อังกฤษเตรียมขับนักการทูตรัสเซีย 23 คน เหตุวางยาอดีตสายลับรัสเซีย

Loading

  สหราชอาณาจักรเตรียมขับไล่นักการทูตรัสเซีย 23 คน ออกจากประเทศหลังจากทางการรัสเซียไม่ยอมอธิบายว่า สารพิษที่คิดค้นโดยรัสเซียถูกนำมาใช้กับอดีตสายลับรัสเซียในเมืองซอลส์บรีในอังกฤษได้อย่างไร นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า นักการทูตเหล่านี้ ซึ่งมีเวลา 1 สัปดาห์ที่จะเดินทางออกจากประเทศ ถูกระบุว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ข่าวกรองอย่างที่เปิดเผยตัว” เธอยังได้ถอนคำเชื้อเชิญที่จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซียมาเยือนอังกฤษ และบอกว่าราชวงศ์อังกฤษจะไม่เดินทางไปรัสเซียรระหว่างที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. นี้ นายเซอร์เก สกริปาล วัย 66 ปี อดีตสายลับรัสเซียและบุตรสาวถูกลอบทำร้ายด้วยสารพิษทำลายประสาทกลุ่ม “โนวีชอก” (Novichok) ทั้งสองถูกพบอยู่ในสภาพหมดแรงและหมดสติบนม้านั่งหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองซอลส์บรี ขณะนี้ทั้งคู่ยังคงมีอาการอยู่ในขั้นวิกฤต อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ และไม่ได้ทำตามกรอบเวลาที่สหราชอาณาจักรขีดเส้นตายเพื่อให้รัสเซียให้ความร่วมมือในกระบวนการสืบสวน ทำให้นางเมย์ประกาศมาตรการหลายอย่างเพื่อ “ส่งสัญญาณอย่างชัดแจ้ง” ไปยังรัสเซีย ดังต่อไปนี้ – ขับไล่นักการทูต 23 คน โดยให้กรอบเวลา 1 สัปดาห์ – ตรวจสอบเที่ยวบินส่วนตัว ด่านศุลกากร และสินค้าขนส่ง จากรัสเซียเข้มงวดขึ้น – สั่งระงับการดำเนินการทางทรัพย์สินของชาวรัสเซียในกรณีที่มีหลักฐานว่าอาจถูกนำไปใช้เพื่อข่มขู่ชีวิตและ- ทรัพย์สินของชาวสหราชอาณาจักร…

ที่ปรึกษาปูตินระบุ ‘รัสเซีย’สามารถตัดขาดจาก ‘อินเทอร์เน็ตระดับโลก’ ได้ในเวลาเกิดสงคราม

Loading

เฮอร์มาน คลีเมนโค ที่ปรึกษาคนสำคัญด้านไอทีของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน พูดเมื่อเร็วๆ นี้ว่า รัสเซียสามารถตัดขาดตัวเองออกจากอินเทอร์เน็ตระดับโลกในเวลาเกิดสงคราม รวมทั้งยังกำลังสร้างระบบชื่อโดเมนแบบทางเลือกขึ้นมา  ที่ปรึกษาระดับท็อปทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน พูดชี้เอาไว้ระหว่างการให้สัมภาษณ์คราวหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ว่า รัสเซียนั้นสามารถที่จะตัดขาดตัวเองออกจากอินเทอร์เน็ตระดับโลกได้ในเวลาที่เกิดสงคราม ทั้งนี้เพื่อลดทอนจำกัดจุดอ่อนเปราะบางที่อาจจะถูกฝ่ายตะวันตกเจาะเล่นงาน “ในทางเทคนิคแล้ว เวลานี้เราพรักพร้อมอยู่แล้วสำหรับการลงมือปฏิบัติการ” รายงานข่าวอ้างคำพูดของที่ปรึกษาผู้มีนามว่า เฮอร์มาน คลีเมนโค (Herman Klimenko) ซึ่งบอกกับสถานีโทรทัศน์ “เอ็นทีวี” (NTV) ของรัสเซียเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา แต่คลีเมนโคก็กล่าวด้วยว่า ความเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว แม้กระทั่งว่ายังไม่ถึงขั้นที่มีการปฏิบัติการในเชิงเป็นปรปักษ์ใดๆ ก็ใช่ว่าจะไม่สร้างความเจ็บปวดบาดแผลให้แก่รัสเซีย –ตรงนี้ดูเหมือนเป็นการพูดพาดพิงมุ่งแสดงให้เห็นว่า แดนหมีขาวต้องพึ่งพิงอาศัยการต่อเชื่อมต่างๆ กับอินเทอร์เน็ตระดับโลกถึงขนาดไหน “ดีเฟนซ์ วัน” (Defense One) เว็บไซต์ของกองทัพสหรัฐฯ คือผู้ที่เขียนถึงเรื่องนี้เอาไว้ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.defenseone.com/technology/2018/03/if-war-comes-russia-could-disconnect-internet-yes-entire-country/146572/?oref=d-skybox) โดยบอกด้วยว่า มอสโกกำลังทำงานกันง่วนในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้กองทัพของตนสามารถที่จะพึ่งพาอาศัยเฉพาะเครือข่ายออนไลน์ภายในเท่านั้นในระหว่างที่เกิดสงคราม กล่าวกันว่าความพยายามเช่นนี้กำลังถูกนำมาขยายให้กลายเป็นแรงผลักดันในแวดวงกว้างขวางใหญ่โตยิ่งขึ้นมาก เพื่อทำให้รัฐบาลรัสเซียและภาคประชาสังคมของรัสเซียสามารถตัดขาดในทางดิจิตอลจากลิงก์อินเตอร์เน็ตภายนอกทั้งหลาย หากเมื่อถึงเวลาที่เกิดความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น “ในปี 2016 รัฐบาลรัสเซียเริ่มต้นการใช้งาน ‘Closed…

