รายงานเผยในปี 2022 เว็บและเพจปลอมสูงขึ้นหลายเท่า

Loading

  ในรายงาน Digital Risk Trends 2023 (แนวโน้มความเสี่ยงบนโลกดิจิทัล) ของ Group-IB เผยว่าเว็บไซต์และหน้าเพจปลอมสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปี 2022   สถิติชี้ว่าเว็บไซต์ฟิชชิงที่ใช้หลอกดูดข้อมูลเหยื่อสูงขึ้น 62% เมื่อเทียบกับปี 2021 และหน้าเพจหลอกลวงเพิ่มขึ้นถึง 304% หรือมากกว่า 3 เท่า   นอกจากนี้ สถิติของการนำภาพลักษณ์หรือโลโก้ของธุรกิจต่าง ๆ ไปใช้ในการหลอกลวงยังเพิ่มขึ้นถึง 162% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพิ่มขึ้นสูงถึง 211%   ภาคที่ตกเป็นเป้าที่สุดมากที่สุดคือภาคบริการทางการเงิน (74%) รองลงมาคือหวย พลังงาน และภาคค้าปลีก   หากแบ่งเป็นรายภูมิภาคพบว่า การหลอกลวงในยุโรปส่วนใหญ่แพร่กระจายบนแอปสนทนา ส่วนเอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลางและแอฟริกา จะแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย   รายงานระบุว่าสิ่งที่ทำให้การหลอกลวงมีเพิ่มขึ้นคือการใช้ระบบอัตโนมัติและโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าก็จะเพิ่มขึ้นอีกผ่านการใช้ AI     ที่มา Infosecurity Magazine      …

จีนออกกฎระเบียบควบคุม Generative AI มีผลบังคับใช้ 15 ส.ค.

Loading

  สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของจีน (CAC) ได้ออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) ในวันนี้ (13 ก.ค.) ท่ามกลางความพยายามของจีนในการเพิ่มการควบคุมเทคโนโลยี Generative AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว   CAC ระบุว่า CAC ได้ร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ เพื่อจัดทำกฎระเบียบใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 สิงหาคม   รายงานระบุว่า Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสามารถสร้างคอนเทนต์ เช่น ข้อความหรือรูปภาพได้ โดยแชตจีพีที (ChatGPT) ของบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) จากสหรัฐ เป็นตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถป้อนคำถามเพื่อขอคำตอบจากแชตบอต   บริการเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลจำนวนมหาศาล โดยความสำเร็จของ ChatGPT ได้จุดประกายให้บริษัทคู่แข่งเปิดตัวบริการแบบเดียวกัน ก่อให้เกิดความกังวลในกลุ่มหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบทั่วโลกเกี่ยวกับความเสี่ยงจากเทคโนโลยีดังกล่าว   ขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ต่างเข้าร่วมลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าวเช่นกัน ด้วยการประกาศแผนและเปิดตัวบริการเทคโนโลยี Generative AI ของตนเอง   อย่างไรก็ตาม…

คนร้ายแกะรอยจากแอปพลิเคชัน! ลอบสังหาร ผบ.เรือดำน้ำรัสเซีย ตายกลางสวนสาธารณะ

Loading

    ซีเอ็นเอ็นและสำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซีย รายงานว่า นายสตานิสลาฟ รจีตสกี ผู้บัญชาการเรือดำน้ำของรัสเซีย ถูกลอบสังหารเสียชีวิต ขณะวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองคราสโนดาร์ ทางภาคใต้ของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ (10 กรกฎาคม 2566) เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายสะกดรอยตามแอปพลิเคชัน Strava ที่นักวิ่งและนักปั่นจักรยาน เพื่อใช้รวบรวมสถิติการออกกำลังกาย   หลังเกิดเหตุ ตำรวจควบคุมตัวชายต้องสงสัยคนหนึ่งพร้อมของกลางคือ ปืนสั้น 1 กระบอก พร้อมกระบอกเก็บเสียงปืนอีก 1 อัน แต่ยังไม่ทราบเหตุจูงใจของคนร้ายและอยู่ระหว่างการสอบสวน   เว็บไซต์ข่าวซาร์กราด (Tsargrad) ของรัสเซีย รายงานว่า คนร้ายวางแผนการฆาตกรรมมาอย่างดี ทำให้ระหว่างก่อเหตุลอบสังหารนายรจีตสกี ไม่ปรากฎภาพบันทึกอยู่ในกล้องซีซีทีวีที่จุดเกิดเหตุ คาดว่า คนร้ายอาจจะดักซุ่มในสวนสาธารณะใกล้ศูนย์กีฬาโอลิมปัส ซึ่งเป็นจุดที่นายรจีตสกี เริ่มออกวิ่งในทุกเช้า นอกจากนั้นยังพบว่า ในข้อมูลประวัติผู้ใช้แอป Strava พบว่า นายรจีตสกี ยังบันทึกระหว่างปั่นจักรยานในเมืองเซวาสโตโพล ซึ่งเป็นที่ตั้งกองเรือดำน้ำของรัสเซียประจำทะเลดำ   ก่อนหน้านี้ หน่วยข่าวกรองของยูเครนเปิดเผยทางเทเลแกรมเรื่องการเสียชีวิตของนายรจีตสกี ระบุว่า นายรจีตสกีถูกกระหน่ำยิง 7 นัดด้วยปืนพกกึ่งอัตโนมัติมาคารอฟ เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ…

