ออสเตรเลียและอินโดนีเซีย เห็นชอบเพิ่มการแบ่งปันข่าวกรองระหว่างกัน เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย

Loading

     ออสเตรเลียและอินโดนีเซีย เห็นชอบเพิ่มการแบ่งปันข่าวกรองระหว่างกัน เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย หลังจากตำรวจอินโดนีเซียจับกุมเครือข่ายกลุ่มสุดโต่ง ที่วางแผนก่อเหตุระเบิดพลีชีพในกรุงจาการ์ตาได้เมื่อสองวันก่อน      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย “นางจูลี บิช็อป” กล่าวหลังประชุมทวิภาคีประจำปีกับรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย “นางเรตโน มาร์ซูดี” ที่นครซิดนีย์ว่า ออสเตรเลียและอินโดนีเซียกำลังร่วมมือกันใกล้ชิดอย่างยิ่ง ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรับมือการก่อการร้าย และจะแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองระหว่างกันต่อไป เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนและศาสนาที่เคารพรัก      (Ins: 7082) เมื่อวันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา (18-19 ธ.ค.58) ตำรวจอินโดนีเซียได้บุกจู่โจมหลายเมืองทั่วเกาะชวา พร้อมจับกุมสมาชิกเครือข่ายกลุ่มสุดโต่งได้ 5 คน และยึดเคมีภัณฑ์ อุปกรณ์ทดลอง และธงที่ได้รับแรงใจจากกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสได้ด้วย โดยมีรายงานว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับเบาะแสมาจากสำนักงานตำรวจกลางของออสเตรเลียและหน่วยสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ      นางบิช็อป กล่าวว่า เธอไม่สามารถให้รายละเอียดเรื่องแผนการระเบิดพลีชีพในกรุงจาการ์ตาได้ แต่เห็นว่าการแบ่งปันข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งออสเตรเลียได้เตรียมความพร้อมในส่วนของตนไว้เสมอ และปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจอินโดนีเซียประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในการกวาดล้างความพยายามก่อการร้าย      ด้านนางมาร์ซูดี ไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องแผนการก่อการร้ายเช่นกัน กล่าวเพียงว่า การแบ่งปันข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างอินโดนีเซียกับออสเตรเลีย ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์วันที่ 21 ธันวาคม 2558, 19:00 น. Link : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/679418

จังหวัดมิเอะ ญี่ปุ่น ห้ามโดรนบินในการประชุม จี7 ในปี 2559

Loading

          คณะกรรมการจังหวัดมิเอะมีคำสั่งห้ามการใช้งานโดรน บินเหนือหรือใกล้สถานที่จัดงานการประชุมจี 7           ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า นี่เป็นกฎบังคับใช้โดรนครั้งแรกในญี่ปุ่น           คำสั่งดังกล่าวผ่านมติที่ประชุมคณะกรรมการจังหวัดในวันจันทร์ (21 ธ.ค.58) ในการห้ามอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินเหนือเกาะคาชิโกจิมา ในเมืองชิมะ ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ในการจัดการประชุม รวมทั้งพื้นที่ในระยะรัศมี 1.5 กิโลเมตรของเกาะ           นอกจากนั้นยังไม่อนุญาตให้โดรนบินเหนือสถานที่ที่ผู้นำต่างชาติไปเยือน หรือภายใน 300 เมตรจากสถานที่นั้น           กฎข้อห้ามบินจะมีผลบังคับประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่ 27 มีนาคม ถึง 28 พฤษภาคม 2559 ที่มา  : สำนักข่าว NHK  …

จีนตั้งประธานต่อต้านก่อการร้ายคนแรก

Loading

       หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ของทางการจีน รายงานว่า จีนแต่งตั้งประธานคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายคนแรก ซึ่งจะให้น้ำหนักกับการปราบปรามเหตุรุนแรงด้านเชื้อชาติที่เกี่ยวข้องกับเขตปกครองตนเองซินเจียงทางภาคตะวันตก      หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ รายงานเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) ว่า นายหลิว ยู่จิน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้าย โดยก่อนหน้านี้เขาทำหน้าที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณะ และทำงานด้านปราบปรามยาเสพติดมาตั้งแต่ทศวรรษ 80      โดยในปี 2556 นายหลิวเคยกล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะ โกลบอล ไทม์สของจีนว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังพิจารณาใช้โดรนโจมตีเจ้าพ่อยาเสพติดในเมียนมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังหารลูกเรือจีน 13 คน เมื่อปี 2554      ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขตปกครองตนเองซินเจียงของจีนซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ เกิดเหตุไม่สงบขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้รัฐบาลจีนต้องเร่งปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน ที่รัฐบาลระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ยิ่งกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสเติบโตขึ้น รัฐบาลในกรุงปักกิ่งยิ่งเชื่อว่า เหตุร้ายที่เพิ่มมากขึ้นได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า นั่นเป็นปฏิกิริยาตอบโต้การเลือกปฏิบัติ และการควบคุมวัฒนธรรมและศาสนาของชาวอุยกูร์มากกว่า ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 22 ธันวาคม 2558,…

อังกฤษทบทวนเรื่องการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในอังกฤษและเวลส์

Loading

อังกฤษเล็งเพิ่มการคุ้มครองทางกฎหมายแก่ตำรวจในการใช้อาวุธปืน      บีบีซีได้รับข้อมูลว่า นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษได้สั่งการให้ทบทวนเรื่องการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในอังกฤษและเวลส์ โดยให้ประเมินว่า กฎหมายในปัจจุบันให้ความคุ้มครองและสนับสนุนตำรวจเพียงพอในการตัดสินใจใช้อาวุธปืนในเหตุฉุกเฉินหรือไม่ หลังเกิดเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีส      กระทรวงมหาดไทย สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงยุติธรรมอังกฤษจะประเมินว่ากฎหมายที่มีอยู่ให้การคุ้มครองตำรวจเพียงพอ และไม่ทำให้เกิดความลังเลใจในการใช้อาวุธปืนเมื่อเกิดเหตุร้ายหรือไม่      ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากนายตำรวจระดับสูงแสดงความวิตกว่า ตำรวจไม่ได้รับการสนับสนุนทางด้านกฎหมายเพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมั่นใจ เพราะเกรงว่าจะถูกสอบสวนหรือถูกดำเนินคดีในภายหลัง      ปัจจุบัน กฎหมายกำหนดให้ตำรวจใช้ “กำลังที่สมควรแก่เหตุ” และอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนได้ในกรณีที่มีความ “เชื่ออย่างสุจริตใจและเชื่อโดยสัญชาตญาณ” ว่าการยิงเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ      ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า เหตุก่อการร้ายในกรุงปารีส ทำให้รัฐบาลและตำรวจอังกฤษต้องพิจารณาอย่างจริงจังถึงวิธีการรับมือกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ โดยปัจจุบันอังกฤษและเวลส์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 130,000 คน แต่มีผู้ได้รับการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนเพียง 6,000 คน ซึ่งรัฐบาลประกาศจะเพิ่มตัวเลขดังกล่าว      ขณะที่ตำรวจนครบาลลอนดอนก็มีแผนเพิ่มจำนวนตำรวจที่สามารถใช้ปืนช็อตไฟฟ้าด้วยเช่นกัน และคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีคาเมรอน หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงผู้คนที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อไม่นานมานี้      ด้านพรรคแรงงาน เตือนว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับตำรวจได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/BBCThai/?fref=ts