ไต้หวันเปิดตัว “โดรนโจมตี” รุ่นใหม่ ถอดบทเรียนสงครามยูเครน

Loading

    ไต้หวันเปิดตัวโดรนโจมตี แบบติดระเบิดพลีชีพรุ่นแรกของพวกเขา เพื่อสร้างกำลังป้องกันตนเอง ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีน   เมื่อวันอังคารที่ 14 มี.ค. 2566 สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จง-ซาน (NCSIST) เปิดตัวโดรนติดระเบิดพลีชีพ (loitering munition drone) รุ่นแรก ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโดรน ‘Switchblade 300’ ของสหรัฐฯ ที่ยูเครนกำลังใช้ต่อต้านการรุกรานจากรัสเซีย ในขณะที่จีนพยายามสร้างแรงกดดันทางทหารต่อไต้หวันมากขึ้นเรื่อยๆ   NCSIST ระบุว่า โดรนของพวกเขาออกแบบมาให้มีขนาดเล็กพอที่จะสามารถบรรทุกระเบิดได้ และสามารถบินอยู่บนอากาศได้ 15 นาที “ด้วยความที่มันมีน้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายสะดวก มันจึงเหมือนกับลูกระเบิดที่บินได้” นาย ฉี หลี่-ปิน หัวหน้าแผนกวิจัยระบบการบินของ NCSIST กล่าว   “มันมีประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมายที่อยู่ใกล้ชายฝั่งของเรา” นายฉีกล่าวเสริม โดยย้ำว่าระยะบินสูงสุดของโดรนรุ่นนี้อยู่ที่ 10 กม. และว่าไต้หวันกำลังพัฒนาโดรนพลีชีพรุ่นถัดไป กับโดรนรุ่นที่สามารถโจมตีในระยะทางที่ไกลขึ้น   ทั้งนี้ ไต้หวันเป็นดินแดนปกครองตนเองที่จีนอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ และจะกลับมารวมเป็นหนึ่งอีกครั้งในสักวันหนึ่ง ซึ่งผู้นำจีนเคยลั่นวาจาว่า อาจใช้กำลังหากจำเป็น ทำให้ชาวไต้หวันกว่า…

พม.จับมือ 3 หน่วยงานเพิ่มช่องทางแจ้งเหตุฉุกเฉิน

Loading

    ทำเนียบรัฐบาล 14 มี.ค.- นายกฯ ชื่นชมกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมมือภาคีเครือข่าย เพิ่มช่องทางรับแจ้งเหตุ 24 ชม. ผ่านระบบ ESS ช่วยผู้ประสบเหตุฉุกเฉินทางสังคมทั่วประเทศ ขอประชาชนอย่าแจ้งเท็จ อย่าโทรก่อกวน   ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการพัฒนาระบบการแจ้งเหตุ ช่วยเหลือ และส่งต่อเด็กเยาวชนด้อยโอกาส เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและสังคม (ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม Emergency Social Services : ESS Thailand) ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กับ 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รับฟังการนำเสนอระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม (Emergency Social Services : ESS Thailand) และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาระบบการดูแล ช่วยเหลือเด็กเยาวชนด้อยโอกาส เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและสังคม (ระบบการขอรับการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ :…

