สื่อแฉ! รัสเซีย ‘ยึดหนังสือเดินทาง’ จนท.ระดับสูง-ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หวั่น ‘แปรพักตร์’ หนีไปต่างประเทศ

Loading

    หน่วยงานความมั่นคงรัสเซียยึดหนังสือเดินทางของเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้คิด “แปรพักตร์” และหลบหนีไปต่างประเทศ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส   รายงานระบุว่า ทำเนียบเครมลินและหน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย (FSB) มีความกังวลว่าเจ้าหน้าที่บางคนอาจคิดหลบหนี เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ทำสงครามรุกรานยูเครน หรือไม่ก็กลัวจะติดร่างแหคว่ำบาตรจนไม่สามารถใช้ชีวิตสุขสบายได้เหมือนเดิม   ไฟแนนเชียลไทม์สอ้างแหล่งข่าวซึ่งเปิดเผยว่า หน่วยความมั่นคงรัสเซียขอให้พวกเจ้าหน้าที่ระดับ “อีลีต” เหล่านี้ส่งมอบหนังสือเดินทาง ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติในยุคสหภาพโซเวียตที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่   สื่อเจ้านี้ไม่ได้ระบุว่าผู้ที่ให้ข้อมูลเป็นใคร แต่ยืนยันว่าเป็น “คนวงใน” ที่ล่วงรู้สถานการณ์ในรัสเซีย และมีมากกว่า 1 คน   แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกจากกรุงมอสโกในระยะทางเกิน 2 ชั่วโมงรถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต   ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีปูติน ยืนยันกับไฟแนนเชียลไทม์สว่า รัฐบาลเครมลินเข้มงวดเรื่องการเดินทางของเจ้าหน้าที่และผู้บริหารระดับสูงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพวกที่ปฏิบัติงานอยู่ในภาคส่วนที่เปราะบาง (sentitive areas)   ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมอังกฤษได้เผยแพร่ข่าวกรองในเดือน มี.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียบางคนถูกขอให้ส่งมอบหนังสือเดินทางแก่หน่วยงานความมั่นคงกลาง ซึ่งน่าจะมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการหลบหนี   อดีตเจ้าหน้าที่ และผู้บริหารของแดนหมีขาวให้ข้อมูลกับไฟแนนเชียลไทม์สว่า…

ฟินแลนด์เป็นสมาชิกนาโตลำดับที่ 31 รัสเซียจับตา “การคุกคามด้านความมั่นคง”

Loading

    นาโตรับฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการ ในลำดับที่ 31 ขณะที่รัสเซียกล่าวว่า จะยกระดับการเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวด้านความมั่นคง ตลอดแนวพรมแดนที่ติดกัน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ว่า นายเปกกา ฮาวิสโต รมว.การต่างประเทศฟินแลนด์ ยื่นหนังสือการภาคยานุวัติ ต่อนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ โดยมี นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เป็นสักขีพยาน ที่สำนักงานใหญ่ของนาโต ในกรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา   ขั้นตอนดังกล่าวเป็นขั้นตอนสุดท้ายอย่างเป็นทางการ ก่อนการเข้าเป็นสมาชิกใหม่นาโตของฟินแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกลำดับที่ 31 ต่อจากนอร์ทมาซิโดเนีย หรือมาซิโดเนียเหนือ เมื่อปี 2563 โดยการที่สมาชิกใหม่ของนาโตต้องยื่นหนังสือภาคยานุวัติต่อสหรัฐ หมายถึงการยืนยันและยอมรับการผูกพันตามสนธิสัญญา หลังได้มีการจัดการตามกระบวนการภายในตามกฎหมายของประเทศตัวเองแล้ว เนื่องจากรัฐบาลวอชิงตันทำหน้าที่เก็บเอกสารเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด ตามกรอบของสนธิสัญญา     ขณะที่ สำนักงานใหญ่ของนาโตทำพิธีเชิญธงชาติของฟินแลนด์ขึ้นสู่ยอดเสา เมื่อพิธีการมอบหนังสือเสร็จสิ้น ด้านประธานาธิบดีเซาลี นินิสโต ผู้นำฟินแลนด์ กล่าวว่า การเข้าเป็นสมาชิกนาโต…

