Meta โชว์ Voicebox ปัญญาประดิษฐ์สร้างเสียงจากข้อความ , เลียนแบบเสียงใครก็ได้โดยใช้ตัวอย่างแค่สองวินาที

Loading

  ทีมวิจัย Meta AI รายงานถึงปัญญาประดิษฐ์ Voicebox ที่แปลงข้อความเป็นเสียง (text-to-speech – TTS) ด้วยความแม่นยำสูง มีอัตราความผิดพลาดของคำต่ำ และยังสามารถเลียนแบบเสียงใครก็ได้ โดยต้องการตัวอย่างเสียงเพียงสั้นๆ เท่านั้น   ทีมงานสร้าง Voicebox จากหนังสือเสียงภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมนี, และโปรตุเกส รวมข้อมูล 50,000 ชั่วโมง ความสามารถของ Voicebox สามารถเลียนแบบเสียงจากตัวอย่างเสียงสั้นๆ เท่านั้น , สามารถเลียนแบบสไตล์การพูดข้ามภาษาได้ ด้วยการใส่ข้อความภาษาอื่นๆ เข้าไปแม้ว่าตัวอย่างเสียงจะพูดอีกภาษา , ใช้ลบเสียงรบกวนและตัดต่อข้อความได้ โดยการตัดช่วงเวลาที่ไม่ต้องการออกจากตัวอย่าง แล้วใส่แต่ข้อความเข้าไป   Voicebox มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น การสร้างเสียงเพื่อทดแทนสำหรับผู้ป่วยที่พูดไม่ได้แล้ว ให้สามารถสื่อสารด้วยเสียงเดิมของตัวเอง แต่ Meta AI ก็ยอมรับว่ามันมีอันตรายมาก เพราะสามารถใช้สร้างข่าวปลอมได้หลากหลาย ในอนาคตทีมงานจะสร้างโมเดลที่สมจริงแต่ตรวจสอบได้ง่ายว่าเป็นเสียงที่สังเคราะห์ขึ้นมา   ที่มา – Meta AI…

Google เตือนพนักงาน ให้ระมัดระวังการป้อนข้อมูลบริษัทลงในแชตบอท AI แม้แต่ Bard ก็ไม่เว้น

Loading

  สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวภายในพนักงาน Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล 4 คน ยืนยันว่าบริษัทได้ให้คำแนะนำกับพนักงาน ระมัดระวังการใช้งานแชตบอท AI ทุกชนิด ซึ่งรวมทั้ง Bard แชตบอทของบริษัทด้วย ไม่ให้ป้อนข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทลงไป ซึ่งถือเป็นนโยบายพื้นฐานอยู่แล้วในการดูแลควบคุมข้อมูลภายใน   นอกจากข้อมูลที่เป็นความลับบริษัท Alphabet ยังเตือนวิศวกรให้เลี่ยงการนำโค้ดที่ถูกเขียนโดยแชตบอทไปใช้งาน ซึ่งเป็นหนึ่งในความสามารถของแชตบอท AI ที่ได้รับความนิยม   ประกาศภายในของกูเกิลนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด หลายบริษัทได้ออกคำเตือนหรือห้ามพนักงานในการใช้งานแชตบอท AI เพื่อป้องกันปัญหาข้อมูลรั่วไหล ไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง อเมซอน หรือแอปเปิล ขณะที่กูเกิลเองก็ขึ้นคำแนะนำในการใช้งานแชตบอท Bard สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปด้วยว่าอย่าป้อนข้อมูลที่เป็นความลับในการสนทนา   ที่มา: Reuters   ————————————————————————————————————————————————————————————————————–   ที่มา : blognone    /   วันที่เผยแพร่ 17 มิ.ย.66 Link : https://www.blognone.com/node/134409