เฉลยแล้ว ! โพสต์สุ่มแทงญี่ปุ่นเป็นเฟกนิวส์ ความจริงแค่ทุบตี

Loading

    ชาวเน็ตหัวไว จับโป๊ะ สาวโพสต์เตือนภัย ‘สุ่มแทงญี่ปุ่น’ สรุปไม่ใช่ความจริง เป็นเพียงคนสติไม่ดีไล่ทุบนักท่องเที่ยว ทัวร์ลงจนต้องปิดเฟซบุ๊ก   กลายเป็นเรื่องราวชวนตื่นตระหนกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ที่นี่ เที่ยวญี่ปุ่น ได้โพสต์เตือนภัย หลังเจอเหตุการณ์ ‘สุ่มแทง’ ที่ประเทศญี่ปุ่น   ทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่โตและถูกกระจายต่อในโลกออนไลน์ไปอย่างกว้างขวาง ก่อนจะมีคนแย้งว่าเหตุการณ์มันดูแปลก ๆ เพราะมีคนไทยหลายคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น และไม่ได้ทราบข่าวที่เกิดขึ้นเลย จึงมีการสืบประเด็นนี้กันเกิดขึ้น   ก่อนพบว่าสิ่งที่หญิงสาวเจ้าของเฟซบุ๊กโพสต์คือเรื่องโกหก เพราะภาพเหตุการณ์ที่เธอนำมาลงเป็นเพียงการสุ่มทำร้ายร่างกายโดยการทุบตี ไม่ใช่การใช้อาวุธแทงกัน   ทั้งนี้ยังแย้งประเด็นที่บอกว่าตำรวจญี่ปุ่นมาช้า เพราะจากภาพกล้องวงจรปิดตำรวจใช้เวลาเพียง 5 นาที วิ่งจากป้อมมายังที่เกิดเหตุ ก่อนพุ่งไปจับคนร้ายทันที ซึ่งคนร้ายเป็นคนเร่ร่อนสติไม่ดี   ก่อนทัวร์จะลงเจ้าของเฟซบุ๊กจนต้องปิดเฟซหนี ชาวเน็ตหลายคนเข้าใจว่าอาจเห็นเหตุการณ์จริง และตกใจอยากบอกให้คนอื่นระวัง แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ไม่ควรใช้คำว่าสุ่มแทง เพราะมันร้ายแรงและส่งผลเสียกับภาพลักษณ์ของประเทศเขา           —————————————————————————————————————————————— ที่มา :         …

ธนาคารออสเตรเลียเปิดบริการโทรหาคอลเซ็นเตอร์ผ่านแอป รู้ตัวตนลูกค้าทันที

Loading

    NAB หรือ National Australia Bank ประกาศเพิ่มฟีเจอร์โทรหาคอลเซ็นเตอร์ผ่านทางแอปธนาคาร จากเดิมที่สามารถโทรผ่านหมายเลขคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น ข้อได้เปรียบสำคัญคือเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์นั้นจะรู้ตัวตนของลูกค้าทันที ไม่ต้องตรวจสอบจากรหัสผ่าน, SMS OTP, หรือคำถามยืนยันตัวตนแบบเดิม ๆ   ตอนนี้ลูกค้าของ NAB ใช้แอปอยู่ 85-90% แล้วฟีเจอร์นี้จึงเข้าถึงลูกค้าได้เป็นวงกว้างทันที ตัวเจ้าหน้าที่จะเห็นข้อมูลเดิมที่ลูกค้าเคยติดต่อไว้ ไม่ต้องเล่าเรื่องเดิมซ้ำ ขณะที่ธนาคารเองก็ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่เสียเวลามายืนยันตัวตนลูกค้า   กระบวนการติดต่อคอลเซ็นเตอร์ต้องยืนยันตัวตนเหมือนการทำธุรกรรมปกติ โดยอาจจะใช้ Face ID หรือรหัสผ่านตามปกติ ซึ่งปลอดภัยกว่าการยืนยันตัวตนแบบเดิม ๆ         ที่มา  IT News         —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                   …

