ทำเนียบขาวเล็งหารือบ.ไอทีสกัดไอเอส

Loading

ทำเนียบขาว หน่วยข่าวกรอง และฝ่ายความมั่นคงสหรัฐเตรียมคุยผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีหาทางรับมือกลุ่มติดอาวุธใช้โซเชียลมีเดียหาสมาชิก แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับการประชุมเปิดเผยว่า ผู้ที่เข้าร่วมประชุมมีทั้งหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว “นายเดนิส แม็คโดนาฟ” ประธานที่ปรึกษาต่อต้านการก่อการร้าย “นางลิซา โมนาโก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม “นางลอเร็ตต้า ลินช์“ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ”นายเจมส์ โคมีย์” ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ “นายเจมส์ แคลปเปอร์” และผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ “นายไมค์ โรเจอร์ส” ส่วนภาคเอกชนที่เข้าร่วมประชุมมีทั้งทวิตเตอร์, แอ๊ปเปิ้ล อิงค์, เฟซบุ๊ค, กูเกิล ไมโครซอฟท์ คอร์ป, ดร็อปบ็อกซ์ และบริษัทอินเทอร์เน็ตอีกจำนวนมาก คาดว่าทั้งหมดจะส่งผู้บริหารระดับสูงเข้าประชุมแต่ไม่ใช่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ โดยประเด็นที่จะหารือกันเน้นไปที่เนื้อหาของโซเชียลมีเดีย การสื่อสารที่ไม่เข้ารหัส และหัวข้ออื่น ๆ ขณะนี้ บริษัทเทคโนโลยีรวมทั้งโซเชียลมีเดีย เช่น ทวิตเตอร์ อิงค์, อัลฟาเบต อิงค์ เจ้าของยูทูบ และเฟซบุ๊ค อิงค์ ต้องเจอแรงกดดันที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ให้จัดการกับการโฆษณาชวนเชื่อออนไลน์จากกลุ่มติดอาวุธ เช่น กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสให้มากกว่านี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไปจนถึงเหตุกราดยิงในซานเบอร์นาร์ดิโน…

โคโซโวประท้วงเดือดจุดไฟเผาสถานที่ราชการ

Loading

     กลุ่มผู้ประท้วงโคโซโวปะทะเดือดเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ปาระเบิดเพลิงเผาสถานที่ราชการ      วันนี้ (10ม.ค.59) กลุ่มผู้ชุมนุมได้ต่อสู้กับตำรวจ และระดมขว้างปาระเบิดเพลิงหลายลูก  เผาที่ทำการใหญ่ของรัฐบาลโคโซโวในกรุงพริสทิน่าเมื่อวานนี้  เพราะไม่พอใจที่โคโซโว ประเทศน้องใหม่ในแถบคาบสมุทรบอลข่าน ทำข้อตกลงกับเซอร์เบีย ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องรีบเข้าสกัดไฟ  ก่อนที่เพลิงลุกลามไปส่วนต่างๆ   ส่วนตำรวจได้ใช้แก็สน้ำตา เพื่อสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงหลายพันคน      นายฟัตมีร์  ลิมาจ  หัวหน้าพรรคนิสม่า ฝ่ายค้าน ซึ่งเข้าร่วมการกล่าวปราศรัยโจมตี ก่อนเหตุรุนแรงปะทุขึ้น ระบุว่า พวกเขาประท้วงข้อตกลงที่มีสหภาพยุโรป (อียู) เป็นผู้ไกล่เกลี่ย เพื่อให้ชนกลุ่มน้อยเชื้อสายเซิร์บในโคโซโวมีอำนาจในระดับท้องถิ่นมากขึ้น  และมีความเป็นไปได้ที่อาจได้รับเงินสนับสนุนจากเซอร์เบีย      ขณะที่ ผู้นำฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลออก และจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด ด้านประธานาธิบดีโคโซโว ได้ประณามเหตุการณ์ไม่สงบ ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงระดับทวิภาคีเมื่อเดือนสิงหาคม      อย่างไรก็ตาม ตำรวจระบุว่า เหตุจลาจล ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 14 ราย  รวมทั้งตำรวจ 10 นาย และผู้สื่อข่าว 2 คน…

