เพลิงไหม้ จลาจล ตายหมู่ เหตุร้ายที่เกิดบ่อยในคุกเวเนซุเอลา

Loading

  จลาจลและเพลิงไหม้ในรัฐการาโบโบ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 70 คน คือโศกนาฏกรรมครั้งที่ 5 ที่เกิดขึ้นกับห้องคุมขังและเรือนจำในรอบ 6 ปี ของเวเนซุเอลา เจ้าหน้าที่ทางการระบุว่า เหตุจลาจลและเพลิงไหม้ที่สถานีตำรวจในเมืองวาเลนเซีย ในรัฐการาโบโบ ของเวเนซุเอลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 68 คน หลัง นักโทษในห้องขังจุดไฟเผาที่นอน เพื่อพยายามหลบหนีออกมาเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของญาตินักโทษ ซึ่งมาล้อมสถานีตำรวจหลังทราบข่าวเพลิงไหม้   เกิดอะไรขึ้นที่สถานีตำรวจ? ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการถึงเหตุการณ์แวดล้อมเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น สมาคมอูนา เวนตานา อะ ลา ลิเบร์ตัด (หน้าต่างเสรีภาพ) ซึ่งสังเกตการณ์สภาพความเป็นอยู่ของห้องขังต่าง ๆ ระบุว่า จากรายงานที่ทางสมาคมได้รับ ผู้ถูกควบคุมตัวอยู่คนหนึ่งได้ยิงตำรวจนายหนึ่งที่ขา และหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีการจุดไฟเผาที่นอน และไฟก็ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เฆซุส ซานตานเดร์ เจ้าหน้าที่ทางการของรัฐการาโบโบ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งถูกยิงหลังจากเกิดเพลิงไหม้ด้วย โดยขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไหม้ไว้ได้แล้ว มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทุบกำแพงเพื่อพยายามช่วยผู้ที่ติดอยู่ในเปลวเพลิงออกมา ตาเร็ก ซาอับ หัวหน้าอัยการรัฐ กล่าวว่า ผู้ที่เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นนักโทษ แต่มีผู้หญิงอย่างน้อย 2…

ไฟแดง! Facebook เลิกอนุญาตบริษัทอื่นผสมข้อมูลออฟไลน์เพื่อ targeting โฆษณา

Loading

  เฟซบุ๊ก (Facebook) เครือข่ายสังคมเบอร์ 1 ของโลกกำลังเร่งกำจัดจุดอ่อนของตัวเองเพื่ออุดช่องโหว่ป้องกันข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล ล่าสุด ประกาศปิดบริการ “พาร์ตเนอร์แคทากอรีส์” (Partner Categories) ซึ่งเปิดให้บริษัทอื่นที่เป็นพันธมิตร ผสมข้อมูลออฟไลน์เข้ากับข้อมูลผู้ใช้ Facebook เพื่อนำไปทำกิจกรรมทางการตลาดโดยเฉพาะการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณา นอกจากนี้ Facebook ยังปรับใหม่หน้าตั้งค่า หรือ Setting ของตัวเอง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถกำหนดความเป็นส่วนตัวได้ง่ายขึ้น ท่ามกลางรายงานข่าวของสื่อสหรัฐฯ ที่มองว่า Facebook ได้ปรับให้ผู้ใช้ลบทิ้งบัญชีของตัวเองได้ง่ายขึ้นด้วย   หน้าใหม่ง่ายกว่าเดิม ในเวลาที่ Facebook ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษเรื่องความเสี่ยงข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล ล่าสุด Facebook ประกาศปรับปรุงหน้าการตั้งค่าผู้ใช้งาน 4 ด้าน เพื่อแก้ปัญหาผู้ใช้บางส่วนสับสน หาทางเข้าไปตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไม่พบหรือพบได้ยาก การปรับปรุง 4 ด้านของ Facebook ประกอบด้วยการยุบรวมเมนูการตั้งค่า Settings ทั้งหมดให้ค้นหาได้จากหน้าเดียว, การเพิ่มเมนูทางลัดให้ผู้ใช้ค้นหาและจัดการง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มเมนูใหม่ให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลของตัวเอง (Access Your Information) ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหา จัดการ ดาวน์โหลด และลบ…

