YouTube ประกาศแนวทางสู้ข่าวปลอมปี 2022 ตรวจับให้ได้ก่อนไวรัล ขึ้นข้อความเตือนในวิดีโอที่ถูกแชร์

Loading

  Neal Mohan ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ YouTube โพสต์บล็อกอธิบายแนวทางแก้ปัญหาข่าวปลอมและข้อมูลเท็จ (misinformation) ของ YouTube เวอร์ชันปี 2022 Mohan บอกว่าเดิมที YouTube ใช้นโยบาย 4R (Remove , Raise , Reduce , Reward) ที่ในอดีตเคยเวิร์ค แต่เมื่อข่าวปลอมแพร่กระจายเร็วขึ้นกว่าเดิม บริษัทก็ต้องปรับตัวตามเพื่อตอบสนองให้เร็วขึ้น โดยแนวทางใหม่ของปี 2022 ต้องการแก้ปัญหา 3 ข้อหลักคือ – ตรวจจับข่าวปลอมให้ได้ก่อนไวรัล ในอดีตข่าวปลอมมีแค่ไม่กี่เรื่อง เช่น โลกแบน อเมริกาไม่ได้ไปดวงจันทร์ ทำให้เทรนโมเดลตรวจจับง่าย แต่ปัจจุบันข่าวปลอมเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว มีการเชื่อมโยงข้ามสาย (เช่น เสา 5G เป็นจุดปล่อยโควิด) มีเนื้อหาเฉพาะท้องถิ่นสูงขึ้น แถมข่าวปลอมใหม่ๆ มีตัวอย่างคอนเทนต์ให้ AI เทรนเป็นจำนวนน้อยลง ไม่ค่อยมีแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องของทางการมาให้อ้างอิง (เช่น ข่าวปลอมหลังเกิดภัยธรรมชาติ ที่หน่วยงานทางการยังรับมือไม่ทัน ข่าวปลอมก็ระบาดแล้ว)…

ทูตลงพื้นที่ยูเครน สำรวจความพร้อมเตรียมทำแผนอพยพคนไทย ท่ามกลางวิกฤต

Loading

  ทูตลงพื้นที่ยูเครน-วันที่ 17 ก.พ.นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงการเตรียมการสำหรับคนไทยในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียว่า จากเหตุการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครนนั้น สถานทูตไทยในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งดูแลประเทศยูเครนด้วย ได้ดำเนินการเพื่อดูแลความปลอดภัยของคนไทยในยูเครน อาทิ การลงพื้นที่สำรวจเมืองเพื่อใช้เป็นฐานในการอพยพ การตั้งกลุ่มไลน์พิเศษสำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างสถานทูต และกลุ่มคนไทยในยูเครน ซึ่งมีประมาณ 230 คน   คณะของสถานทูตหารือกับทีมร้านสปา Wai Thai (ภาพจากสถานทูตไทยในโปแลนด์) นายธานีกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตได้หารือกับฝ่ายรัฐบาลยูเครน รัฐบาลโปแลนด์และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยในการเตรียมแผนอพยพคนไทยในกรณีฉุกเฉินและยังได้ออกประกาศเตือนร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขอให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยูเครนในระยะนี้   นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (ภาพจากกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวอีกว่า เมื่อ 13 – 15 กุมภาพันธ์ 2565 นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์และทีมเจ้าหน้าที่ทูตได้เดินทางลงพื้นที่โดยรถยนต์ไปยังเมืองลวิฟ ( Lviv) ประเทศยูเครน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของยูเครน ใกล้ชายแดนโปแลนด์ เพื่อสำรวจความพร้อมในการที่จะใช้เมืองลวิฟเป็นฐานในการอพยพคนไทยกลับประเทศไทยโดยเครื่องบินหรือเดินทางเข้าโปแลนด์เพื่อเดินทางกลับไทย ซึ่งคณะของสถานทูตได้พบหารือกับผู้จัดการสนามบินนานาชาติเมืองลวิฟ และสำรวจเส้นทางจากเมืองลวิฟไปยังกรุงวอร์ซอ รวมทั้งสำรวจโรงแรมที่พัก…

สหรัฐฯ ปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ สั่งทำลายเอกสารละเอียดอ่อน เตรียมป้องกันหากรัสเซียบุกยูเครน

Loading

  สหรัฐฯ ปิดสถานทูตในกรุงเคียฟของยูเครน ย้ายนักการทูตไปเมืองลิวอฟทางตะวันตกชั่วคราว พร้อมทำลายอุปกรณ์และเอกสารที่มีความละเอียดอ่อน ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง ยืนยันมีข้อมูลชัดเจนว่ารัสเซียอาจบุกยูเครน   วันที่ 15 ก.พ.2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ กำลังดำเนินการปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และจะย้ายเจ้าหน้าการทูตที่ยังเหลืออยู่เล็กน้อยไปยังเมืองลิวอฟ ทางตะวันตกเป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการสะสมกำลังของรัสเซีย   นายบลิงเคนกล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (14 ก.พ.) ว่า “ผมออกคำสั่งนี้ด้วยเหตุผลเดียว คือ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ของเรา และขอเรียกร้องให้พลเมืองอเมริกันที่ยังคงอยู่ในยูเครนเดินทางออกจากประเทศทันที”   ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เดอะฮิลล์ได้ออกมารายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า ได้มีการสั่งการให้ทำลายเอกสารบางส่วนในสถานทูตประจำกรุงเคียฟ เพื่อเป็นการปกป้องข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน   รายงานของเดอะฮิลล์ระบุว่า นายไบรอัน แมคคีน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศได้โทรศัพท์หารือกับนายเกรกอรี มีกส์ ประธานคณะกรรมการด้านกิจการต่างประเทศของรัฐบาล เกี่ยวกับการทำลายเอกสารภายในสถานทูตประจำกรุงเคียฟ โดยเอกสารที่ถูกทำลายนั้น ได้แก่ กรีนการ์ด และหนังสือเดินทางที่ยังไม่ได้รับการดำเนินการ   นอกจากนี้ นายแมคคีนยังเปิดเผยด้วยว่า กระทรวงต่างประเทศยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัดว่ามีชาวอเมริกันอยู่ในยูเครนจำนวนเท่าใด แต่จนถึงขณะนี้มีชาวอเมริกันในยูเครนเข้ามาตอบแบบสำรวจออนไลน์แล้วราว 2,100…

