เตือนภัย ปชช.อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์

Loading

  กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – ตำรวจไซเบอร์เตือนภัยประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ ฉวยโอกาสช่วงค่าไฟฟ้าแพง   พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวเตือนภัยประชาชน กรณีมิจฉาชีพเข้ามาแฝงตัวในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อหลอกลวงขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ดังนี้   ได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) พบว่าเริ่มมีผู้เสียหายหลายรายทยอยแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ หลังจากถูกมิจฉาชีพหลอกลวงขายแผงโซลาร์เซลล์ หรืออุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ให้กับเหยื่อผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายการอุปโภคและบริโภคจากการใช้ไฟฟ้าในรูปแบบของที่พักอาศัย โดยมิจฉาชีพฉวยโอกาสในช่วงโซลาร์เซลล์กำลังเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจในสถานการณ์ปัจจุบัน ใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มต่าง ๆ ที่มีการซื้อขายโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โพสต์ประกาศขายสินค้าดังกล่าวในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด ใช้รูปภาพที่คัดลอกมาจากช่องทางที่มีการซื้อจริง โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณต่าง ๆ และมีการเร่งรัดให้รีบตัดสินใจว่าสินค้าใกล้จะหมด นอกจากนี้แล้วมิจฉาชีพยังใช้วิธีการสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาทั้งหมด เพื่อหลอกลวงขายสินค้าประเภทดังกล่าวอีกด้วย   ที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 16 เม.ย.66 พบว่าการหลอกลวงซื้อสินค้าหรือบริการ ยังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อ โดยได้แจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 1 จำนวนกว่า 85,395 เรื่อง หรือคิดเป็น 35.61% ของเรื่องที่มีการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด…

ธนาคารเร่งสแกนใบหน้า ยืนยันตัวตนเมื่อโอนเงินเกิน 50,000 เริ่มพ.ค.-มิ.ย นี้

Loading

    แบงก์ชาติ เร่งธนาคารเอกชน อัปเกรดระบบสแกนใบหน้า รวมทั้งเร่งอัปเดตระบบแอปพลิเคชั่น ให้สามารถตรวจสอบตัวตนภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ หากมีการโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป เพื่อป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์   จากกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ มีนโยบายให้ธนาคารทุกแห่งที่ให้บริการโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน ยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมบนแอปธนาคาร   เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับมิจฉาชีพ ได้ใช้ช่องทางดังกล่าว หลอกให้ประชาชนโอนเงิน โดยแบงก์ชาติกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องยืนยันตัวตนเมื่อทำธุรกรรมตามกำหนด ถือว่าเป็นนโยบายการบริหารจัดการปัญหาการทุจริตและหลอกลวง ผ่านการใช้บัญชีเงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนทุกครั้ง   สำหรับธุรกรรมที่ต้องยืนยันตัวตนสแกนใบหน้า เมื่อใช้บริการผ่านแอปธนาคาร โมบายแบงก์กิ้ง ดังนี้   1.โอนเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้ง   2.โอนเงินเกิน 200,000 บาทต่อวัน   3.ปรับเปลี่ยนวงเงินโอน   โดยแบงก์ชาติกำหนดให้ทุกธนาคารเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2566 แต่หากทำธุรกรรมโอนเงินไม่ถึงวงเงินดังกล่าว ก็ยังสามารถโอนเงินใช้บริการได้ตามปกติเช่นเดิม     โดยทางธนาคารเอกชนต่างก็อัปเกรดระบบแอปพลิเคชั่นทางการเงินและทยอยให้ผู้ใช้งานอัปเดตการสแกนใบหน้าบ้างแล้ว   ธนาคารไทยพาณิชย์   ไทยพาณิชย์ แจ้งลูกค้าเตรียมความพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เมื่อทำธุรกรรม ผ่านแอปพลิเคชัน…

องค์กรการจราจรทางอากาศยุโรปถูกโจมตีทางไซเบอร์จนระบบสื่อสารขัดข้อง

Loading

  Eurocontrol หน่วยงานการจราจรทางอากาศของยุโรปเผยว่าเว็บไซต์ถูกแฮ็กเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียโจมตี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา   การโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้เว็บไซต์ ระบบการสื่อสาร และการบริการออนไลน์ขัดข้อง สายการบินรายเล็กบางเจ้าต้องหันกลับไปใช้เทคโนโลยีเก่า ๆ ในการจัดตารางบิน   Eurocontrol ยืนยันว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบินยุโรปแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Wall Street Journal ว่าพนักงานกว่า 2,000 คนขององค์กรต้องหันไปใช้ระบบการสื่อสารอื่น และประสบความลำบากในการต่อกรกับภัยไซเบอร์ในครั้งนี้   หน้าที่ของ Eurocontrol คือประสานการจราจรสำหรับเครื่องบินพาณิชย์กับองค์กรที่มีลักษณะเดียวกันของ 41 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป   ทั้งนี้ Killnet กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในช่องภาษารัสเซียของทางกลุ่มบนแพลตฟอร์ม Telegram           ที่มา The Register           —————————————————————————————————————————————— ที่มา :         …

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย ระวังมิจฉาชีพรับสมัครผู้ทดสอบการนอนโรงแรม

Loading

    ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย ระวังมิจฉาชีพรับสมัครผู้ทดสอบการนอนโรงแรม อ้างแค่นอนหลับก็มีรายได้   โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ฝากเตือนภัยมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนให้ทำภารกิจออนไลน์ หรือหลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม ดังนี้   ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย ระวังมิจฉาชีพรับสมัครผู้ทดสอบการนอนโรงแรม   ตำรวจได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบในระบบการรับแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพชักชวนหลอกลวงให้ทำงานหารายได้เสริม ผ่านการโฆษณาตามช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชักชวนรับสมัครผู้ทดสอบการนอนโรงแรม ผ่านการโฆษณาเป็นคลิปวิดีโอสั้นใน Facebook, TikTok, Instagram อ้างเป็นงานสบาย ได้ผลตอบแทนสูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือน หรืออ้างว่าจะได้ค่าจ้างจากการนอนหลับจริงกว่า 2,000 บาทต่อคืน รวมถึงจะได้รับสวัสดิการ ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ฟรี     เมื่อผู้เสียหายสนใจมิจฉาชีพจะให้ทดสอบแสดงความเห็น หรือรีวิวโรงแรมต่างๆ ก่อนที่จะได้รับงานทดสอบการนอนที่โรงแรมจริง เพื่อประเมินว่าผู้เสียหายมีความสามารถเพียงพอหรือไม่ หากผู้เสียหายแสดงความเห็นเสร็จแล้วจะได้รับเงินจริง 50 บาทต่องาน จากนั้นจะให้เข้ากลุ่มในแอปพลิเคชัน Telegram แจ้งว่ามีงานภารกิจเสริมให้ทำ หลอกลวงให้ลงทุนเทรดหุ้น อ้างว่าจะได้รับกำไรมากกว่านี้ กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปร่วมลงทุน โดยในครั้งแรกที่ลงทุนด้วยจำนวนที่ไม่มากจะได้รับกำไรจากการลงทุนกลับคืนมาจริง จากนั้นมิจฉาชีพก็จะหลอกให้โอนเงินมาลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย จนไม่สามารถถอนเงินออกมาได้อ้างเหตุผลต่างๆ…

สลด! ‘กลุ่มชายชุดทหาร’ บุกปลิดชีพพลเรือน 60 ศพ ในบูร์กินาฟาโซ

Loading

    สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มชายสวมเครื่องแบบของกองกำลังติดอาวุธแห่งชาติบูร์กินาฟาโซ บุกเข้าไปในหมู่บ้านคาร์มา จังหวัดยาเทนก้า ทางตอนเหนือของประเทศบูร์กินาฟาโซ ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตราว 60 ราย ตามรายงานของอัยการท้องถิ่นเมื่อช่วงสายของวันที่ 23 เมษายน โดยล่าสุดได้เปิดการสืบสวนถึงเหตุโจมตีดังกล่าวแล้ว   นายลามีน คาโบเร อัยการศาลสูงเมืองวาฮิโกยา (Ouahigyouya) กล่าวโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา “ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอพยพออกจากพื้นที่ และกำลังรักษาตัวในสถานพยาบาลของเรา” คาโบเรกล่าวพร้อมกับให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุได้ขโมยสิ่งของต่างๆ ไปอีกด้วย   หมู่บ้านคาร์มาตั้งอยู่ใกล้กับพรมแดนของประเทศมาลี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มมุสลิมที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอัลเคด้า และขบวนการรัฐอิสลามที่ได้ก่อเหตุโจมตีหลายครั้งในช่วงหลายปี ฮิวแมนไรท์วอทช์เผยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า นับตั้งแต่ปี 2565 เหตุโจมตีใส่พลเรือนจากกลุ่มติดอาวุธได้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่กองกำลังความมั่นคงของรัฐและกองกำลังอาสาสมัครป้องกันได้ทำปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายที่รุนแรงหลายครั้งเช่นกัน   เหตุโจมตีในครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังเกิดเหตุโจมตีโดยกลุ่มไม่ทราบฝ่ายในหมู่บ้านโอเรมาใกล้กับเมืองวาฮิโกยา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กองกำลังอาสาสมัครป้องกันเสียชีวิต 34 ราย และทหารเสียชีวิต 6 ราย           —————————————————————————————————————————————— ที่มา :   …

นานาชาติอพยพพลเรือนพ้น “ซูดาน” สู้รบยืดเยื้อ-ตายกว่า 400 คน

Loading

    เหตุการณ์กองทัพซูดานปะทะกับกองกำลังกึ่งทหาร ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 คน รัฐบาลหลายประเทศเร่งอพยพพลเมืองออกจากซูดาน หลังการสู้รบยืดเยื้อ   วันนี้ (23 เม.ย.2566) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การปะทะกันระหว่างกองทัพซูดาน และกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหาร เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 413 คน   ขณะที่ทำเนียบขาว เผยแพร่แถลงการณ์ของ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้อพยพเจ้าหน้าที่รัฐบาลของสหรัฐฯ และครอบครัวออกจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นและเรียกร้องให้หยุดยิงทันที   ด้านกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า ได้เริ่มเปิดภารกิจอพยพพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากซูดานอย่างเร่งด่วน รวมไปถึงพลเรือนของยุโรปและชาติพันธมิตรด้วย แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม   ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศแรกที่อพยพพลเรือนออกจากซูดาน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า พลเรือนของหลายประเทศที่เป็นพี่น้องและเป็นมิตรกัน จะได้รับการอพยพพร้อมพลเรือนของซาอุดีอาระเบีย   ปฏิบัติการของซาอุดีอาระเบียได้อพยพผู้คนกว่า 150 คน…