รู้จัก “โนวีชอก” สารพิษทำลายประสาทที่ใช้วางยาอดีตสายลับรัสเซีย

Loading

นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของสหราชอาณาจักร เผยต่อที่ประชุมสภาสามัญชนว่า กรณีที่นายเซอร์เก สกริปาล อดีตสายลับรัสเซียและบุตรสาวถูกลอบทำร้ายด้วยสารพิษนั้น ผลการตรวจสอบชี้ว่าสารเคมีดังกล่าวคือสารพิษทำลายประสาทกลุ่ม “โนวีชอก” (Novichok) ที่คิดค้นโดยสหภาพโซเวียต ซึ่งปกติแล้วจะถูกนำไปใช้เป็นอาวุธเคมี การที่สารพิษดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้บงการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับจะเป็นทางการรัสเซียเอง ซึ่งรัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังเรียกร้องให้รัสเซียชี้แจงภายในวันนี้ (13 มี.ค.) มิฉะนั้นจะถือว่ารัสเซียได้ “ใช้กำลังโดยผิดกฎหมาย” ในดินแดนของอังกฤษ ซึ่งทำให้ชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย ชื่อของสารพิษทำลายประสาท “โนวีชอก” มีความหมายว่า “ผู้มาใหม่” หรือ “เด็กใหม่” ในภาษารัสเซีย เป็นสารพิษกลุ่มที่พัฒนาขึ้นระหว่างช่วงทศวรรษ 1970-1980 เพื่อใช้งานเป็นอาวุธเคมี “รุ่นที่ 4” ในปี 1999 เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯได้ค้นพบสารพิษนี้จำนวนหนึ่งในอุซเบกิสถาน ขณะเข้าตรวจสอบและทำลายโรงงานผลิตอาวุธเคมีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหภาพโซเวียต ทำให้พบว่าสารพิษกลุ่มโนวีชอกนั้นได้รับการออกแบบคิดค้นมาเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติตรวจพบร่องรอยได้โดยง่าย สารพิษตัวหนึ่งในกลุ่มนี้คือโนวีชอก เอ-230 (Novichok-A-230) มีความเป็นพิษรุนแรงยิ่งกว่าก๊าซพิษซารินและสารพิษทำลายประสาทวีเอ็กซ์ (VX nerve agent) ที่ใช้ลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือราว 5-8 เท่า ทั้งยังเป็นสารเคมีที่ซับซ้อนยากต่อการพิสูจน์บ่งชี้หลังการใช้งานว่าเป็นสารชนิดใดกันแน่อีกด้วย มีรายงานว่ารัสเซียได้ผลิตสารพิษโนวีชอก เอ-230 ในรูปแบบใหม่ออกมาอีก…

FSB หน่วยข่าวกรองชั้นนำของรัสเซีย

Loading

  Federal Security Service (FSB) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2538 ปรับมาจากหน่วย KGB (Komitet Gosudarstvennoy Bezopasnosti KGB ชื่ออังกฤษ State Security Committee คณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐ เป็นอดีตหน่วยงานกลางดูแลการข่าว ความมั่นคงและตำรวจสันติบาล) ของสหภาพโซเวียต โดยเป็นหน่วยงานการข่าวกรอง ทำหน้าที่สืบราชการลับที่จัดเป็นภัยคุกคามต่อรัฐ ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายและการจารกรรมของรัสเซีย ทั้งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานร่วมกับกองกำลังตำรวจต่างชาติในการปราบปรามและต่อต้านกลุ่มมุสลิมจีฮัด รวมทั้งอาชญากรรมบางประเภท ตลอดจนการจลาจล ปฏิบัติการต่อต้านหรือการเรียกร้องต่างๆ ต่อรัฐบาล เช่น กรณีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนจากเชชเนียในสงครามสองครั้ง เมื่อ พ.ศ.2533 และ พ.ศ.2543 การปฏิวัติกุหลาบ (Rose Revolution) ของจอร์เจีย เมื่อ พ.ศ.2547 และการปฏิวัติสีส้มของยูเครน เมื่อ พ.ศ.2548 หรือกรณีเมื่อ พ.ศ.2558 เอสโตเนียได้กล่าวหารัสเซียว่า ลักพาตัวนาย Eston Kohver เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อใช้แลกเปลี่ยนกับสายลับรัสเซียที่ถูกตัดสินจำคุก   กรณีเกี่ยวกับการใช้สารพิษของหน่วย FSB เมื่อ…

