ศาลพม่าปฏิเสธประกันตัว นักข่าวรอยเตอร์โดนขังต่อข้อหาละเมิดความลับราชการ

Loading

เอเอฟพี – ศาลพม่าปฏิเสธให้ประกันตัวสองนักข่าวรอยเตอร์ที่ถูกตั้งข้อหาตามกฎหมายความลับราชการในวันนี้ (1) กฎหมายที่อาจทำให้ทั้งสองต้องเผชิญกับโทษจำคุกนาน 14 ปี คดีความที่ก่อให้เกิดการคัดค้านอย่างรุนแรงจากการถดถอยของเสรีภาพสื่อในประเทศ วา โลน และกอ โซ อู สองนักข่าวชาวพม่าถูกกล่าวหาว่าครอบครองเอกสารที่เป็นความลับทางราชการที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามทางทหารอย่างรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญา การปราบปรามที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่ส่งผลให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 700,000 คน ต้องอพยพหลบหนีไปบังกลาเทศตั้งแต่เดือนส.ค. และหลายคนกล่าวหาว่ามีการสังหารหมู่ การข่มขืน และการวางเพลิงโดยทหารพม่า “ศาลได้ตัดสินใจที่จะไม่ให้ประกันตัว” ผู้พิพากษาเย ละวิน กล่าว  สองนักข่าวที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่เดือนธ.ค. กล่าวว่าพวกเขาได้รับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายที่ได้เชิญพวกเขาทานอาหารค่ำชานนครย่างกุ้ง และเมื่อพวกเขาออกจากร้านอาหาร พวกเขาถูกจับกุมตัวก่อนที่จะมีโอกาสได้ดูเอกสารเหล่านั้น ซึ่งผู้สังเกตการณ์ระบุว่าจากระยะเวลาดังกล่าวอาจเป็นการจัดฉากของตำรวจ กลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักการทูต และบุคคลทางการเมืองที่รวมทั้งอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ได้เรียกร้องการปล่อยตัวนักข่าวทั้งสองคน การตัดสินใจเกี่ยวกับการประกันตัวมีความสำคัญด้วยการไต่สวนเบื้องต้นก่อนการพิจารณาคดีคาดว่าจะกินเวลาหลายเดือนก่อนศาลจะตัดสินอย่างเป็นทางการว่าจะรับคดีดังกล่าวหรือไม่ และคาดว่าทั้งคู่จะยังคงอยู่ในคุกตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ภรรยาของวา โลน เสียใจกับคำตัดสินของศาล ด้วยหวังว่าสามีจะได้รับการประกันตัว ขณะที่กอ โซ อู ซึ่งถูกสวมกุญแจมือได้มีโอกาสอุ้มลูกสาวอายุ 2 ขวบเพียงไม่นานระหว่างอยู่นอกห้องพิจารณาคดีก่อนตำรวจจะนำตัวไป รอยเตอร์ระบุว่ารู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของศาลแต่เชื่อว่ากระบวนการจะแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของนักข่าว แต่สำนักข่าวปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงรายละเอียดของสิ่งที่สองนักข่าวกำลังรายงานในช่วงเวลาที่ถูกจับกุม แต่มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าพวกเขากำลังสืบเรื่องการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาในหมู่บ้านอินดิน ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่. ————————————————————————– ที่มา : MGR Online…

ยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ห้ามผู้โดยสารนำนกยูงขึ้นเครื่องบิน

