ข่าวบิดเบือน! ประเด็นข้อมูลนักท่องเที่ยว เคยมาไทยรั่วไหล จำนวน 106 ล้านราย ชี้ เป็นการรายงานซ้ำ

Loading

  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ชี้แจ้งประเด็น ข้อมูลส่วนตัวของนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาไทยรั่วไหล จำนวน 106 ล้านราย นั้นเป็นข่าวข่าวบิดเบือน ชี้ เป็นการรายงานซำ้ว่าเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ กับกรณี บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เผย ข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติ เคยมาไทยรั่วไหลกว่า 106 ล้านราย ย้อนหลัง 10 ปี ยังไม่ทราบที่มาของข้อมูล เผยว่าข้อมูลเหล่านี้ประกอบไปด้วยชื่อ-สกุล, วันที่ที่เดินทางมายังไทย, เพศ, เลขที่พาสปอร์ต, สถานะการเข้าพักในไทย และประเภทของวีซ่า ซึ่งแม้แต่ตัวของ Diachenko ผู้รายงานเอง ก็มีชื่ออยู่ในข้อมูลชุดนี้เช่นกัน โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 ทางเว็บไซต์ Anti-Fake News Center Thailand ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ชี้แจ้งประเด็นดังกล่าวว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวเรื่อง ข้อมูลส่วนตัวของนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาไทยรั่วไหล จำนวน 106 ล้านราย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน…

กสทช. ชี้มิจฉาชีพเปลี่ยนวิธี โทรเข้าหาแทน ส่ง SMS เตือนอย่าหลงเชื่อ

Loading

  กสทช. ชี้มิจฉาชีพเปลี่ยนวิธีการหลอกลวง โดยใช้การโทรศัพท์แทนการส่ง SMS เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เร่งดำเนินการตามกฎหมายเอาผิดกับมิจฉาชีพ วันที่ 24 กันยายน 2564 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า หลังจากที่สำนักงาน กสทช. ร่วมกับโอเปอเรเตอร์ทุกราย ได้แก่ AIS TRUE DTAC NT และ 3BB ร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา SMS หลอกลวง โดยตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่ง กสทช. ได้ให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายทำการบล็อก SMS ที่มีเนื้อหาชัดเจนว่าเป็นการ หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจาร ทันที     อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์ของสำนักงาน กสทช. พบว่าปัญหาเรื่อง SMS หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจารลดลง แต่พวกมิจฉาชีพได้เปลี่ยนวิธีการจากการใช้…

Shopee ปฏิเสธกรณีมีรายงานว่าข้อมูลลูกค้ารั่วไหล

Loading

  สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้เข้าดำเนินการสืบสวนกรณีที่มีรายงานว่าข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ากว่า 15 ล้านรายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee รั่วไหล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 กันยายน) มีผู้ใช้รายหนึ่งในเว็บไซต์ raidforums.com ซึ่งเป็นแหล่งแบ่งปันและซื้อขายข้อมูล ได้ประกาศขายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า Shopee ที่มีทั้งชื่อ อีเมล ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ลงบนเว็บไซต์ฯ ดังกล่าว น.อ. อมร ชมเชย รักษาการณ์เลขาธิการ สกมช. ระบุว่าทางหน่วยอยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับทีมงานของ Shopee เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลหรือไม่ และยังระบุด้วยว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีผลใช้บังคับในเดือนมิถุนายนปีหน้า น่าจะมีประโยชน์ในการลงโทษปรับผู้ที่ปล่อยข้อมูลส่วนบุคคล ล่าสุด ทาง Shopee ได้ออกมาแถลงว่าจากการตรวจสอบพบว่าข้อมูลที่มีผู้อ้างนำมาขายนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลใด ๆ ของ Shopee พร้อมยืนยันว่าทางบริษัทให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลอย่างถึงที่สุด และเว็บ raidforums ก็ได้บล็อกผู้ใช้ที่เอาข้อมูล Shopee มาปล่อย เพราะตรวจพบว่าเป็นการย้อมแมวเอาข้อมูลปลอมมาขาย (อาจจะเป็นข้อมูลเก่าที่เคยหลุด แล้วมาขายซ้ำ) ที่มา Bangkok Post   ————————————————————————————————————————— ที่มา :…

โจรใต้เหิมอีก!ลอบปาบึ้ม3ลูกถล่มฐาน เจ้าหน้าที่ทหารพรานพลีชีพ 1 บาดเจ็บ 1

Loading

  ระทึกปัตตานี โจรใต้สุดเหิม ลอบปาระเบิด 3 ลูก ถล่มฐานเจ้าหน้าที่ ทหารพราน สังเวย 1 เจ็บ 1 เชื่อฝีมือ กลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ อ.ปะนาเระ-อ.สายบุรี ตอบโต้กลับ หลังถูกวิสามัญ เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกคืนวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปภาณ จันทร์กลับ รอง ผกก.สส.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุคนร้ายโจมตีฐานปฏิบัติการณ์ชุดคุ้มครองตำบลน้ำบ่อ ตั้งอยู่ริมถนนสายปะนาเระ-สายบุรี หมู่ 2 ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ทราบ พร้อมนำกำลังและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปที่เกิดเหตุ     เมื่อไปถึงได้ปิดกั้นพื้นที่โดยรอบของฐานดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย จากการตรวจสอบพบร่องรอยความเสียหายจากระเบิด  2 จุด โดยจุดแรกเป็นหลุมระเบิดบริเวณริมกำแพงนอกฐาน ทำให้สะเก็ดระเบิดกระจายไปถูกที่พักของเจ้าหน้าที่ ส่วนจุดที่สอง ตกลงที่พักของเจ้าหน้าที่ แรงระเบิดทำให้หลังคาแตก ข้าวของเสียหาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง…

อังกฤษเตือนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองฮ่องกง อาจถูกส่งกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

Loading

  รัฐบาลอังกฤษประกาศเตือน การเดินทางไปต่างประเทศอาจทำให้นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฮ่องกงไม่ปลอดภัย ภายหลังฮ่องกงประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ทางการอังกฤษได้ออกประกาศเตือนนักวิจารณ์เกี่ยวกับฮ่องกงในการเดินทางไปต่างแดน โดยเฉพาะนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษย์ชนชื่อดัง Bill Browder ผู้มีบทบาทในการเรียกร้องให้รัฐบาลคว่ำบาตรประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่องกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ โดยเฉพาะประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจากนายบราวเดอร์เอง โดยกล่าวว่าเขาได้รับการติดต่อจากสำนักงานต่างประเทศของอังกฤษในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ให้ตัวเขาและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีส่วนเรียกร้องการคว่ำบาตร หลีกเลี่ยงเดินทางไปยังประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง เพราะอาจตกเป็นเป้าหมายการเล่นงานของกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีน ตัวของนายบราวเดอร์ได้รับรายชื่อประเทศที่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนแก่ทางฮ่องกงจากเจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่ามีการติดต่อมาจากที่ใดบ้าง เช่นเดียวกับสำนักงานต่างประเทศของอังกฤษก็ไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนนี้เพิ่มเติม กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของจีน เริ่มประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 โดยถือว่าพฤติกรรมการแสดงออกที่ชี้นำไปในลักษณะการสมรู้ร่วมคิดบ่อนทำลาย, การแยกตัวจากประเทศ, การโค่นล้มรัฐบาล และการก่อการร้าย เป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีการบังคับใช้จับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้วกว่า 140 คน ทั้งบุคคลที่สนับสนุนประชาธิปไตย นักกิจกรรมนักศึกษา นักข่าว และนักเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชน อีกทั้งมีการตั้งข้อหานี้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเมือง รวมถึงบุคคลที่หลบหนีออกมายังต่างประเทศ กฎหมายดังกล่าวถูกร่างขึ้นโดยรัฐบาลจีน ถูกนำมาบังคับใช้อย่างกว้างขวางอีกทั้งมีการอ้างสิทธิ์ในต่างประเทศ นำไปสู่ความกังวลว่ามันจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นงานนักเคลื่อนไหว คนเห็นต่างที่ออกมาเรียกร้อง หรือเป็นศัตรูทางการเมืองของจีนที่อยู่ในต่างประเทศด้วย กฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกงมีการผูกไว้กับ 19 ประเทศ รวมถึง อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงค์โปร์, แอฟริกาใต้ และโปรตุเกสที่ยังมีข้อตกลงผูกมัดอยู่ ในขณะที่อีกหลายประเทศ ทั้งอังกฤษ, ออสเตรเลีย, เยอรมนี,…

กลาโหมลิทัวเนียเตือน ทิ้งมือถือจีน และอย่าซื้อ หลังพบระบบเซ็นเซอร์ในตัว

Loading

  กลาโหมลิทัวเนียเตือน – วันที่ 22 ก.ย. บีบีซี รายงานว่า นายมาร์กีริส อาบูเควีซีอุส รัฐมนตรีกลาโหมของลิทัวเนีย ประเทศในยุโรปตะวันออก เตือนประชาชนควรทิ้งโทรศัพท์มือถือของจีนที่ใช้อยู่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และอย่าซื้อมือถือเครื่องใหม่ที่เป็นของจีน     หลังรายงานโดยคณะนักวิจัยจากศูนย์ความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติลิทัวเนียที่ทดสอบบรรดาโทรศัพท์มือถือ 5G จากผู้ผลิตในจีน พบว่า โทรศัพท์มือถือยี่ห้อเสี่ยวมี่ (Xiaomi) Mi 10T 5G ซึ่งเป็นรุ่นเรือธง มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่สามารถตรวจจับและเซ็นเซอร์คำต่างๆ รวมถึงคำว่า “Free Tibet” (ปล่อยทิเบต) “Long live Taiwan independence” (อิสรภาพไต้หวันจงเจริญ) หรือ “democracy movement” (ขบวนการประชาธิปไตย) รายงานเน้นว่า จำนวนคำมากกว่า 449 คำ สามารถถูกระบบโทรศัพท์ของเสี่ยวมี่ รวมถึงบราวเซอร์อินเตอร์เน็ตเริ่มต้น เซ็นเซอร์ได้ ทั้งที่ โทรศัพท์รุ่นเหล่านี้ที่วางจำหน่ายในยุโรปจะปิดการทำงานความสามารถดังกล่าวออกไปแล้ว แต่รายงานแย้งว่า สามารถเปิดใช้งานจากระยะไกลได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ Mi 10T 5G…