ข้อมูลชาวอเมริกันรั่วไหลนับล้านราย หลังรัฐบาลกลางของ 2 รัฐถูกแฮ็ก

Loading

สำนักงานยานพาหนะของรัฐบาลกลางรัฐลุยเซียนาและโอเรกอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ ข้อมูลประชาชนรั่วไหลกว่า 6 ล้านรายการ ทางการสหรัฐฯ รายงานว่า สำนักงานยานพาหนะของรัฐบาลกลางรัฐลุยเซียนาและโอเรกอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ เป็นเหตุให้ข้อมูลส่วนตัวของประชาชนหลายล้านคนจากข้อมูลบัตรประชาชนและใบขับขี่ รั่วไหลออกมา การแฮกดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชาวโอเรกอน 3.5 ล้านคน ที่มีใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชน และทุกคนที่มีเอกสารดังกล่าวในลุยเซียนา โดย เคซีย์ ทิงเกิล เจ้าหน้าที่อาวุโสสำนักงานผู้ว่าการรัฐลุยเซียนากล่าวว่า ข้อมูลมากกว่า 6 ล้านรายการถูกบุกรุก โดยบอกว่า ตัวเลขดังกล่าวมีการซ้ำซ้อนกัน เนื่องจากบางคนมีทั้งทะเบียนรถและใบขับขี่ สำหรับข้อมูลที่รั่วไหลออกมา มีหมายเลขประกันสังคมและหมายเลขใบขับขี่ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแนะนำประชาชนเกี่ยวกับวิธีการป้องกันตนเองจากการฉ้อโกงรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้ข้อมูลประจำตัว ทั้งนี้ จอห์น เบล เอ็ดเวิร์ดส์ เจ้าหน้าที่สำนักงานรัฐลุยเซียนาบอกว่า ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า แฮกเกอร์ได้ขายหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยจากสำนักงานยานพาหนะของรัฐลุยเซียนา และแฮกเกอร์ไม่ได้ติดต่อกับทางการของรัฐเพื่อเรียกร้องค่าไถ่แต่อย่างใด ทั้งสองรัฐไม่ได้ออกมากล่าวโทษว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮกข้อมูลครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางระบุว่า คดีแฮกข้อมูลที่เพิ่มขึ้นนั้นใช้ช่องโหว่เดียวกันกับแก๊งแรนซัมแวร์ของรัสเซีย โดยแฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ถ่ายโอนไฟล์ยอดนิยมที่รู้จักกันในชื่อ MOVEit ซึ่งสร้างโดย Progress Software ในแมสซาชูเซตส์ องค์กรหลายร้อยแห่งทั่วโลกมีแนวโน้มที่ข้อมูลจะรั่วไหลออกมา หลังจากที่แฮกเกอร์ใช้ข้อบกพร่องเพื่อเจาะเครือข่ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ หลายแห่ง รวมทั้งกระทรวงพลังงาน ก็ถูกโจมตีทางไซเบอร์ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อธิบายว่า การโจมตีทางไซเบอร์เป็นการฉวยโอกาสและเกิดจากมิจฉาชีพหรือแฮกเกอร์ที่ต้องการเงินเป็นหลัก…

“แดเนียล เอลส์เบิร์ก” ผู้เปิดโปงเอกสารเพนตากอน ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว

Loading

  “แดเนียล เอลส์เบิร์ก” ผู้เปิดโปงเอกสารลับเพนตากอนเรื่องการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนในวัย 92 ปี “แดเนียล เอลส์เบิร์ก” อดีตนักวิเคราะห์ทางการทหารของสหรัฐฯ ผู้เปิดโปง “เพนตากอน เปเปอร์ส” หรือ “เอกสารเพนตากอน” เอกสารลับกว่า 7,000 หน้าที่บันทึกการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการทหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ในระหว่างสงครามเวียดนาม ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 92 ปีที่บ้านพักในเมืองเคนซิงตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น แถลงการณ์ของครอบครัวระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตคือ โรคมะเร็งตับอ่อน หลังเอลส์เบิร์กประกาศว่าได้รับการวินัจฉัยว่าป่วยด้วยโรคดังกล่าวในเดือนมีนาคม โดยแพทย์ประเมินว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ 3 – 6 เดือน และเขาตัดสินใจไม่รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1960 “เอลส์เบิร์ก” ซึ่งทำงานเป็นนักวิเคราะห์ทางการทหารให้กับสถาบันแรนด์ (RAND Corporation) พบว่า สหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามเวียดนามหลังจากเข้าถึงเอกสารลับที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลโกหกประชาชนอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการทำสงครามในเวียดนาม ข้อมูลจากเอกสารลับบางส่วน ระบุว่า ประธานาธิบดีลินดอน บี.จอห์นสัน ของสหรัฐฯ ในสมัยนั้น ชี้แจงว่า เป้าหมายในการทำสงครามเวียดนามคือเสรีภาพในเวียดนามใต้ แต่จากบันทึกของ “จอห์น…