ผลสอบชี้ไฟไหม้ค่ายผู้อพยพโรฮีนจา มีการวางแผนจงใจก่อวินาศกรรม

Loading

    ทางการบังกลาเทศเผยผลสอบหาสาเหตุของไฟไหม้ครั้งใหญ่ภายในค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองค็อกซ์ บาซาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ว่าน่าจะมีการวางแผน และจงใจก่อวินาศกรรม   บังกลาเทศเผยผลการสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ค่ายผู้ลี้ภัยค็อกซ์ บาซาร์ ค่ายผู้ลี้ภัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในบังกลาเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าน่าจะมีการวางแผนและจงใจก่อวินาศกรรม โดยเพลิงไหม้รุนแรงเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาได้เผาเพิงพักของผู้ลี้ภัยวอดกว่า 2,800 หลัง ทำให้ผู้อพยพชาวโรฮีนจากว่า 15,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย เคราะห์ดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้     เจ้าหน้าที่ภาครัฐของบังกลาเทศระบุว่าไฟไหม้ครั้งนี้น่าจะเป็นการจงใจวางแผนที่จะลอบวางเพลิงโดยกลุ่มติดอาวุธ เห็นได้จากการเกิดไฟไหม้ในหลายๆ จุดพร้อมกัน จากการสอบถามพยานราว 150 ปาก โดยขณะนี้ทางการกำลังเร่งสอบสวนเชิงลึกเพื่อหาว่ากลุ่มกองกำลังกลุ่มใดที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้   ทั้งนี้ค่ายผู้ลี้ภัยค็อกซ์ บาซาร์ มีผู้อพยพที่ลี้ภัยมาจากเมียนมา อาศัยอยู่มากกว่า 1 ล้านคน โดยเพิงพักส่วนใหญ่ล้วนทำมาจากไม้ไผ่ และผ้าใบพลาสติก โดยการอาศัยอยู่รวมกันแบบแออัด ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย โดยในตอนแรกเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เหตุที่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วมาจากถังแก๊สในครัวเรือนภายในเขตค่ายที่พักของชาวโรฮีนจา   ในช่วงเดือนมกราคมปี 2021 และธันวาคม 2022 มีรายงานเหตุเพลิงไหม้ในค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาถึง 22 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นการลอบวางเพลิง 60 ครั้ง โดยเหตุไฟไหม้ใหญ่เมื่อเดือนมีนาคมปี…

บริษัทญี่ปุ่นกังวลพนักงานใช้ ChatGPT ห่วงข้อมูลรั่ว เตรียมออกกฎป้องกัน

Loading

    บริษัทญี่ปุ่นนำโดย SoftBank Hitachi ได้เริ่มตั้งกฎจำกัดการใช้งานเทคโนโลยี AI ที่สามารถโต้ตอบได้อย่างเช่น ChatGPT ในการดำเนินธุรกิจ ห่วงข้อมูลรั่วไหล สั่งห้ามพนักงานป้อนข้อมูลสำคัญ   ความนิยมของ ChatGPT ความน่าทึ่งในศักยภาพของมัน และมูลค่าทางธุรกิจในอนาคต ทำให้หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกโดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีเริ่มนำ AI เข้ามาใช้ช่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการตอบข้อความ ร่างอีเมล สรุปประชุม และถามตอบข้อสงสัย อย่างไรก็ตามการใช้งานเทคโนโลยีนี้ยังคงทิ้งข้อกังวลไว้ให้ธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องข้อมูล ซึ่งล่าสุดบริษัทในญี่ปุ่นเริ่มขยับตัวออกมาตรการควบคุมป้องกัน   บริษัทญี่ปุ่นจำกัดการใช้งาน ChatGPT ห่วงข้อมูลรั่ว   เมื่อเดือนที่แล้ว SoftBank ได้เตือนพนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT และแอปพลิเคชันทางธุรกิจอื่น ๆ โดยห้ามพนักงานป้อนข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลใด ๆ ที่จะระบุถึงบริษัท และหลังจากนี้บริษัทจะสร้างกฎระเบียบขึ้นมาระบุว่าภาคส่วนใดบ้างในองค์กรที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีได้ รวมถึงระบุประเภทแอปพลิเคชันที่อนุญาตให้ใช้   ด้าน Hitachi พิจารณากำหนดกฎจริยธรรมใหม่สำหรับการใช้งาน AI แบบโต้ตอบ เช่นเดียวกับกลุ่มเทคโนโลยีของ Fujitsu ก็ได้เตือนพนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน ChatGPT และบริการ AI…