ญี่ปุ่นประจำการ “อากาศยานไร้คนขับ” ของสหรัฐ เสริมกำลังรับมือจีน

Loading

  ญี่ปุ่นและสหรัฐจะประจำการอากาศยานไร้คนขับ ที่ฐานของกองกำลังป้องกันตนเองเป็นครั้งแรก เพื่อเพิ่มแสนยานุภาพรับมือจีน อากาศยาน MQ-9 ประมาณ 7 ลำ จะเข้าประจำการที่ฐานคาโนยะของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล ในจังหวัดคาโงชิมะทางใต้ของญี่ปุ่น ด้วยความร่วมมือของญี่ปุ่นและสหรัฐฯ โดยจะมีทหารสหรัฐประมาณ 100 นาย ใช้งานและบำรุงรักษาอากาศยานเหล่านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นและสหรัฐฯ จะส่งเจ้าหน้าที่จะไปตรวจเยี่ยมฐานดังกล่าวในเดือนหน้า เพื่อตรวจดูโรงซ่อมบำรุงและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ     นี่เป็นครั้งแรกที่สหรัฐจะประจำการอากาศยานไร้คนขับในประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นการประจำการในฐานของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ไม่ใช่ฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น ข้อเสนอนี้มีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีป้องกันประเทศของสองชาติตกลงร่วมกันว่าจะเพิ่มการใช้สถานที่ร่วมกัน ฝ่ายญี่ปุ่นอ้างว่า อากาศยานไร้คนขับนี้จะช่วยยกระดับความสามารถในการติดตามความเคลื่อนไหวของกองเรือจีน ที่เคลื่อนเข้าให้น่านน้ำใกล้หมู่เกาะเซ็งกากุเพิ่มมากขึ้น หมู่เกาะเซ็งกากุ หรือที่ฝ่ายจีนเรียกว่าเกาะเตี้ยวอี๋ว์ ถูกอ้างกรรมสิทธิ์จากทั้งญี่ปุ่นและจีน แต่ปัจจุบันอยู่ภายใต้อำนาจของญี่ปุ่น เอ็มคิว-9 รีปเปอร์ หรือชื่อเดิมพรีเดเตอร์ บี เป็นอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ควบคุมโดยรีโมตคอนโทรลหรือควบคุมด้วยตนเอง พัฒนาโดย เจเนอรัลอะตอมมิกแอร์โรวนอติคอลซิสเท็ม (GA-ASI) สำหรับใช้งานในกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา โดยพัฒนามาจากเอ็มคิว-1 พรีเดเตอร์ ถือเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบแรกที่ออกแบบมาเพื่อภารกิจล่าและทำลายโดยเฉพาะ       ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ …

ทหารเรือกร่าง V2 เมาโพล่งมีระเบิดกลางสนามบิน แถมแอบอ้างเบื้องสูงอีก

Loading

  เอาอีกแล้วคลิปทหารกร่างว่อนเน็ต ล่าสุดเป็นคิวของทหารเรือ ยศพันจ่าเอก สังกัดกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ พระราชวังเดิม ไปก่อเรื่องพูดกับเจ้าหน้าที่สนามบินว่ามีระเบิด แถมยังอ้างเบื้องสูงเป็นองครักษ์ อ้างแค่ทดสอบ สุดท้ายอดบิน ลากไปโรงพัก โฆษกกองทัพเรือระบุ เจ้าตัวโดนตั้งกรรมการสอบแล้ว จ่อถูกลงโทษทางวินัย เมื่อวันที่ 27 ม.ค. มีรายงานว่า ในโลกโซเชียลฯ มีการเผยแพร่วิดีโอคลิปความยาวประมาณ 10 นาที เป็นเหตุการณ์ที่ชายรายหนึ่งกำลังโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ บริเวณจุดตรวจค้นท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา พยายามโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ หลังกล่าวคำว่า “มีระเบิด” ซึ่งเป็นคำต้องห้ามในสนามบิน ก่อนพลิกลิ้นอ้างว่า “ถ้ามีจริงแล้วบอกว่าไม่มีจะเป็นยังไง” และอ้างว่าตนหวังดี ถ้าผู้โดยสารคนอื่นพูดว่าไม่มีแล้วกลับมีจริง ต้องตรวจสอบให้ได้ว่ามันคืออะไร เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่ามีขั้นตอนการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ผู้โดยสารห้ามพูดคำว่ามีระเบิด เพราะเป็นคำต้องห้ามตามข้อบังคับอยู่แล้ว ชายคนดังกล่าวอ้างว่าเปลี่ยนกฎเลย เดี๋ยวเคลียร์กับนายกรัฐมนตรีให้ ถามว่าใครเป็นคนกำหนด เจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงว่าเป็นกฎของกรมการบินพลเรือน เจ้าหน้าที่ทำงานอยู่แล้วจะมาแกล้ง มันเป็นคำต้องห้ามอยู่แล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่าชายคนดังกล่าวพูดจาวกไปวนมา และถามว่ารู้หรือเปล่าผมคือใคร ให้เรียกหัวหน้ามาคุย เมื่อชายที่ระบุว่าเป็นหัวหน้ามาคุยแล้วก็อ้างว่าแจ้งว่าเอาวัตถุระเบิดมาต้องการทดสอบ หัวหน้าถามว่า ทดสอบใคร แล้วพูดได้หรือ พูดทำไม ถามว่ามาจากไหน ชายคนดังกล่าวตอบว่า…