พบคนไทยตกเป็นเหยื่อภัยไซเบอร์ เสียหายกว่า 40,000 ล้านบาท

Loading

  ตำรวจไซเบอร์ เปิดสถิติหลอกลวงทางออนไลน์ ในรอบ 1 ปี พบยอดแจ้งความเฉียด 3 แสนคดี มูลค่าเสียหายเกือบ 40,000 ล้านบาท ชี้คดีหลอกขายสินค้าสูงที่สุด ตามด้วยหลอกให้โอนเงิน ด้าน เอไอเอส เปิดตัว ดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล พบคนไทยมีความรู้ด้านดิจิทัล แค่พื้นฐาน พบว่า มีกว่า 44% ต้องมีการพัฒนาทักษะให้เท่าทันโลกดิจิทัล   16 มิ.ย. 2566 – พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) เปิดเผยสถิติการหลอกลวงทางออนไลน์ ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์บน www.thaipoliceonline.com ยอดสะสม 1 มี.ค. 65 – 31 พ.ค. 2566 พบว่า มียอดสูงถึง 296,243 เรื่อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบ 40,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นเฉลี่ย…

สหรัฐเจอฤทธิ์แก๊งโจรไซเบอร์รัสเซีย เจาะระบบผ่านแอปโอนถ่ายข้อมูล

Loading

  หน่วยงานราชการของสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง โดนโจมตีจากแก๊งอาชญากรไซเบอร์จากรัสเซีย โดยอาศัยช่องทางผ่านแอปพลิเคชันดาวน์โหลดข้อมูลยอดนิยม   เอริก โกลด์สตีน ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหารสำนักความมั่นคงโครงสร้างพื้นฐานและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของสหรัฐ หรือ CISA แถลงเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2566 ว่า ขณะนี้ ทางสำนักงานกำลังให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานราชการของรัฐบาลกลางหลายแห่ง ที่พบการบุกรุกจากภายนอก โดยผ่านช่องทางการใช้งานแอปพลิชัน MOVEit   สำนักงาน CISA กำลังประเมินอย่างเร่งด่วนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที หนึ่งในหน่วยงานที่ยืนยันมาแล้วว่าโดนแฮ็กระบบคือกระทรวงพลังงาน   นอกเหนือจากหน่วยงานราชการหลายแห่งแล้ว ยังมีบริษัทและองค์กรเอกชนจำนวนมากที่โดนแฮ็กข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว ทาง CISA ระบุว่า แก๊งอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อว่า CLOP เป็นผู้ลงมือโจมตีไปทั่วโลกในครั้งนี้   CLOP เป็นแก๊งอาชญากรไซเบอร์จากรัสเซีย มีพฤติกรรมการก่ออาชญากรรมในลักษณะของการแฮ็กเข้าระบบของหน่วยงานแล้วขโมยข้อมูล จากนั้นก็นำไปเรียกค่าไถ่ซึ่งมักจะอยู่ในระดับหลายล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่ปรากฏการเรียกร้องในลักษณะดังกล่าวต่อหน่วยงานราชการของสหรัฐ   เจน อีสเตอร์ลีย์ ผู้อำนวยการของ CISA กล่าวว่า ยังไม่พบผลกระทบที่ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ในหน่วยงานราชการที่เป็นกิจการของพลเรือน และเสริมว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์เพียงใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ เจาะเข้ามาในระบบเครือข่ายเพื่อมองหาโอกาสที่เป็นไปได้ในการก่ออาชญากรรม   การแฮ็กระบบทั่วโลกครั้งใหญ่นี้เริ่มต้นราว…