บิน ‘ยูไนเต็ด’ เบนเข็มจอดเจอผู้โดยสารขู่

Loading

     ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เบนเข็มลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินแวนคูเวอร์ ของแคนาดา หลังเจอผู้โดยสารส่งข้อความขู่      นักบินสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เที่ยวบินจากรัฐแอลาสกา ไปยังเมืองเดนเวอร์ของสหรัฐ ตัดสินใจเบนเข็มลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินแวนคูเวอร์ ของแคนาดา หลังเจอผู้โดยสารส่งข้อความขู่ ขณะตำรวจรวบตัวผู้ต้องสงสัยไว้ทันที      รายงานข่าวระบุว่า เที่ยวบิน 1104 ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ที่มีผู้โดยสาร 131 คน และลูกเรือ 6 คน ลงจอดฉุกเฉินที่เมืองแวนคูเวอร์ เมื่อเวลา 4.30 น ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลาประมาณ 19.30 น ตามเวลาในประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจแคนาดา ได้เข้าควบคุมตัวผู้โดยสารรายหนึ่งไว้ทันที      ตำรวจแคนาดา เผยว่า ลูกเรือพบข้อความข่มขู่จากผู้โดยสารรายดังกล่าว และนักบินตัดสินใจที่จะนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ไม่ได้มองว่าเป็นการก่อการร้ายแต่อย่างใด โดย่ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อความข่มขู่ดังกล่าว ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 10 มกราคม…

รัฐมนตรีท่องเที่ยวอียิปต์เพิ่มมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว

Loading

  ที่บริเวณชานกรุงไคโร อียิปต์ ตำรวจและทหารถูกลอบยิงเสียชีวิตในรถเมื่อ 9 ม.ค.59 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากกรณีคนร้ายใช้มีดแทงนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ 3 คนในโรงแรมที่พักในพื้นที่ต่างอากาศทะเลแดงของอียิปต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของอียิปต์แถลงว่าจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและดูแลนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น รายได้หลักส่วนหนึ่งของประเทศอียิปต์มาจากการประกอบกิจการท่องเที่ยว ที่มา : BY REUTERS ON 1/9/16 AT 2:49 PM Link : http://www.newsweek.com/cairo-red-sea-egypt-armed-men-shot-police-officer-413667

ฟิลิปปินส์เริ่มเทศกาลฉลองพระเยซูดำ ที่กรุงมะนิลา

Loading

     ฟิลิปปินส์เริ่มเทศกาลฉลองพระเยซูดำ (The Procession of the Black Nazarene) เมื่อ 9 ม.ค.59 ที่กรุงมะนิลา มีประชาชนเข้าร่วมขบวนแห่กว่าหนึ่งล้านคน      ทางการฟิลิปปินส์เตรียมการรักษาความปลอดภัยอย่างกวดขันตลอดระยะทางที่ทำพิธีฉลองครั้งนี้ ประกอบด้วยตำรวจและทหารดูแลความปลอดภัย 5,000 นาย และตามริมฝั่งแม่น้ำสายหลักของกรุงมะนิลา จัดหน่วยกู้ชีพและตำรวจเฝ้าระวังเหตุ      นอกจากนี้ ยังเตรียมพลแม่นปืน สุนัขดมกลิ่น และหน่วย SWAT ประจำการตามจุดเสี่ยงภัย พร้อมกับใช้เครื่อง Drone บินสังเกตการณ์ตลอดขบวนแห่ และยังทำการสุ่มตรวจอาวุธ พลุ หรือสิ่งต้องห้ามตามสัมภาระติดตัวของผู้เข้าร่วมขบวนแห่อีกด้วย      ถึงแม้ทางการฟิลิปปินส์จัยังไม่ได้รับการขู่คุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายก็ตาม แต่เหตุที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดเช่นนี้ เพื่อป้องปรามนับแต่เกิดกรณีโจมตีกรุงปารีส เพราะขณะนี้ฟิลิปปินส์ยังเผชิญกับปัญหาจากทั้งกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มมุสลิมทางตอนใต้ที่ต่อต้านรัฐบาล ที่มา : The Washington Post วันที่ 9 มกราคม 2558 Link : https://www.washingtonpost.com/world/asia_pacific/huge-catholic-parade-held-under-heavy-security-in-manila/2016/01/09/86505498-b6a8-11e5-8abc-d09392edc612_story.html