สหรัฐฯ แถลง ปฏิบัติการทางทหาร สังหารแกนนำระดับสูงของกลุ่ม ISIS ในซีเรีย

Loading

    ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างพล.อ.เอริค คูริลลา ผู้นำกองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ (CENTCOM) โพสต์แถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ ว่า ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในซีเรียเมื่อวานนี้ สามารถสังหารนายคาลิด ไอด์ อาหมัด อัลจาบูรี แกนนำระดับสูงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งวางแผนโจมตียุโรป และรับผิดชอบเรื่องจัดโครงสร้างคณะผู้บริหารใหม่ของกลุ่มไอเอส คาดว่า การเสียชีวิตของนายอัลจาบูรี จะกระทบต่อการวางแผนโจมตีต่างแดนของกลุ่มไอเอสในระยะสั้น ไม่มีชาวบ้านเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุโจมตีในครั้งนี้   กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ระบุว่า แม้ว่ากลุ่มไอเอสจะถูกสหรัฐฯ ปราบปรามอย่างหนักจนกระทั่งเหลือนักรบไม่มากในแถบชายแดนซีเรีย-อิรัก แต่กลุ่มไอเอสยังคงเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตะวันออกกลางและทั่วโลก พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ ให้คำมั่นที่จะเดินหน้าปราบปรามกลุ่มไอเอสและปฏิบัติการทางทหารร่วมกับกองกำลังของหุ้นส่วนในอิรักและซีเรีย   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกว่าหนึ่งเดือน หลังจากกองทัพสหรัฐฯ และนักรบจากกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย ฝ่ายต่อต้านของซีเรียร่วมปฏิบัติการจู่โจมทางเฮลิคอปเตอร์ในซีเรีย สามารถสังหารนายฮัมซา อัล-ฮ็อมซี แกนนำระดับสูงอีกราย มีทหารสหรัฐฯ 4 คนและสุนัขตำรวจ 1 ตัวได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ขณะบุกจู่โจมและประชิดตัวนายอัล-ฮ็อมซี ทำให้นายอัล-ฮ็อมซี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ               —————————————————————————————————————————————— ที่มา…

ดีอีเอส รู้ตัว 9near แล้ว! รับหลายหน่วยงานรัฐยังมีช่องโหว่จริง

Loading

    ชัยวุฒิ เผยรู้ตัวผู้ใช้งานบัญชี 9near แล้ว พบเป็นคนในประเทศและทำเป็นขบวนการหวังดิสเครดิตรัฐ ยอมรับระบบเทคโนโลยีของภาครัฐยังมีช่องโหว่ อาจส่งผลให้ข้อมูลประชาชนรั่วไหลได้   ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เผยความคืบหน้ากรณี ผู้ใช้ชื่อบัญชี “9near” อ้างว่ามีข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายชื่อ   ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลมาพอสมควรและได้ล็อกเป้าคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลหลุดออกมาจากหน่วยงานไหน ต้องรอจับคนร้ายให้ได้ก่อนแล้วจึงขยายผล เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการดิสเครดิต ต้องการให้รู้ว่าระบบมีปัญหา ไม่ได้เป็นการเรียกค่าไถ่ หรือหาเงินจากเรื่องนี้   คิดว่าการโจมตีครั้งนี้ มีการทำเป็นขบวนการไม่สามารถทำคนเดียวได้ ยืนยันหากจับคนร้ายได้แล้วข้อมูลไม่รั่วไหลแน่นอน   โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเร่งหาข้อเท็จจริง รวมทั้งดูแลผู้เสียหายจากเคส 9near ด้วย   อย่างไรก็ตาม นายชัยวุฒิ มองว่า มีหลายหน่วยงานที่มีโอกาสทำข้อมูลรั่วไหล โดยเฉพาะระบบที่ประชาชนต้องลงทะเบียน รวมถึงการแจ้งผลการลงทะเบียนของประชาชน ที่จำเป็นต้องมีการระบุ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์บนแพลตฟอร์มที่เป็นสาธารณะ   ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ระบุให้หน่วยงานที่รู้ตัวว่าทำข้อมูลหลุดต้องแจ้งต่อ…