ทำเนียบขาวแจ้งเตือนหน่วยงานภาครัฐ ห้ามใช้ SMS ยืนยันตัวตนเพราะไม่ปลอดภัยมากพอ

Loading

  Office of Management and Budget (OMB) หน่วยงานในทำเนียบขาว (เทียบได้กับสำนักงบประมาณของประเทศไทย แต่มีส่วนของการตรวจสอบกระบวนการภาครัฐนอกจากทำงบประมาณด้วย) ออกบันทึกเตือนเรื่องแนวทางรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐ (federal agencies) ประเด็นหลักของบันทึกนี้คือหน่วยงานภาครัฐควรใช้สถาปัตยกรรมความปลอดภัยแบบ zero trust architecture (ZTA) หรือไม่เชื่อมั่นในสิ่งใดเลย ทุกอย่างในระบบไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้หรือเครือข่ายต้องถูกยืนยันใหม่เสมอ (we must verify anything and everything) ในทางปฏิบัติแล้ว OMB ขอให้หน่วยงานภาครัฐต้องใช้บัญชีที่ถูกจัดการจากส่วนกลาง (enterprise-managed accounts) , อุปกรณ์ที่พนักงานใช้ต้องถูกมอนิเตอร์และจำกัดสิทธิ , ระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานแต่ละหน่วยต้องแยกจากหน่วยอื่น ทราฟฟิกระหว่างกันต้องถูกเข้ารหัส , แอพพลิเคชันที่ใช้ต้องถูกทดสอบอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่น่าสนใจคือ OMB ระบุว่าจำเป็นต้องยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (multi-factor authentication หรือ MFA) ถือเป็นการป้องกันขั้นพื้นฐานจาก phishing ซึ่ง OMB ชี้ชัดว่าต้องเป็นการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยอย่างการใช้ฮาร์ดแวร์ (บัตรประจำตัวพนักงานหรือคีย์ FIDO2) และเลิกใช้วิธีที่ไม่ปลอดภัย เช่น SMS…

ซานโฮเซจ่อเป็นเมืองแรกของสหรัฐ บังคับเจ้าของปืนทำประกันภัย

Loading

แฟ้มภาพ สหรัฐ (รอยเตอร์) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมืองซานโฮเซ จะกลายเป็นเมืองแรกในสหรัฐอเมริกา ที่อนุมัติผ่านกฎหมายที่กำหนดให้เจ้าของปืนต้องทำประกันภัยที่ครอบคลุมการชดเชยความเสียหายที่เกิดจากอาวุธของตน แผนดังกล่าวที่ได้รับการโหวตจากสภาเมืองซานโฮเซในวันอังคาร (25 ม.ค.) ยังกำหนดให้เจ้าของอาวุธปืนทุกคนในเมืองนี้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งจะมอบให้กลุ่มไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากความรุนแรงของอาวุธปืน นายแซม ลิคคาร์โด นายกเทศมนตรีเมืองซานโฮเซ กล่าวผ่านแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนทวิตเตอร์ว่า “คืนนี้ซานโฮเซ่กลายเป็นเมืองแรกของสหรัฐที่ประกาศใช้คำสั่งในการบังคับให้เจ้าของปืนซื้อประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก และนำเงินค่าธรรมเนียมที่เจ้าของปืนจ่ายไปสนับสนุนกองทุนที่ส่งเสริมการลดความรุนแรงของปืนและอันตรายจากปืน คำสั่งที่มีการเสนอไปแล้วนั้น ต้องผ่านการพิจารณาเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนที่จะบังคับใช้เป็นกฎหมายในเดือนสิงหาคมนี้ นอกจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวยังมีจุดประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้เสียภาษี นายลิคาร์โดกล่าวก่อนการลงคะแนนว่า “เราเห็นมาตลอดว่าประกันช่วยลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มาตลอดหลายสิบปี โดยใช้วิธีอย่าง การสร้างแรงจูงใจให้ขับขี่อย่างปลอดภัยและการซื้อรถที่มีถุงลมนิรภัยและระบบป้องกันเบรกล็อค เหมือนกันกับประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกสำหรับปืนที่มีอยู่ในปัจจุบันที่สามารถปรับเบี้ยประกันเพื่อให้เจ้าของปืนใช้ปืนที่มีระบบป้องกันภัย” ทั้งนี้อาวุธปืนสามารถหาได้ง่ายในสหรัฐ โดยจากข้อมูลของศูนย์วิจัยพิวระบุว่า 40% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอยู่ในบ้านที่มีปืน และในปี 2020 มีการขายอาวุธปืนเกือบ 23 ล้านกระบอกทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามมีประชาชนเสียชีวิตจากปืนมากถึง 40,000 คนต่อปี     ที่มา : มติชนออนไลน์     /   วันที่เผยแพร่ 23 ม.ค.65 Link :…