Loading

  สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ ปฏิเสธไม่ให้ผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งนำนกยูงที่อ้างว่าเป็น สัตว์เลี้ยงเพื่อการบำบัดปลอบประโลมใจและสนับสนุนทางอารมณ์ (Emotional Support Animal) ติดตัวเข้าไปในห้องโดยสารของเครื่องบินด้วย แม้หญิงคนดังกล่าวจะเสนอซื้อตั๋วโดยสารให้กับนกยูงของตนต่างหากก็ตาม เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนูอาร์ก (Newark) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐฯ โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ระบุว่า ไม่สามารถให้นกยูงตัวดังกล่าวติดตามเจ้าของขึ้นเครื่องได้ เพราะมีขนาดและน้ำหนักไม่ตรงตามเกณฑ์พิกัดที่กำหนดไว้ และได้ชี้แจงเหตุผลดังข้างต้นต่อเจ้าของนกยูงก่อนที่จะเดินทางมาถึงสนามบินแล้ว มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ครั้งนี้ทางรายการทอล์กโชว์ “เดอะเจ็ตเซ็ต” (The Jet Set) ซึ่งเป็นรายการสนทนาว่าด้วยเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว โดยภาพแสดงให้เห็นนกยูงตัวใหญ่เกาะอยู่บนที่จับรถเข็นสัมภาระในสนามบิน โดยผู้คนจำนวนมากต่างพากันจ้องมองดูนกยูงตัวนี้ด้วยความพิศวงงงงวย “เดอะเจ็ตเซ็ต”ยังเผยแพร่ภาพเหตุการณ์อีกภาพหนึ่ง ซึ่งมีหญิงสาวยืนอยู่ใกล้กับรถเข็นสัมภาระที่นกยูงเกาะอยู่ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าหญิงในภาพคือเจ้าของนกยูงตัวนี้หรือไม่ มีรายงานด้วยว่านกยูงตัวนี้มีชื่อว่า เด็กซเตอร์ เป็นสัตว์ที่ถูกช่วยมาโดยศิลปินที่ชื่อว่า เวนติโก ซึ่งเขาเล่าถึงชีวิตของมันทางโซเชียลมีเดียด้วย ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สายการบินหลายแห่งอนุญาตให้ผู้โดยสารที่มีปัญหาทางสภาพจิตใจและอารมณ์ นำสัตว์เลี้ยงที่ช่วยบำบัดปลอบประโลมใจติดตามเข้าไปในห้องโดยสารได้ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารที่มีความต้องการดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จนมีเสียงวิจารณ์ว่าผู้โดยสารหลายคนใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อนำสัตว์เลี้ยงของตนขึ้นเครื่องบิน ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดปัญหารบกวนผู้โดยสารคนอื่น ๆ หญิงผู้หนึ่งถูกเชิญให้ลงจากเครื่องบินของสายการบินยูเอสแอร์เวย์สขณะกำลังเตรียมจะขึ้นบินในปี 2014 หลังจากหมู “โฮบี” ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอส่งเสียงร้องดัง ทั้งยังถ่ายมูลสกปรกออกมาด้วย หากเจ้าเด็กซเตอร์ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินได้ จะเท่ากับว่ามีนกอีกชนิดหนึ่งที่ได้ “บินสูง” โดยไม่ต้องออกแรงขยับปีกบินเอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไก่งวงและเหยี่ยวเกือบร้อยตัวได้มีโอกาสเช่นนี้มาแล้ว ในปี 2015 นางโจดี้ สมอลลีย์…

เอกสารลับของรัฐบาลออสเตรเลียถูกพบในตู้เก่าที่ร้านขายของมือสอง

Loading

การค้นหาและเปิดโปงข้อมูลลับของรัฐบาลนั้นเป็นงานที่อันตรายมาก บรรดานักแฉล้วนต้องเสี่ยงชีวิตและเสรีภาพในการนำความลับเหล่านี้ออกมาเปิดเผย ขณะที่พวกองค์กรข่าวที่เปิดเผยข้อมูลรัฐก็มักถูกข่มขู่และตำหนิ แต่สำหรับนักข่าวออสเตรเลีย พวกเขาพบวิธีที่ง่ายมาก นั่นคือการคุ้ยมาจากร้านขายของมือสอง การเข้าถึงข้อมูลลับจำนวนมหาศาล ที่เป็นเอกสารลับหลายร้อยหน้าครั้งนี้ ถูกพบโดยสถานีโทรทัศน์ ABC ด้วยการเจอมาจากในตู้เก็บเอกสารเหล่านี้ ที่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์มือสอง เอกสารพวกนี้ถูกพบอยู่ในตู้ 2 ใบ ถูกขายอยู่ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์มือสองในแคนเบอร์รา และสามารถซื้อได้ในราคาถูกระดับเศษเงิน เพราะกุญแจไขล็อคของตู้มันหายไป หาไม่เจอแล้ว แอชลิน แมคกี กับไมเคิล แมคคินนอน สองนักข่าวของเอบีซีบอกว่า ตู้พวกนี้ถูกวางไว้โดยไม่มีใครเปิดมาตั้งหลายเดือน จนกระทั่งมีคนเจาะล็อคของตู้ เอกสารเหล่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นการทำงานภายในของหน่วยงานรัฐ 5 แห่ง น่าจะถูกเก็บไว้นานราว 20 ปีแล้ว ในขณะที่ชาวออสเตรเลียพากันฮากับข่าวนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลออสเตรเลียกลับพากันไม่พอใจอย่างมากสำหรับการรั่วไหลของเอกสารลับ สำนักนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ได้ประกาศให้มีการสืบสวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากข้อมูลเอกสารทั้งหมดถือเป็นความลับ บางเรื่องถึงขั้น “ลับสุดยอด” หรือที่เรียกกันว่า AUSTEO ซึ่งหมายความว่าเป็นเรื่องที่มีแต่คนออสเตรเลียเท่านั้นที่จะได้เห็น ———————————————————— ที่มา : MGR Online / 31 ม.ค. 2561 Link : https://mgronline.com/around/detail/9610000010363

