส ที่กลายไปเป็นความรุนแรงในช่วงหลายคืนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการใช้กำลังของตำรวจผิวขาวเพื่อจับกุมชาวผิวสี จอร์จ ฟลอยด์ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของชายผู้นี้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวหากลุ่มแนวคิดซ้ายสุดโต่ง แอนติฟา (Antifa) ว่าเป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในหลายเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ พร้อมกระตุ้นให้รัฐที่มีพรรคเดโมแครตเป็นผู้บริหารรัฐบาลส่วนท้องถิ่นให้ดูตัวอย่างการปราบปรามผู้ประท้วงในนครมินนีแอโปลิสเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลอเมริกันจะประกาศให้กลุ่ม “แอนติฟา” เป็นองค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นคำกล่าวที่สร้างความกังวลว่ารัฐบาลกำลังพยายามควบคุมการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ซึ่งขัดกับบทบัญญัติที่ 1 ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ กลุ่มแอนติฟา (Antifa) ซึ่งหมายถึงกลุ่มต่อต้านระบอบปกครองฟาสซิสต์ เป็นการรวมตัวของผู้ประท้วงรัฐบาล นักรณรงค์ฝ่ายซ้าย และผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตย ซึ่งล้วนต่อต้านแนวคิดขวาจัดด้วยความรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลทรัมป์มักกล่าวโจมตีกลุ่มนี้ว่าอยู่เบื้องหลังการประท้วงต่าง ๆ ในวันอาทิตย์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ วิลเลียม บาร์ มีแถลงการณ์ว่า กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ…