หลุดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ยื่นวีซ่าฝรั่งเศสกว่า 8,700 ราย

Loading

  กระทรวงกิจการภายในของฝรั่งเศสยอมรับว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบให้บริการวีซ่าในวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่รัฐบาลสามารถยับยั้งการโจมตีดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และมีการตั้งทีมสอบสวนขึ้นแล้ว อย่างไรก็ดี ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ยื่นวีซ่ามากกว่า 8,700 ราย ได้แก่ เลขที่หนังสืิอเดินทาง วันเกิด และที่อยู่ ได้หลุดรั่วออกไป และบางส่วนอาจถูกขโมย โดยทางกระทรวงกิจการภายในยืนยันว่าข้อมูลที่แฮกเกอร์ได้ไปไม่มีข้อมูลทางการเงินและข้อมูลละเอียดอ่อนแน่นอน เนื่องจากไม่ได้จัดเก็บไว้ในระบบ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation – GDPR) ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการโจมตีดังกล่าวจะได้รับข้อความจากทางเว็บไซต์ยื่นวีซ่าเพื่อแจ้งเตือนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแนะนำวิธีการปฏิบัติเพื่อการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล จากการรายงานของสำนักข่าว RFI ระบุว่า ในห้วงปีที่ผ่านมา ฝรั่งเศสเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ แอมานุแอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เสนอลงทุนในด้านการป้องกันภัยทางไซเบอร์เป็นเงินกว่า 1,400 ล้านยูโร (ประมาณ 45,850 ล้านบาท) ที่มา Siliconrepublic   —————————————————————————————————————————————- ที่มา : Beartai     …

มาตรการความปลอดภัยทางอากาศหลังเหตุการณ์ 911 ช่วยป้องกันการโจมตีซ้ำแต่ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัว

Loading

  หลังการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับบลิว บุชในขณะนั้นได้ลงนามในกฎหมายเพื่อตั้งหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ คือ TSA เพื่อรักษาความปลอดภัยสำหรับการเดินทางทางอากาศ และถึงแม้มาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ อย่างเข้มงวดที่นำมาใช้จะช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดการโจมตีจากผู้ก่อการร้ายซ้ำในสหรัฐฯ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาแต่เรื่องดังกล่าวก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวของผู้เดินทาง และได้เปลี่ยนทั้งโฉมหน้าแvละการทำงานของอุตสาหกรรมการบินโดยสิ้นเชิง รวมทั้งยังทำให้การเดินทางทางอากาศของผู้คนมีปัญหากดดันมากขึ้นด้วย ทั้งนี้เพราะสองเดือนหลังการโจมตีดังกล่าวประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชได้ลงนามในกฎหมายเพื่อตั้งหน่วยงานรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลกลางในสังกัดกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิชื่อ Transportation Security Administration หรือที่เรียกย่อๆ ว่า TSA เพื่อทำหน้าที่ตรวจคัดกรองผู้เดินทางแทนเจ้าหน้าที่ของภาคเอกชนซึ่งอุตสาหกรรมการบินเคยใช้อยู่ก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นกฎหมายดังกล่าวยังกำหนดให้ต้องมีการตรวจเอ็กซเรย์กระเป๋าสัมภาระทุกใบ มีการเสริมความมั่นคงที่ประตูห้องนักบิน และมีการส่งสารวัตรอากาศหรือ Air Marshal ขึ้นไปกับเครื่องบินบางลำเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยด้วย ข้อกำหนดด้านการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ผู้เดินทางทางอากาศต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นและถูกกดดันมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีกฎข้อบังคับอื่นๆ เช่นการต้องถอดรองเท้าและเข็มขัดก่อนเดินผ่านเครื่องตรวจ รวมถึงการห้ามนำของเหลวหรือเครื่องดื่มบางอย่างผ่านจุดตรวจแต่สามารถซื้อเครื่องดื่มเหล่านั้นได้หลังผ่านจุดตรวจไปแล้วซึ่งก็ทำให้หลายคนตั้งคำถามแต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เป็นต้น ดูเหมือนว่าหน่วยงาน TSA จะพยายามช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางที่สมัครใจจ่ายค่าธรรมเนียมและลงทะเบียนในโปรแกรมบางอย่าง เช่น Global Entry หรือ PreCheck ซึ่งจะช่วยให้เสียเวลาและมีขั้นตอนต่างๆ ที่จุดตรวจน้อยลง อย่างไรก็ตามมาตรการด้านความปลอดภัยทั้งหมดที่นำมาใช้นี้แม้จะเรียกว่าได้ผลเพราะไม่เคยมีการโจมตีในลักษณะเดียวกันอีกในสหรัฐฯ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่เรื่องดังกล่าวก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวของผู้เดินทางเช่นกัน…

บิ๊กโจ๊ก ตรวจโครงการ สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 สุดล้ำใช้โดรนบินตรวจการณ์

Loading

  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ตรวจโครงการ สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 สภ.เมืองสมุทรปราการ ติดกล้องวงจรปิด 180 ตัว บินโดรน สอดส่องป้องกันอาชญากรรม เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 5 กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สบ.9) เข้าตรวจโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 ของสภ.เมืองสมุทรปราการ โดยมีพล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร ทุกสถานีในจ.สมุทรปราการ กต.ตร.สมุทรปราการ ตัวแทนห้างร้านและชาวบ้านชุมชนต่าง ๆ ให้การตอนรับ โดยมีพ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวรายงาน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสภ.เมืองสมุทรปราการ ได้มีการประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจ.สมุทรปราการ เทศบาลนครสมุทรปราการ ในการติดตั้งกล้อง CCTV และซ่อมแซมกล้อง รวมทั้งหมด 180 ตัว ตามถนนหนทาง และชุมชนต่าง ๆ และติดตั้งกล่อง แจ้งเหตุฉุกเฉิน…

ผอ.รพ.สถาบันไตภูมิฯ แจ้งจับแฮกเกอร์เจาะข้อมูลคนไข้นับหมื่นราย

Loading

  เมื่อวันที่ 8 กันยายน ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ นำหลักฐานและคลิปเสียงแฮกเกอร์เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท เพื่อให้ดำเนินคดีกับแฮกเกอร์ที่ลักลอบเจาะข้อมูลคนไข้ของโรงพยาบาลกว่า 4 หมื่นรายชื่อ ทำให้โรงพยาบาลได้รับความเสียหาย ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ธีรชัยเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.​ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลพบว่าไม่สามารถเข้าระบบฐานข้อมูลคนไข้ของโรงพยาบาลได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00 น. เมื่อตรวจสอบก็พบว่าแฮกเกอร์ได้เจาะระบบนำข้อมูลคนไข้ไป เช่น ข้อมูลส่วนตัวคนไข้ ประวัติการฟอกไต และประวัติการรักษาและผลเอกซเรย์ของคนไข้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่เข้ามารับการรักษา จากนั้นแฮกเกอร์ซึ่งเป็นชายพูดภาษาอังกฤษก็โทรศัพท์มาที่โรงพยาบาลขอเจรจาต่อรองกับผู้มีอำนาจ พร้อมบอกว่าขณะนี้ยังไม่มีบุคคลภายนอกรู้เรื่องนี้ และนัดโทรมาอีกครั้งในเวลา 09.00 น.วันที่ 7 ก.ย.​ แต่สุดท้ายก็ไม่มีการติดต่อเข้ามา ทางโรงพยาบาลจึงเข้าแจ้งความ ทั้งนี้ ส่วนตัวสันนิษฐานว่าแฮกเกอร์อาศัยช่วงที่ทางโรงพยาบาลติดต่อซื้อโปรแกรมตัวใหม่จากบริษัทเอกชนมาติดตั้ง โดยมีการควบคุมคอมพิวเตอร์ระยะไกลเข้ามาติดตั้งโปรแกรม ทำให้ระบบป้องกันของโรงพยาบาลเกิดช่องโหว่ แฮกเกอร์จึงฉวยโอกาสแฮกเข้ามาพอดี แต่เชื่อว่าแฮกเกอร์ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ผลิตโปรแกรมดังกล่าว เพราะเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลและหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขหลายแห่งที่ถูกแฮกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แม้โรงพยาบาลจะได้รับผลกระทบ ทำให้แพทย์ไม่สามารถตรวจประวัติการรักษาคนไข้หรือผลเอกซเรย์ในอดีตได้ และระบบจ่ายยาต้องใช้การคีย์ข้อมูลด้วยตนเองแทน แต่เจ้าหน้าที่ไอทีกำลังเร่งกู้ข้อมูลทั้งหมด และยืนยันว่าโรงพยาบาลมีการแบ๊กอัพข้อมูลประวัติการรักษาคนไข้ไว้อยู่แล้ว และคนไข้ยังสามารถมาใช้บริการได้แต่อาจเกิดความล่าช้ากว่าปกติ ด้าน พ.ต.อ.บวรภพเปิดเผยว่า แม้ตำรวจจะยังไม่มีเบาะแสผู้ต้องสงสัย…

ปัตตานีป่วน สั่งคุมเข้ม ไฟไหม้อบต. ชี้เกิดบ่อยไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว

Loading

  เจ้าหน้าที่สั่งคุมเข้มหลังเกิดไฟไหม้อบต. เอกสารราชการเสียหายทั้งหมด ชี้เกิดบ่อยไป ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เร่งดูแล หาสาเหตุด่วน วันที่ 8 ก.ย. 2564 เจ้าหน้าที่เข้าดับเพลิงที่ไหม้ในอบต.สาครบน อ.มายอ จ.ปัตตานี พบไฟไหม้ชั้น 2 ของตัวเอาคาร ใช้เวลา 40 นาทีจึงควบคุมไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นห้องเก็บเอกสารราชการ ซึ่งถูกไฟเผาทำลายจนหมด ตัวห้องได้รับความเสียหายอย่างมาก เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นสาเหตุไว้ 3 ข้อ ข้อแรกคือไฟฟ้าลัดวงจร ข้อ 2.สร้างสถานการณ์และข้อสุดท้ายเป็นเรื่องส่วนตัวภายในสำนักงานเอง ทั้งนี้ได้มีการกำชับให้ดูแลอบต.ในจังหวัดหลายแห่งแล้ว หลังถูกเพลิงไหม้หลายครั้งแล้ว จนไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว โดยช่วงเช้าเมื่อวานนี้ก็มีรายงานคนร้ายบุกเผาสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่บ้านเกาะบาตอ หมู่ 5 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้กระสอบป่านเป็นเชื้อเพลิงเผาใต้เสาส่งสัญญาณได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป   ——————————————————————————————————————————- ที่มา : ข่าวสดออนไลน์        / วันที่เผยแพร่  8 ก.ย.2564 Link : https://www.khaosod.co.th/crime/news_6608049

โพลล์: อเมริกันชนเกือบครึ่งต้าน “การสอดเเนม” ประชาชนด้วยเหตุผลความมั่นคง

Loading

  เหลืออีกเพียงสี่วันก็จะครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ ก่อการร้าย 11 กันยายน ปี ค.ศ. 2001 ในสหรัฐฯ ซึ่งโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการด้านความมั่นคงขึ้นมาเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชน เมื่อเวลาผ่านไปมาตรการเก็บข้อมูลประชาชนทั้งในและนอกประเทศที่เคยได้รับการสนับสนุนจากคนอเมริกัน กลับได้รับเเรงต่อต้านมากขึ้น ณ ขณะนี้ สำนักข่าวเอพี (Associated Press) รายงานโดยอ้างโพลล์ที่ทำร่วมกับองค์กร NORC Center for Public Affairs Research ว่า คนอเมริกันร้อยละ 46 ไม่เห็นด้วยกับการที่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปอ่านอีเมลของบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ โดยไม่มีหมายค้น แม้ว่าจะทำไปเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามต่อสหรัฐฯก็ตาม และมีเพียงร้อยละ 27 ของผู้ตอบเเบบสอบถามที่เห็นด้วย ตามข้อมูลในโพลล์ของ AP-NORC ที่สำรวจความคิดเห็นของคนช่วงวันที่ 12-16 สิงหาคม อันที่จริงมาตรการดังกล่าวสามารถทำได้ตามกฎหมายว่าด้วยการเก็บข้อมูลข่าวกรองต่างประเทศ เมื่อมองย้อนกลับไป 10 ปีที่เเล้วผู้ที่สนับสนุนการสอดเเนมลักษณะดังกล่าวมีมากกว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยคือ ร้อยละ 47 ต่อ 30     ตัวเลขที่เห็นถือว่าเป็นไปในทางตรงข้ามกับปัจจุบัน แม้ว่าในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญเริ่มเตือนถึงความเป็นไปได้ที่กลุ่มติดอาวุธในต่างแดนจะกลับมาสั่งสมกำลังอีกครั้งหลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่งถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ผลโพลล์ครั้งนี้เเสดงให้เห็นถึงความคิดที่เปลี่ยนไป ที่คนอเมริกัน…