เว็บไซต์กระทรวงกลาโหมยูเครนและธนาคาร 2 แห่ง ถูกโจมตีทางไซเบอร์

Loading

  หน่วยงานการสื่อสารพิเศษและปกป้องข้อมูลแห่งรัฐของยูเครน (SSSCIP) รายงานว่า เมื่อวันอังคาร (15 ก.พ.) ที่ผ่านมา มีผู้ไม่ประสงค์ดีใช้การโจมตีทางไซเบอร์จู่โจมเว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมและกองทัพของยูเครน และเว็บไซต์ธนาคารยูเครน 2 แห่ง   วิกเตอร์ โซรา รองผู้อำนวยการ SSSCIP กล่าวว่า ยังไม่มีความไม่ชัดเจนว่าใครหรือฝ่ายไหนเป็นผู้โจมตี โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว “ยังเร็วเกินไปที่จะระบุตัวคนทำและเหตุผลที่ทำ”   เหตุการณ์ดังกล่าเกิดขึ้นขณะที่ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังไม่ดับมอดไปซะทีเดียว โดยล่าสุดแม้รัสเซียประกาศว่าสั่งถอนกำลังทหารออกจากชายแดนยูเครนไปจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ทางการยูเครนยังไม่ปีกใจเชื่อ 100% ว่ารัสเซียถอนกำลังไปจริง   ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เตือนว่า การรุกรานของรัสเซียครั้งใหม่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ขณะที่รัสเซียก็ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้วางแผนที่จะบุกยูเครน   SSSCIP ระบุว่า เหตุการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้น มีลักษณะเป็นการโจมตีเพื่อทำให้ระบบเป้าหมายปฏิเสธหรือหยุดการให้บริการ (DDoS) โดยทำให้เว็บไซต์มีปริมาณการใช้ข้อมูลปลอมจำนวนมากเพื่อทำให้เว็บไซต์เข้าถึงไม่ได้ การโจมตีแบบ DDoS นั้นค่อนข้างง่ายต่อการดำเนินการ ไม่มีความซับซ้อน และเป็นการก่อกวนที่พบเห็นได้บ่อย   เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกว่า การโจมตีแบบ DDoS เป็นเรื่องยากที่จะติดตามหาแหล่งที่มาหรือตัวคนทำ เนื่องจากแฮกเกอร์สามารถปลอมแปลงตำแหน่งของตนเพื่อให้ดูเหมือนว่าอยู่ในประเทศใดก็ได้  …

ยะลา เตือนเพ่งเล็ง วัตถุระเบิดซุกซ่อนในถุงกาแฟ หลังเจอ 2 ครั้งที่บันนังสตา

Loading

  จากเหตุการณ์เมื่อ 14 ก.พ 65 ซึ่งได้มีกลุ่มคนร้าย นำวัตถุระเบิดที่ใส่มาในภาชนะลักษณะถุงกาแฟ ไปวางไว้ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้สามารถเก็บกู้ไว้ได้ และต่อมามีการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก 1 ครั้ง ในพื้นที่ อ.บันนังสตา     ล่าสุดทางหน่วยงานความมั่นคงได้เร่งแจ้งเตือน ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เวรยาม ในหน่วยงานภาครัฐ วิสาหกิจ ธนาคาร ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงหน่วยกำลังในพื้นที่ ให้หมั่นตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซึ่งคนร้ายอาจจะซุกซ่อนวัตถุระเบิดใส่มาในภาชนะลักษณะถุงกาแฟ และนำมามาวางทิ้งไว้ เพื่อก่อเหตุร้ายในพื้นที่     ที่มา : thainews    /   วันที่เผยแพร่ 16 ก.พ.65 Link : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220216115138724

เตรียมติด ‘สัญลักษณ์พิเศษ’ หน้าเบอร์มิจฉาชีพ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’

Loading

  เตรียมติด ‘สัญลักษณ์พิเศษ’ หน้าเบอร์มิจฉาชีพ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ เผย 14 รูปแบบ อาชญากรรมไซเบอร์ พร้อมเปิด ‘แจ้งความออนไลน์’ 1 มี.ค. จากการหารือร่วมกันระหว่าง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ ศูนย์ PCT ระบุว่า รูปแบบที่พบมากในปัจจุบันคือการหลอกให้ซื้อของออนไลน์ ผู้บริโภคถูกหลอกลงทุน เปิดร้านค้าออนไลน์ หลอกซื้อสินค้าที่ไม่มีจริง ส่วนที่สร้างความเสียหายอย่างมาก คือ คอลเซนเตอร์ โทรศัพท์อ้างชื่อหน่วยงานหลอกเรียกเงิน เมื่อเกิดความเสียหายก็ยากต่อการติดตามเงินคืน เปิดบริการแจ้งความออนไลน์ แต่ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเปิดบริการให้แจ้งความออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันท่วงที และเพื่อให้รวดเร็วต่อการยับยั้งความเสียหาย   พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ…