ฮ่องกงยึดหนังสือต้องห้าม ผู้นำแจงยิบป้องกันแนวคิดทางการเมืองที่ไม่ดี

Loading

    ฮ่องกงยึดหนังสือต้องห้าม – วันที่ 18 พ.ค. เอพีรายงานว่า นายจอห์น หลี่ ประธานบริหารเกาะฮ่องกงระบุถึงการเก็บหนังสือที่ไม่เหมาะสมออกจากชั้นวางตามห้องสมุดทั่วเกาะ ว่าเพื่อป้องกันแนวคิด (ทางการเมือง) ที่ไม่ดี ไม่ให้เกิดขึ้น   การชี้แจงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทางการฮ่องกงเริ่มกำจัดหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุนองเลือดจัตุรัสเทียนอันเหมินปี 2532 และบุคคลสำคัญทางด้านการเมืองที่ไม่พึงประสงค์ ส่งผลให้สิทธิเสรีภาพลดลงอีกในฮ่องกง นับตั้งแต่การเริ่มปราบปรามฝ่ายประชาธิปไตยในฮ่องกง   นายหลี่ กล่าวกับบรรดาผู้แทนราษฎรในสภา หลังถูกยื่นกระทู้ถามว่ามีหนังสือหลายเล่มถูกนำออกจากชั้นหนังสือในห้องสมุดสาธารณะโดยปราศจากคำชี้แจงที่ชัดเจน อาทิ หนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปราบปรามผู้ประท้วง และหนังสือที่เขียนโดยบุคคลฝ่ายประชาธิปไตย   การดำเนินการข้างต้นของทางการฮ่องกงเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการทั่วโลก ว่าเป็นการบ่อนทำลายเสรีภาพการเข้าถึงข้อมูลและการแสดงออกในฮ่องกงมากขึ้นไปอีก   อย่างไรก็ตาม นายหลี่ กล่าวตอบโต้ว่า หนังสือที่ทางการอนุญาตให้ประชาชนยืมกลับบ้านได้จากห้องสมุดจะมีเฉพาะหนังสือที่ทางการแนะนำเท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่ทางการจะแนะนำหนังสือที่ละเมิดกฎหมายหรือละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงหนังสือที่มีเนื้อหาแนวคิดทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม               —————————————————————————————————————————————— ที่มา :               …

กอ.รมน. จัดเสวนาเพิ่มประสิทธิภาพ ป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและก่อการร้าย

Loading

    กอ.รมน. บูรณาการส่วนราชการ จัดเสวนาให้ความรู้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย   เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 ที่โรงแรมปรินซ์พาเลช เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร กอ.รมน. โดยศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน (ศปป.3 กอ.รมน) ได้จัดกิจกรรมเสวนาเรื่อง “ความท้าทายในการป้องกัน การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย”   โดยมี พล.ท.วิภูษณะ คล้ายมณี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 (ศปป.3) กอ.รมน. เป็นประธานในพิธีเปิดฯ ซึ่งการเสวนาในครั้งนี้ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานความมั่นคง ด้านการข่าว และหน่วยบังคับใช้กฎหมาย กว่า 100 คน ร่วมรับฟัง โดยแบ่งเป็นหัวข้อ “อาชญากรรมข้ามชาติ ในมิติการสนับสนุนการก่อการร้าย”     โดยผู้แทนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และหัวข้อ “การก่อการร้ายกับการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย” โดยผู้แทนจากศูนย์รักษาความปลอดภัย, ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล และ ศปป. 5 กอ.รมน. เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาเพิ่มพูนทักษะการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน…

คนมันเหงา! สาวต่างแดนวัย 29 ในสหรัฐฯ ลงทุนใช้เอกสารเท็จกลับเข้าเรียนระดับมัธยม

Loading

    หญิงสาววัย 29 ปีรายหนึ่ง ถูกกล่าวหาใช้เอกสารปลอมเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐฯ และเข้าเรียนในบางคาบในช่วงเวลา 4 วัน สุดท้ายถูกจับได้ และศาลแห่งรัฐในวันจันทร์ (15 พ.ค.) สั่งให้เข้าร่วมโปรแกรมคุมประพฤติในชั้นก่อนพิจารณาคดี   ฮเยจอง ชิน ไม่ยอมสารภาพผิดในเดือนมีนาคม ตามข้อกล่าวหามอบเอกสารราชการเท็จ ขณะที่ทนายควาของเธอแก้ต่างว่าที่ผู้หญิงรายนี้ทำเช่นนั้นก็เพราะเธอเหงาและปรารถนากลับคืนสู่วันเก่าๆ ในช่วงวัยเรียน ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ ในโรงเรียน แต่ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่าได้ทำผิดพลาดลงไป   เวลานี้เธอจะต้องเข้ารับการประเมินสุขภาพจิต และหากว่าเธอสิ้นสุดระยะเวลาการเข้าร่วมโปรแกรมคุมประพฤติ ท้ายที่สุดแล้วศาลอาจพิจารณาตีตกข้อกล่าวหาที่จะเอาผิดกับเธอ   ทนายความเปิดเผยว่า ชิน เป็นพลเมืองเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางมาสหรัฐฯ ด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 16 ปี จากนั้นเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาเธอเรียนจบระดับปริญญา จากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ในปี 2019   ทั้งนี้ ทนายความชี้แจงว่าลูกความของเขาไม่ได้มีเจตนาชั่วร้าย ตอนที่สมัครเข้าเรียน ณ โรงเรียนมัธยมนิว บรุนส์วิค ในเดือนมกราคม โดยเธอแค่ต้องการกลับสู่ “สถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่ต้อนรับ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เธอมองย้อนกลับไปด้วยความรัก”   เจ้าหน้าที่บอกว่า…

โจรไซเบอร์แสบ! ปั่นข่าวปลอม “ออมสิน” ปล่อยสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย คนแห่สนใจอันดับ 1

Loading

    ดีอีเอส ออกโรงเตือนประชาชนระวังโจรไซเบอร์ หลังประชาชนแห่สนใจเรื่องการกู้เงินออนไลน์ให้วงเงินสูง ปลอดดอกเบี้ย หลังมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อเงินกู้ฉุกเฉิน ขณะที่ข่าวปลอม ครม. อนุมัติถอนเงินชราภาพได้ก่อน 30% กดรับสิทธิผ่านลิงก์ ขึ้นแท่นข่าวปลอมที่คนสนใจสูงสุด   ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และโฆษกกระทรวงดีอีเอส เปิดเผยว่า ผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่  12-18 พฤษภาคม 66 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,189,887 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 274 ข้อความ โดยช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 240 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 34 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 189 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 85 เรื่อง…

อย่ากดลิงก์!เตือนภัยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง ขอตรวจสถานะเป็นเจ้าของรถ

Loading

    18 พฤษภาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอแจ้งเตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าของรัฐ โทรศัพท์สอบถามข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ยืนยันหน่วยราชการไม่มีนโยบายโทรศัพท์สอบถามข้อมูลจากประชาชน ถึงแม้จะมีการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนจากส่วนราชการให้ระมัดระวังมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อกลโกงมิจฉาชีพ   นางสาวรัชดา กล่าวว่า ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อและอย่าสนทนาหากมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกหรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งจังหวัด โทรสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล ทะเบียนรถ เพื่อเป็นการตรวจสถานะความเป็นเจ้าของทะเบียนรถ แล้วให้โหลดแอปพลิเคชันหรือให้เข้าไปกดลิงก์ยืนยัน หากไม่เข้าไปยืนยันข้อมูล จะทำให้ข้อมูลของเจ้าของรถถูกลบและไม่สามารถเรียกคืนได้ ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้ยืนยันว่า ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรตรวจสอบความเป็นเจ้าของทะเบียนรถและให้โหลดแอปพลิเคชันหรือให้เข้าลิงก์เพื่อเข้าไปยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด   สำหรับการแอบอ้างของมิจฉาชีพที่นำข้อมูลส่วนบุคคลไปทำให้เกิดความเสียหายและสูญเสียทรัพย์สิน มีดังนี้   1.การแจ้งชื่อ นามสกุล ทะเบียนรถ   2.การแจ้งให้โหลดแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถของตัวเอง   3.การให้เข้าลิงก์ที่ทางผู้แอบอ้างส่งมาให้ เพื่อยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความดูแลของกรมการขนส่งทางบก เช่น เจ้าของรถมีรถกี่คัน , เลขทะเบียน   4.การอ้างว่าหากไม่เข้าไปยืนยันข้อมูลดังกล่าว จะทำให้ข้อมูลของเจ้าของรถถูกลบและไม่สามารถเรียกคืนได้  …

หลักฐานเพียบ! จีนกล่าวหาปืนเถื่อนจากสหรัฐฯ ต้นเหตุสังคมชาติแคริบเบียนไม่ปลอดภัย

Loading

    โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนจวกสหรัฐฯ ส่งต่อปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืนในประเทศตัวเอง ไปให้ชาติเพื่อนบ้านแถบทะเลแคริบเบียน   ในการประชุมความมั่นคงหมู่ชาติแคริบเบียน (CANSEC) ซึ่งจัดขึ้นที่สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโกเมื่อเร็ว ๆ นี้ บรรดาผู้นำชาติประชาคมแคริบเบียน (CARICOM) ได้บรรลุฉันทมติสั่งแบนอาวุธปืนจู่โจม เพื่อลดปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืนและปัญหาการลักลอบนำเข้ามาภายในภูมิภาคแคริบเบียน พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสกัดกั้นอาวุธปืนที่ไหลบ่าจากสหรัฐฯ เข้ามายังภูมิภาคนี้   ตามการแถลงของนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนเมื่อวันอังคาร (16 พ.ค.) ผู้นำจากชาติเหล่านี้ได้กล่าวระหว่างการประชุม CANSEC ว่า การเข้าถึงอาวุธทางทหารประสิทธิภาพสูงมีส่วนทำให้แก๊งมิจฉาชีพในภูมิภาคเหิมเกริม   นายหวัง ระบุว่า อาวุธซึ่งลักลอบขนมาจากสหรัฐฯ เป็นหลักคือเครื่องบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า ปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืนนอกจากเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นชาติที่มีพลเมืองครอบครองอาวุธปืนมากที่สุดแล้ว สหรัฐฯ ยังแพร่โรคติดต่อนี้ไปทำให้ความปลอดภัยในสังคมของชาติเพื่อนบ้านเสื่อมโทรมอีกด้วย     นายหวัง ยังอ้างอิงข้อมูลขององค์การตำรวจสากล (Interpol) ซึ่งระบุว่า เหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในแถบแคริบเบียนกว่าร้อยละ 70 เป็นการใช้อาวุธปืน และเมื่อดูจากสถิติของสำนักงานเหล้าบุหรี่อาวุธปืนและระเบิด (ATF) ของสหรัฐฯ จะพบว่า ราวร้อยละ 80 ของอาวุธปืนในการก่อคดีอาญาในแถบแคริบเบียนล้วนมาจากสหรัฐฯ นอกจากนั้น…