แอปพลิเคชันติดตามการออกกำลังกายของผู้ใช้เผยให้เห็นแผนที่ในค่ายของกองทัพในหลายประเทศ

Loading

Starva แอปพลิเคชันติดตามการออกกำลังกายได้มีการเก็บ Log การเคลื่อนที่ของผู้ใช้งาน เช่น การปั่นจักรยาน การเล่นเซิร์ฟ วิ่งออกกำลังกาย ซึ่งนำไปสู่การเผยถึงแผนที่ในค่ายทหารของกองทัพหลายแห่งโดยไม่ตั้งใจ อีกทั้งยังมีค่ายทหารพันธมิตรอย่างเช่น อิรัก อัฟกานิสถาน และซีเรียเป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญมากเพราะอาจจะถูกนำไปใช้ในการวางแผนก่อการร้ายได้ Starva Labs ได้จัดทำแผนที่ออนไลน์ของผู้ใช้แอปพลิเคชันของตนขึ้นในที่ต่างๆ ซึ่งมีอยู่เกือบทั่วโลกและแผนที่สามารถแสดงระดับความเข้มของเส้นทางที่ใช้งานได้ด้วย โดยบางประเทศก็มีการใช้งานเป็นพื้นที่กว้าง บางประเทศก็มีบางพิกัดที่โดดเด่นออกมา เช่น แผนที่ในอิรักค่อนข้างมืดมากเนื่องจากการใช้งานไม่มากจึงทำให้เส้นทางบางจุดโดดเด่นออกมาแต่กลับกลายเป็นว่ามันเป็นข้อมูลสำคัญในฐานทหารของอเมริกาและพันธมิตร ยังมีอีกหลายประเทศที่ข้อมูลสำคัญเช่นนี้ถูกเผยออกมา เช่น อิรัก อัฟกานิสถาน เกาหลีเหนือ จีน อิหร่าน เป็นต้น เส้นทางของถนนมีการแผ่ขยายยาวออกไปนั่นแสดงให้เห็นว่าแอปพลิเคชันนี้ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้ขณะท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมทั่วๆ ไปด้วย นาย Tobias Schneider ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยได้แสดงความเห็นว่าแผนที่นี้ได้เผยถึงที่ตั้งฐานทัพในซีเรีย นอกจากนี้ยังมีฐานทัพในสาธารณรัฐไนเจอร์ (ประเทศนึงในทวีปแอปฟริกา) ที่ถูกใช้โดยกองกำลังฝรั่งเศส ความจริงปัญหานี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่ายมาก หากผู้ใช้งานเข้าไปตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชันในส่วน ‘Privacy Zone’ แล้วแอปพลิเคชันก็จะไม่เก็บค่าพิกัด GPS ซึ่งผู้ใช้งานแต่ละคนจะต้องเข้าไปตั้งค่าพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองเพราะอยู่คนละสถานที่กัน แต่มีผู้ใช้น้อยมากที่รู้ว่ามันสามารถทำได้ ขณะเดียวกันแอปพลิเคชันเองไม่ได้มีการกระตุ้นให้ผู้ใช้ตั้งค่าข้อมูลด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังได้เตือน Strava ว่าอาจจะทำให้ผู้ไม่หวังดีรู้เส้นทางของผู้ใช้งานได้หากทราบชื่อ Username —————————————————————- ที่มา :…

ศาลเขมรปฏิเสธประกันตัวชาวออสซี่บินโดรนสปายเหนือพนมเปญ

Loading

เอเอฟพี – ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวออสเตรเลียที่ถูกควบคุมตัวในปีก่อนจากข้อหาเป็นสายลับหลังบังคับโดรนบินเหนือขบวนชุมนุมหาเสียงของพรรคฝ่ายค้านในกรุงพนมเปญ ถูกปฏิเสธการประกันตัวในวันนี้ (30) เจมส์ ริคเกตสัน อายุ 68 ปี ถูกจับกุมตัวในกรุงพนมเปญเมื่อเดือน มิ.ย. หลังบังคับโดรนถ่ายภาพเหนือขบวนชุมนุมหาเสียงของพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ซึ่งในเวลานี้พรรค CNRP ถูกศาลสูงสั่งยุบพรรคตามคำร้องของรัฐบาล ในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ผู้พิพากษาของศาลสูงระบุว่า คำร้องขอประกันตัวของริคเกตสัน ถูกปฏฺิเสธเนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ริคเกตสัน ถูกตั้งข้อหากระทำการรวบรวมข้อมูลที่อาจบ่อนทำลายการป้องกันประเทศ ซึ่งการบังคับโดรนบินเหนือกรุงพนมเปญนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามหากไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้สร้างภาพยนตร์ชาวออสเตรเลียรายนี้อาจเผชิญต่อโทษจำคุกระหว่าง 5-10 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานจารกรรม ครอบครัวของริคเกตสัน ต่างผิดหวังต่อผลการดำเนินการในวันนี้ และเป็นห่วงสุขภาพของชายวัย 68 ปี รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ในห้องขังที่ใช้ร่วมกับคนอื่นๆ ราว 140 คน —————————————————— ที่มา : MGR Online / 30 ม.ค.2561 Link : https://mgronline.com/indochina/detail/9610000009732

อังกฤษประดิษฐ์อุปกรณ์ต่อต้านอาชญากรไว้บนไหล่ทาง ใครขับหนีตำรวจเจอดีแน่!!

Loading

ปกติที่เวลาเราดูหนังที่มีการไล่ล่าของผู้ร้ายและตำรวจ เรามักจะเห็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายตะปูเรือใบ โดยพวกเขาจะวางไว้บนถนนเพื่อใช้เจาะยางรถของคนร้าย แต่พอใช้งานจริงๆ โจรก็หลบไอ้เจ้าอุปกรณ์นี้ได้ไปเสียทุกที โดยเฉพาะการหนีออกไหล่ทาง ด้วยเหตุนี้ Yannick Read จากสถานบัน Environmental Transport Association (ETA) จึงคิดค้นอุปกรณ์ที่เรียกว่า CatClaw ขึ้นมา เพื่อหวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ไม่มากก็น้อย CatClaw นั้นมีรูปแบบที่ง่ายมาก โดยมันจะมีหน้าตาเป็นลูกบอลทรงกลมที่มีแท่งแหลมคมซ่อนอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการติดตั้งมันให้ทั่วฟุตบาทในอังกฤษ ในส่วนของการทำงานนั้นถ้าจะให้ยกตัวอย่างการทำงานจริงๆ มันก็ง่ายมาก สมมุติว่ามีรถผู้ร้ายหรือใครก็ตามที่ขี่รถเลยถนนเข้ามายังไหล่ทางจนเหยียบเข้ากับ CatClaw ลูกบอลทรงกลมที่ได้รับน้ำหนักจากยางรถก็จะยุบตัวลงโดยมีท่อเหล็กแหลมอยู่ข้างใน ฉะนั้นถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นยางรถคันดังกล่าวถูกปล่อยลมจนแบนทันที!! การป้องกันดังกล่าวยังไม่ได้ป้องแค่รถผู้ร้ายที่หนีตำรวจด้วย แต่มันยังสามารถป้องกันรถที่จะพุ่งเข้าหาผู้คนเช่นกัน ส่วนถ้าใครที่กลัวว่าคนจะเผลอไปเหยียบเข้าและเป็นอันตรายนั้น Yannick ก็ยืนยันว่าน้ำหนักของคนไม่พอที่จะทำให้เจ้า CatClaw นั้นทำงาน ฉะนั้นปลอดภัยหายห่วงได้ Yannick ยังบอกอีกว่าวัสดุของเจ้า CatClaw นั้นมีราคาถูก ฉะนั้นงบที่รัฐจะต้องใช้เพื่อผลิตเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จึงถือว่าไม่แพงนักเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าของมันนั่นเอง ——————————————————————————– ที่มา : CatDumb / 18/01/2018 Link : http://www.catdumb.com/tiny-device-stop-terrorists-tracks-044/