รัฐสภาฟลอริดาผ่านกฎหมายเพิ่มอายุขั้นต่ำผู้ซื้อปืน-ให้บุคลากรในโรงเรียน “พกอาวุธ”

Loading

รอยเตอร์ – รัฐสภาแห่งรัฐฟลอริดาผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยอาวุธปืนเมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) โดยกำหนดเพิ่มอายุขั้นต่ำสำหรับบุคคลที่จะซื้อปืนไรเฟิลเป็น 21 ปี การจำหน่ายปืนทุกประเภทต้องมีระยะเวลารอ 3 วัน และอนุญาตให้ลูกจ้างบางคนในโรงเรียนของรัฐสามารถพกอาวุธได้ มาตรการทางกฎหมายล่าสุดมีขึ้นหลังเกิดโศกนาฏกรรมกราดยิงโรงเรียนมัธยม มาร์จอรี สโตนแมน ดักลาส ในเมืองพาร์คแลนด์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งทำให้นักเรียนและครูเสียชีวิตรวม 17 ราย และนำมาซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ต้องการเห็นรัฐควบคุมปืนมากกว่านี้ แม้ร่างกฎหมายฉบับนี้จะครอบคลุมข้อเสนอส่วนใหญ่ของนักเรียนและผู้ปกครอง แต่ยังไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องสำคัญ คือการสั่งแบนปืนไรเฟิลจู่โจมแบบที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ฝ่ายที่สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้อ้างว่า เหตุกราดยิงโรงเรียนในสหรัฐฯ ซึ่งเกิดถี่ขึ้นจนน่าตกใจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คนร้ายมักจะใช้ “ปืนพก” เสียเป็นส่วนใหญ่ มาตรการเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายโดยอัตโนมัติภายใน 15 วัน เว้นเสียแต่จะถูก “วีโต” โดย ริค สก็อตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาซึ่งเป็นคนของพรรครีพับลิกัน โฆษกหญิงของ สก็อตต์ ออกมาระบุเมื่อวันอังคาร (6) ว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงนามรับรองร่างกฎหมายนี้หรือไม่ ร่างกฎหมายยังเปิดทางให้บุคลากรในโรงเรียนสามารถพกปืนขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งก็มีเสียงวิจารณ์ว่า การอนุญาตเช่นนี้อาจทำให้นักเรียนส่วนน้อยเสี่ยงต่อการถูกยิงเพราะทำผิดวินัย…

ศาลเยอรมันชี้ Facebook บังคับผู้ใช้ระบุชื่อจริงเป็นการละเมิดกฎการป้องกันข้อมูล

Loading

องค์กรสิทธิผู้บริโภคในเยอรมันเผยว่า ศาลเยอรมันตัดสิน Facebook ละเมิดกฎการป้องกันข้อมูลส่วนตัว ด้วยการตั้งค่าให้ผู้ใช้ระบุชื่อนามสกุลจริงเป็นค่าเริ่มต้น กฎหมายการป้องกันข้อมูลของเยอรมันระบุว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทสามารถบันทึกและนำไปใช้ภายใต้ข้อตกลงที่ชัดเจนจากแต่ละบุคคล แต่ศาลตัดสินว่า การให้ผู้ใช้ต้องให้ชื่อจริงเป็นค่าเริ่มต้นนั้นเป็นความล้มเหลว เพราะไม่ได้เสนอทางเลือกให้ผู้ใช้ได้รู้เลยว่าข้อมูลจะถูกนำไปใช้อย่างไร ผู้พิพากษาตัดสินว่า Facebook มีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่ละเมิดกฎ เช่น การแชร์ข้อมูลตำแหน่งกับคู่สนทนา หรือการสร้างโปรไฟล์ให้ search engine ภายนอกสามารถค้นหาได้ ข้อกำหนดการใช้งานจำนวน 8 ย่อหน้าของ Facebook ก็ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะประเด็นการเรียกร้องให้ผู้ใช้ใช้ชื่อจริง ศาลระบุอีกว่า สโลแกน “Facebook นั้นให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ฟรี และมันจะเป็นเช่นนั้น” (Facebook is free and always will be) ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะสิ่งที่ผู้ใช้ต้องจ่ายคือข้อมูล ไม่ใช่เงิน Facebook อาจต้องเสียค่าปรับถึง 250,000 ยูโร หรือ 306,000 ดอลลาร์ แต่ Facebook ระบุว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป ————————————————————– ที่มา : blognone / 13…