สื่อผู้ดีอ้างจีนตั้งฐานเรดาร์ทหารกลางป่าทึบศรีลังกา สอดแนมสหรัฐฯ-อังกฤษ-อินเดีย

Loading

    เอเจนซีส์ – โปรเจกต์สถานีรับสัญญาณดาวเทียมกลางป่าทึบของสถาบันวิจัยข้อมูลอวกาศ AIR (Aerospace Information Research Institute) ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน CAS ที่กำลังจะเกิดขึ้นกลางป่าทึบที่อ่าวดอนดรา (Dondra Bay) มีเป้าหมายเพื่อสอดแนมความเคลื่อนไหวเรือรบชาติตะวันตกและอินเดียในมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงฐานที่ตั้งทางทหารอเมริกัน-อังกฤษในดินแดนอาณานิคมอังกฤษ ดิเอโก การ์เซีย (Diego Garcia) กลางมหาสมุทรอินเดียและของอินเดียอย่างไม่ต้องสงสัย   เดลีเอ็กซเพรสของอังกฤษรายงานวันนี้ (3 เม.ย.) ว่า โปรเจกต์สถานีรับสัญญาณดาวเทียมจีนนี้ถูกเปิดเผยโดยแหล่งข่าวกรองศรีลังกา และโปรเจกต์ฐานเรดาร์ลับของทางการทหารของจีนกลางป่าทึบที่อ่าวดอนดรา (Dondra Bay) ในรูฮูนา (Ruhuna) ตั้งอยู่ทางปลายสุดศรีลังกา ที่ถูกผู้เชี่ยวชาญประณามได้กลายเป็นข้อพิสูจน์อย่างแน่นหนาว่า ปักกิ่งใช้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อทำให้ศรีลังกาตกอยู่ในบ่วงหนี้โปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานพันล้านอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของปักกิ่ง   สถานีรับสัญญาณดาวเทียมเป็นของสถาบันวิจัยข้อมูลอวกาศ AIR (Aerospace Information Research Institute) ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน CAS สื่ออังกฤษชี้ว่า ปักกิ่งสามารถใช้ฐานเรดาร์ลับใหม่นี้ที่มีที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญในทางปลายแหลมของศรีลังกาเพื่อการเพิ่มศักยภาพในการสอดแนมปฏิบัติการข่าวกรองของตัวเองต่อการเคลื่อนไหวเรือรบโลกตะวันตกในมหาสมุทรอินเดีย   และที่ร้ายแรงกว่านั้นมันจะเป็นการเปิดโอกาสให้จีนสามารถสอดแนมที่ตั้งทางการทหารสหรัฐฯ และอังกฤษตั้งอยู่ในดินแดนอาณานิคมอังกฤษกลางมหาสมุทรอินเดีย ดิเอโก การ์เซีย (Diego Garcia) และอินเดีย…

ทูตรัสเซียในเบลารุสเผย จะติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ใกล้พรมแดนนาโต

Loading

    ทูตรัสเซียประจำเบลารุสออกมาบอกว่า รัสเซียจะวางอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุสไว้ใกล้กับพรมแดนที่ติดกับประเทศนาโต   หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเขตแดนของพันธมิตรอย่างเบลารุส จนทำให้มีความเสี่ยงว่าจะเกิดสงครามนิวเคลียร์มีมากกว่าที่เคย   ล่าสุดเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) บอริส กริซลอฟ ทูตรัสเซียประจำเบลารุสออกมาบอกว่า รัสเซียจะวางอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุสไว้ “ใกล้กับพรมแดนที่ติดกับประเทศนาโต (NATO)” โดยจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังชายแดนตะวันตกของเบลารุส เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อ “รับประกันความปลอดภัย”     พรมแดนด้านตะวันตกของเบลารุสนั้นติดกับโปแลนด์ ส่วนทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับลัตเวียและลิทัวเนีย ซึ่งทั้งสามประเทศนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรนาโตทั้งสิ้น   นาโตคือกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่เดิมจัดตั้งขึ้นเพื่อขัดขวางการขยายตัวของสหภาพโซเวียตในยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง   “สิ่งนี้จะเกิดได้แม้จะมีเสียงจากยุโรปและสหรัฐฯ ก็ตาม” กริซลอฟกล่าว และเน้นย้ำแผนเดิมของประธานิบดีปูตินว่า โรงเก็บอาวุธนิวเคลียร์จะสร้างเสร็จภายในวันที่ 1 ก.ค. โดยไม่ระบุแน่ชัดว่าอาวุธจะถูกนำไปประจำการที่ใด   นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว กลุ่มนาโตได้เพิ่มจำนวนทหารที่ประจำการในลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์เกือบ 10 เท่าแล้ว   ด้าน อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส หนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของปูติน กล่าวเมื่อวันศุกร์…