โลกผวา!! ก่อการร้าย IS โชว์เทคโนโลยี “คาร์บอมบ์เคลื่อนที่ไร้คนขับ”

Loading

     ฮอฟฟิงตันโพสต์/สกายนิวส์ – พบวิดีโอชุดใหม่ของพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) เป็นภาพช่างเทคนิคของนักรบกลุ่มนี้กำลังทดสอบคาร์บอมบ์เคลื่อนที่ไร้คนขับและดัดแปลงขีปนาวุธพื้นผิวสู่อากาศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของอังกฤษถึงกับตกตะลึงต่อขีดความสามารถขององค์กรก่อการร้ายกลุ่มนี้      รายงานข่าวของสกายนิวส์ระบุว่า พวกไอเอสสามารถดัดแปลงซ่อมแซมขีปนาวุธหลายพันลูกที่เหล่ารัฐบาลชาติตะวันตกสันนิษฐานว่าไม่สามารถใช้งานได้แล้ว เนื่องจากมีอายุเก่าเก็บ จนกลับมาใช้การได้อีกครั้ง      ภาพแสดงให้เห็นว่าไอเอสมีความสามารถผลิตแบตเตอรี่ทำเองสำหรับขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศ บางอย่างที่เคยถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับกลุ่มก่อการร้ายหนึ่งที่ปราศจากโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร นอกจากนี้แล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าพวกไอเอสสามารถผลิตรถยนต์ควบคุมจากระยะไกลได้อย่างสมบูรณ์ ที่จะถูกใช้เป็นระเบิดเคลื่อนที่      รถยนต์เหล่านี้จะติดตั้งคนขับที่เป็นหุ่นยนต์ติดเครื่องควบคุมอุณหภูมิซึ่งกำหนดค่าได้เอง สำหรับสร้างความร้อนระดับเดียวกับร่างกายมนุษย์ เพื่อให้ผ่านเครื่องสแกนที่ปกป้องอาคารต่างๆ ของรัฐบาลและกองทัพตะวันตก      รายงานข่าวระบุว่า กองกำลังปลดปล่อยซีเรียเป็นผู้ส่งต่อวิดีโอฉบับที่ไม่ตัดต่อความยาว 8 ชั่วโมงนี้ หลังพวกเขายึดมันมาได้จากครูฝึกไอเอสรายหนึ่ง ที่ควบคุมตัวได้ระหว่างกำลังมุ่งหน้าผ่านตุรกีไปยังยุโรป      พันตรี คริส ฮันเตอร์ ที่ปรึกษาทางทหารชาวอังกฤษ อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของกองกำลังพิเศษ ให้สัมภาษณ์ต่อสกายนิวส์ว่า เขารู้สึกช็อกอย่างยิ่งต่อพัฒนาการบางอย่างในวิดีโอ ที่เผยให้เห็นขีดความสามารถของเหล่านักวิทยาศาสตร์จาก “มหาวิทยาลัยญิฮาด” ในเมืองรักกา ของซีเรีย เมืองหลวงโดยพฤตินัยของไอเอส      “ผมคิดว่านี่อาจเป็นหนึ่งในข่าวกรองเกี่ยวกับไอเอสที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เราได้เห็นคือรูปแบบวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อที่มีคุณภาพสูงมาก พวกเขาออกแบบและผลิตเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คน มุ่งหวังเขย่าประสาทใครก็ตามที่ได้ดู”  …