“ฮ่องกง” กำลังร่างกฎหมายความมั่นคงใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ “จารกรรมความลับ”

Loading

  รอยเตอร์ – รัฐมนตรีความมั่นคงฮ่องกง คริส ถัง แถลงเปิดใจต่อสภานิติบัญญัติฮ่องกงในวันพุธ (26 ม.ค.) ยืนยันกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติพิเศษที่กำลังอยู่ระหว่างการร่างนี้จะให้ความสำคัญกับการจารกรรมความลับ ชี้กฎหมายเก่าที่มีอยู่ใช้มาตั้งแต่ยุคอาณานิคมอังกฤษ ใช้ไม่ได้ผลเก่าเกินไป รอยเตอร์รายงานวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า รัฐมนตรีความมั่นคงฮ่องกง คริส ถัง (Chris Tang) ยืนยันว่ารัฐบาลฮ่องกงของ แครี หล่ำ จะเดินหน้าทำให้กฎหมายการต่อต้านการจารกรรมความลับมีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติพิเศษที่กำลังอยู่ระหว่างการร่างขึ้นในเวลานี้ พร้อมกันนี้เขายังชี้ต่อว่า กฎหมายต่อต้านการจารกรรมที่ยังคงใช้ในปัจจุบันซึ่งอยู่ในกฎหมาย “Official Secrets Ordinance” ที่ใช้มาตั้งแต่ฮ่องกงยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษนั้นไม่ตอบสนองต่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นอีกต่อไป “เราจะแสดงความสำคัญของการจารกรรมความลับในกฎหมาย” ถังซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกงกล่าว ทั้งนี้ พบว่ารัฐบาลฮ่องกงอยู่ระหว่างการร่างกฎหมายที่ครอบคลุมอาชญากรรมทางความมั่นคงต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อมาตรา 23 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญฮ่องกง กฎหมายพื้นฐาน (Basic Law) หลังการส่งมอบฮ่องกงกลับไปให้จีนเมื่อปี 1997 โดยมาตรา 23 กล่าวว่า ฮ่องกงมีหน้าที่ต้องร่างกฎหมายของตัวเองเพื่อควบคุมอาชญากรรมต่างๆ รวมไปถึงกบฏ การแบ่งแยกดินแดน การขโมยความลับของรัฐและความเคลื่อนไหวโดยกลุ่มการเมืองต่างชาติ ทั้งนี้ พบว่ารัฐบาลฮ่องกงพยายามที่จะผ่านกฎหมายเหล่านี้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2003 ส่งผลทำให้เกิดการประท้วงบนถนนครั้งใหญ่จากประชาชนฮ่องกงที่มองกฎหมายเหล่านี้ว่าเป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพพิเศษของเกาะฮ่องกง…

ยังไม่หยุด! ‘เกาหลีเหนือ’ ซัดขีปนาวุธลงทะเลอีก 2 ลูก เป็นรอบที่ 6 ในเดือนนี้

Loading

  เกาหลีเหนือยิงทดสอบสิ่งที่น่าจะเป็น “ขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้” จำนวน 2 ลูก ไปตกในทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (27 ม.ค.) ซึ่งนับเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 6 แล้วสำหรับเดือนนี้ คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ (JCS) ระบุว่า กองทัพสามารถตรวจจับการยิงขีปนาวุธทิ้งตัว 2 ลูก เมื่อเวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ใกล้ๆ กับเมืองฮัมฮุง (Hamhung) ริมชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ โดยขีปนาวุธดังกล่าวเดินทางไปได้ราวๆ 190 กิโลเมตร และมีเพดานบินสูงสุด 20 กิโลเมตร ด้านโนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์สื่อเช้านี้ (27) ว่า ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูก ดูเหมือนจะตกลงสู่ทะเลนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น ขณะที่นายกรัฐมนตรี ฟุมิโอะ คิชิดะ ออกมาย้ำเตือนว่า หากโสมแดงทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวจริงก็นับว่าเป็นเรื่อง “น่าผิดหวังอย่างยิ่ง” และยังเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย เกาหลีเหนือประกาศจะยกระดับการป้องกันตนเองจากสหรัฐฯ พร้อมขู่จะพิจารณารื้อฟื้น “กิจกรรมต่างๆ ที่ถูกระงับไว้ชั่วคราว”…