ป่วน! แขวนป้ายผ้า-พ่นสีบนถนน ข้อความ “สันติภาพที่ยั่งยืน” 3 จุดในยะลา เชื่อกดดันโหวตนายกฯ

Loading

    ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – คนร้ายก่อกวนแขวนป้ายผ้า และพ่นสีบนถนน ระบุข้อความ “สันติภาพที่ยั่งยืน” จำนวน 3 จุด ในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา เจ้าหน้าที่เชื่อสร้างสถานการณ์กดดันโหวตนายกฯ วันนี้   วันนี้ (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธารโต จ.ยะลา รับแจ้งจากชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ว่ามีคนร้ายก่อกวนพ่นสีบนถนน และแขวนป้ายผ้า จำนวน 3 จุด โดยจุดที่ 1 คนร้ายได้มีการพ่นสีแดงบนถนน โดยการเขียนข้อความว่า “สันติภาพที่ยั่งยืน” บนถนนสายบ้านผ่านศึก – บ้านดินเสมอ ใกล้กับมัสยิดบ้านผ่านศึก หมู่ 2 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จุดที่ 2 คนร้ายได้มีการแขวนป้ายผ้าริมถนน และวางวัตถุต้องสงสัย บริเวณถนนสายธารโต – เบตง บ้านบูโล๊ะสนีแย หมู่…

EU มีมติผ่านกรอบความร่วมมือ อนุญาตบริษัทเทคถ่ายโอนข้อมูลข้ามทวีประหว่างสหรัฐ-ยุโรป

Loading

      คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) อนุมัติกรอบความร่วมมือว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (EU – U.S. Data Privacy Framework) เปิดทางให้บริษัทเทคโนโลยีสามารถถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของชาวยุโรปไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาได้แล้ว   คณะกรรมาธิการยุโรปให้เหตุผลว่า รายละเอียดของการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวภายใต้กรอบนี้ ถือว่ามีความปลอดภัยเพียงพอ และตอบโจทย์ข้อกังวลและข้อเสนอแนะของศาลยุติธรรมยุโรป (European Court of Justice) เช่น จำกัดการเข้าถึงข้อมูลของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เท่าที่จำเป็น หรือการตั้งศาล Data Protection Review Court ที่ชาวยุโรปสามารถเข้าถึงข้อมูลได้   บริษัทที่ลงนามเข้าร่วมกรอบความร่วมมือนี้จะสามารถถ่ายโอนข้อมูลจากยุโรปกลับไปยังสหรัฐได้อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องมีมาตรการความปลอดภัยอื่นๆ มาครอบอีกที   อย่างไรก็ตาม กรอบความร่วมมือนี้มีโอกาสถูกอุทธรณ์จากกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัว เพราะมองว่าปัญหาอยู่ที่กฎหมายด้านการสอดส่อง (surveillance law) ของสหรัฐฯ รวมถึงตั้งคำถามถึงท่าทีของ EU ซึ่งที่ผ่านมาต่อต้านแนวทางนี้มาตลอด อย่างกรณีปี 2020 ที่ศาลของ EU สั่งห้ามการส่งข้อมูลกลับสหรัฐฯ ก็เพราะกฎหมายฉบับดังกล่าว   ที่มา :…

ก.ดีอีเอส เตรียมดันให้หน่วยงานใช้ระบบคลาวด์ พร้อมตั้งศูนย์ลดการโกงดิจิทัล

Loading

  ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) อัปเดตว่ากำลังพัฒนาระบบ Digital Identification (Digital ID) ภายใต้โครงการ ThaiD พร้อมยังระบุว่ากำลังผลักดัน Go Cloud First สร้างระบบคลาวด์ในประเทศ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนสามารถใช้งานได้   ดีอีเอสยังอัปเดตในส่วนของมาตรการลดการหลอกลวงทางออนไลน์ หลังจากที่มีการบังคับใช้ พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนการแจ้งความคดีออนไลน์จาก 800 คดี เหลือประมาณ 600 คดีต่อวัน   เป้าหมายต่อไป ดีอีเอสกำลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ในการพัฒนาศูนย์ลดการโกงดิจิทัลเรียกว่าระบบ “Central Fraud Registry” เป็นแพลตฟอร์มรองรับการทำธุรกรรมผ่านธนาคาร ช่วยแก้ปัญหาการถูกหลอกลวงและช่วยหยุดการโกงและลดการสูญเสียผ่านออนไลน์   ทางกระทรวงดีอีเอสพยายามเพิ่มช่องทางให้ประชาชนเห็นข้อมูลรูปแบบกลโกงมิจฉาชีพผ่านการร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ , ธนาคาร , การศึกษา ผ่านโครงการ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง ที่พึ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ธนาคารมีอำนาจในการหยุดยับยั้งได้เร็วขึ้นเมื่อธนาคารได้รับการแจ้งจากเจ้าของบัญชี รวมไปถึงสร้างการรับรู้ผ่านการแจ้งเตือนในแอปเป๋าตังและแอปธนาคาร ถึงแม้ว่าตอนนี้การหลอกลวงใหม่ๆ จะเกิดขึ้น…