สหรัฐฯ-อียูพร้อมใจขับทูตรัสเซียกว่าร้อยคน ตอบโต้เหตุวางยาพิษอดีตสายลับ

Loading

  รัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งชาติพันธมิตรและชาติที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ทั้งสิ้น 23 ประเทศ สั่งขับนักการทูตรัสเซียออกจากดินแดนของตนแล้วอย่างน้อย 116 คน เพื่อเป็นการตอบโต้กรณีที่เชื่อว่าทางการรัสเซียลอบวางยาพิษอดีตสายลับในสหราชอาณาจักร ซึ่งต่างมองกันว่าเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในภูมิภาคยุโรปและอเมริกา เชื่อกันว่าคำสั่งของหลายประเทศในครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ขับนักการทูตและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัสเซียในต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากที่นายเซอร์เก สกริปาล อดีตสายลับแปรพักตร์ของรัสเซียซึ่งปัจจุบันเป็นพลเมืองอังกฤษ และนางสาวยูเลียบุตรสาวของเขาถูกลอบทำร้ายด้วยสารพิษทำลายประสาทที่เมืองซอลส์บรีของสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากสหรัฐฯจะสั่งขับนักการทูตรัสเซีย 60 คน และกำลังจะสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียในนครซีแอตเทิลแล้ว ชาติสมาชิกอียูซึ่งได้แก่ฝรั่งเศส, เยอรมนี, โปแลนด์, ลิทัวเนีย, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, สเปน, เอสโทเนีย, โครเอเชีย, ฟินแลนด์, สวีเดน, ฮังการี, ลัตเวีย และโรมาเนีย ต่างก็สั่งขับนักการทูตรัสเซียในประเทศของตนด้วย     ประเทศอื่น ๆ อย่างแคนาดา, ยูเครน, แอลเบเนีย, ออสเตรเลีย, นอร์เวย์ และมาซีโดเนีย ต่างก็ร่วมออกคำสั่งขับนักการทูตรัสเซียเช่นกัน ส่วนไอซ์แลนด์แถลงว่าจะระงับการเจรจาระดับสูงกับรัสเซียลงทั้งหมด และผู้นำประเทศจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะจัดขึ้นที่รัสเซียในเดือนมิ.ย.นี้…

ผลสอบไฟไหม้ห้างรัสเซียไม่มีสัญญาณ-ประตูหนีไฟถูกปิด

Loading

  ผลสอบสวนเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้ารัสเซีย เบื้องต้นพบสัญญาณเตือนภัยไม่ดังและประตูหนีไฟถูกปิดตาย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 64 ราย ยังสูญหายอยู่อีก 10 คน วันนี้ (27มี.ค.61) เจ้าหน้าที่สอบสวนของรัสเซียและผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ ไม่มีสัญญาณเตือนภัย และทางหนีไฟก็ถูกปิดตายระหว่างเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในห้างสรรพสินค้าและศูนย์บันเทิง “วินเตอร์ เชอร์รี” ในเมืองเคเมโรโว เขตไซบีเรีย ประเทศรัสเซียเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ ผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 64 รายแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นเด็กหลายคน ผู้สูญหายอีกประมาณ 10 คน และมีผู้บาดเจ็บ 10 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล คณะกรรมการสอบสวนรัสเซีย แถลงว่า จับกุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องได้ 4 คน หลังพบว่าอาคารแห่งนี้ละเมิดกฎหมายรุนแรงและเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของห้าง ปิดระบบสัญญาณเตือน หลังได้รับแจ้งเกี่ยวกับเพลิงไหม้ คณะกรรมการสอบสวนกล่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยจากไฟไหม้ 2 คน ถูกควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมกับผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของห้าง และผู้จัดการของร้านค้าแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจุดต้นเพลิง ส่วนผู้สูญหายมีรายชื่ออยู่10คน ซึ่งครูในท้องถิ่น กำลังพยายามตามหานักเรียนของพวกเขา ที่พักผ่อนอยู่ในช่วงวันหยุด แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้จำนวนนักเรียนที่มาเที่ยวยังห้างแห่งนี้ ด้านแอนตัน โกเรลคิน นักการเมืองเมืองเคเมโรโว…

รักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวบน “เฟซบุ๊ก”

Loading

  ในขณะที่ราคาหุ้นของเฟซบุ๊กกำลังตกลงอย่างต่อเนื่อง และแฮชแทก #DeleteFacebook หรือ #ลบเฟซบุ๊ก กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในทวิตเตอร์ขณะนี้ คำถามสำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคนคือ ข้อมูลส่วนตัวของเราถูกใครเอาไปใช้บ้าง และเราสามารถทวงคืนมันกลับมาได้หรือเปล่า? คำถามนี้เกิดขึ้นจากกรณีข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทที่ปรึกษาด้านการเมือง เคมบริดจ์ อนาลิติกา (Cambridge Analytica) นำข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านคนไปใช้ และล่าสุดคณะกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงของสภาสามัญชนของอังกฤษ ก็ได้เรียกตัว มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเฟซบุ๊ก เข้าให้ปากคำ สำหรับเฟซบุ๊กแล้ว ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เป็นสิ่งจูงใจให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาซื้อโฆษณา และเป็นที่รู้กันดีว่าเฟซบุ๊กสามารถเข้าใจตัวตนและสร้างโปรไฟล์ของผู้ใช้ขึ้นมาอย่างละเอียดลึกซึ้งผ่านการกดไลค์ การกดอันไลค์ ดูรูปแบบการใช้ชีวิต และความคิดทางการเมือง ของผู้ใช้ และด้วยเหตุนี้ คำถามที่สำคัญก็คือ เฟซบุ๊กได้ให้ข้อมูลเหล่านี้ไปกับใครบ้าง และเราจะทวงคืนข้อมูลส่วนตัวเรากลับมาได้หรือไม่   มาลองทดสอบไอคิวของคุณกัน เราหลายคนอาจเคยเล่น ควิซ หรือ แบบทดสอบบนเฟซบุ๊ก อาจจะเป็นทดสอบบุคลิกส่วนตัวคุณ หรือไม่ก็วัดระดับสติปัญญาหรือไอคิว และแบบทดสอบที่กำลังเป็นที่ถกเถียงอยู่ในขณะนี้คือแบบทดสอบที่ชื่อ This is Your Digital Life โดยบริษัทเคมบริดจ์   อนาลิติกา ถูกกล่าวหาว่าได้ใช้แบบทดสอบนี้เพื่อดึงข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายล้านคนไปใช้เพื่อชักจูงผลโหวตการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี…

เฟซบุ๊กอึ้ง ถูกดูดข้อมูลไปใช้ในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี

Loading

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 มี.ค.) มีรายงานว่า เฟซบุ๊ก (Facebook) โซเชียลมีเดียชื่อดัง ได้ยุติการเข้าถึงข้อมูลของบริษัท Strategic Communication Laboratories (SCL) และบริษัทด้านดาต้าอะนาไลติกส์อย่าง แคมบริดจ์ อะนาไลติกา (Cambridge Analytica) เนื่องจากพบว่ามีการเก็บและแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กประมาณ 50 ล้านคน โดยปราศจากการได้รับอนุญาตใด ๆ จากเจ้าตัว การกระทำดังกล่าวถือว่ากระทบต่อข้อกำหนดในการให้บริการของเฟซบุ๊ก และทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ข้อมูลที่บริษัทดังกล่าวเก็บไปได้นั้น ถูกนำไปใช้กับแคมเปญหาเสียงของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2016 หรือไม่ เนื่องจากมันเป็นข้อมูลจำนวนมากพอที่นักการตลาดสามารถสร้างโปรไฟล์ส่วนบุคคล รวมถึงสามารถสร้างโฆษณาที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเต็มที่ ผู้ที่ออกมาแจ้งความผิดปกติดังกล่าว คือ พนักงานในส่วน Academic ของมหาวิทยาลัย Cambridge ชื่อคริสโตเฟอร์ ไวลี่ ที่ได้มีการส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยัง The Observer และนิวยอร์กไทม์ พร้อมอธิบายว่า บริษัทมีการกระทำบางอย่างที่อาจผิดศีลธรรม การรั่วไหลของข้อมูลครั้งนี้ ได้ทำให้หลายฝ่ายจับตามากขึ้นว่า แพลตฟอร์มของเฟซบุ๊กไม่ปลอดภัย แต่เฟซบุ๊กก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่รั่วไหลนั้นไม่ได้เกิดจากเฟซบุ๊ก ตรงกันข้าม มันเป็นการส่งผ่านข้อมูลโดยศาสตราจารย์…