สหรัฐฯ อพยพประชาชนอีก 7,400 คนออกจากอัฟกานิสถานในวันอาทิตย์

Loading

FILE – Evacuees assemble before boarding a C-17 Globemaster III during an evacuation at Hamid Karzai International Airport, Aug. 18, 2021. (U.S. Marine Corps/Lance Cpl. Nicholas Guevara/Handout via Reuters)   สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้อพยพประชาชนอีก 7,400 คนออกจากกรุงคาบูลในวันอาทิตย์ แม้จะเกิดเหตุจลาจลที่สนามบินกรุงคาบูล หลังจากที่กลุ่มตาลิบันยึดครองอัฟกานิสถานไว้ได้ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวกับรายการ “Fox News Sunday” ว่า ได้อพยพประชาชนออกจากอัฟกานิสถานไปแล้ว 60 เที่ยวบินในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดเป็นจำนวน 25,100 คน และเมื่อรวมกับที่อพยพออกมาตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ 30,000 คน…

ออสเตรเลียพร้อมขยายเวลาอพยพจากอัฟกานิสถาน

Loading

  ออสเตรเลียพร้อมขยายเวลาอพยพออกจากอัฟกานิสถาน หากสหรัฐชะลอการถอนกำลังทหาร นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียยินดีจะให้ความช่วยเหลืออพยพประชาชนออกจากอัฟกานิสถานหลังวันที่ 31 ส.ค. หากสหรัฐตัดสินใจชะลอการถอนกำลังทหาร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดเผยว่า กองกำลังทหารสหรัฐอาจอยู่ในอัฟกานิสถานเกินเส้นตายการถอนกำลังในวันที่ 31 ส.ค. เพื่อช่วยอพยพชาวอเมริกัน นางเพย์น กล่าวว่า ออสเตรเลียได้อพยพพลเมืองของออสเตรเลียและชาวอัฟกานิสถานประมาณ 1,000 รายจากกรุงคาบูลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมเสริมว่า ออสเตรเลียยินดีที่จะส่งเครื่องบินอพยพเพิ่มเติมอีก นางเพย์น แถลงต่อสื่อมวลชนว่า “หากสหรัฐขยายเวลาออกไป เราก็พร้อมอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนการอพยพที่สนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซ” แต่ไม่ได้ระบุว่าเจ้าหน้าที่ทหารของออสเตรเลีย 250 นายที่ประจำการในอัฟกานิสถานจะยังคงอยู่หรือไม่ หากสหรัฐยืดเวลาการถอนกำลัง ทั้งนี้ ออสเตรเลียถูกกดดันให้รีบช่วยเหลือพลเมืองออสเตรเลียและชาวอัฟกานิสถานที่เคยทำงานให้ออสเตรเลีย หลังจากที่ออสเตรเลียเข้ามาเกี่ยวพันกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถานเป็นเวลาถึง 2 ทศวรรษ จนมีบุคลากรทหารของออสเตรเลียเสียชีวิตไป 41 ราย ออสเตรเลียเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังนานาชาติที่นำโดยองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต้)ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้กับกลุ่มตาลีบันและฝึกอบรมกองกำลังอัฟกานิสถาน ———————————————————— Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/956147 โดย : กรุงเทพธุรกิจ / 23 สิงหาคม 2564

เดือด!สังเวย7ศพเหตุยิงต่อสู้สนามบินคาบูล

Loading

สังเวย7ศพเหตุยิงต่อสู้ที่สนามบินคาบูล อัฟกานิสถานระหว่างกองกำลังไม่ทราบฝ่ายกับทหารตะวันตก กองทัพเยอรมนีเปิดเผยว่า เกิดเหตุยิงต่อสู้กันระหว่างกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่าย, กองกำลังรักษาความปลอดภัยของชาติตะวันตก และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอัฟกานิสถาน ที่ประตูทิศเหนือของสนามบินกรุงคาบูลในวันนี้ ขณะที่มีชาวอัฟกานิสถานและชาวต่างชาติหลายพันคนอยู่ในสนามบินเพื่อพยายามหนีจากการปกครองของกลุ่มตาลีบัน กองทัพเยอรมนีทวีตข้อความว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวอัฟกานิสถานเสียชีวิต 7 ราย และอีก 3 รายได้รับบาดเจ็บจากการยิงต่อสู้ซึ่งมีกองกำลังของสหรัฐและเยอรมนีเกี่ยวข้องด้วย โดยไม่ได้ระบุว่าชาวอัฟกานิสถานที่เสียชีวิตเป็นหนึ่งในนักรบของกลุ่มตาลีบันที่ถูกส่งมารักษาความปลอดภัยสนามบินหรือไม่ สนามบินกรุงคาบูลตกอยู่ในความวุ่นวายนับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดกรุงคาบูลในวันที่ 15 ส.ค. ขณะกองทัพสหรัฐและนานาชาติพยายามอพยพพลเมืองของตนเอง รวมถึงชาวอัฟกานิสถานที่อ่อนแอออกจากประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นักรบของกลุ่มตาลีบันไล่ให้ฝูงชนกลับไปยังสนามบิน ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 วันหลังจากที่มีชาวอัฟกานิสถาน 7 รายเสียชีวิตในเหตุเหยียบกันตาย เนื่องจากกองกำลังต่างชาติใกล้ที่จะถอนทหารออกจากประเทศ เจ้าหน้าที่ตาลีบันระบุว่า กองกำลังต่างชาติในอัฟกานิสถานยังไม่ได้ขยายเส้นตายที่จะออกจากอัฟกานิสถานที่กำหนดไว้วันที่ 31 ส.ค. หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐกล่าวว่า กองทัพสหรัฐอาจจะอยู่นานกว่าเดิมเพื่อจัดการการอพยพที่ “ยากลำบากและเจ็บปวด” กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถานได้เมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่สหรัฐและชาติพันธมิตรถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานหลังจากสงครามที่กินเวลากว่า 20 ปี ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อโค่นกลุ่มตาลีบันและกลุ่มอัล-กอดิอะห์ หลังเหตุโจมตี 9/11 ———————————————————— Link :  https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/956191 โดย : กรุงเทพธุรกิจ / 23 สิงหาคม 2564

จีนเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายปลอดภัยไซเบอร์

Loading

  สภาประชาชนแห่งชาติของจีนเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ออนไลน์ เมื่อ 20 ส.ค. ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่1พ.ย. นับเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นในการพยายามจัดการควบคุมไซเบอร์สเปซของจีน หลังจากก่อนหน้านี้ได้สั่งให้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต่างๆ จัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ให้ปลอดภัยมากขึ้น ท่ามกลางเสียงร้องเรียนของประชาชนถึงการจัดการที่ผิดพลาด และการใช้ในทางที่ผิดจนเกิดการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ กฎหมายดังกล่าวระบุว่า การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล และกำหนดเงื่อนไขที่บริษัทสามารถรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยต้องได้รับความยินยอมจากบุคคล ตลอดจนกำหนดแนวทางคุ้มครองข้อมูลเมื่อมีการถ่ายโอนข้อมูลออกนอกประเทศ และต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามกฎหมาย หลังจากทางการจีนออกกฎหมายความปลอดภัยของข้อมูลมาก่อนหน้านี้ โดยให้บังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ย. ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้สร้างแรงกดดันต่อบริษัทเทคโนโลยีจีนอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าทางการจีนเข้มงวดต่อการรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูล และบริษัทที่ฝ่าฝืนอาจถูกเพ่งเล็งและถูกตรวจสอบได้. ———————————————————— Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2172372 โดย : ไทยรัฐ/ 21 สิงหาคม 2564

ไบเดนเสนอชื่อนักการทูตอาชีพให้ประจำการที่จีน

Loading

  ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่งสัญญาณชัดมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนนโยบายของสหรัฐต่อจีน โดเสนอชื่อนักการทูตอาชีพให้ทำหน้าที่เอกอัครราชทูตคนใหม่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ว่าทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน เสนอชื่อนายนิโคลัส เบิร์นส ให้เข้ารับการพิจารณาคุณสมบัติจากวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกรุงปักกิ่งคนใหม่ แทนนายเทอร์รี แบรนสแตด ซึ่งลาออกจากตำแหน่ง เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ทั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติ เบิร์นส ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 65 ปี จะเป็นนักการทูตอาชีพคนแรกในรอบหลายทศวรรษของสหรัฐ ซึ่งดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกรุงปักกิ่ง ท่ามกลางความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน มหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 และ 2 ของโลก และกำลังมีความขัดแย้งยืดเยื้อกันในอีกหลายเรื่องด้านความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ไต้หวัน และเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน     เนื่องจากตลอดระยะเวลาประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่งมาจากการที่ประธานาธิบดีเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ทำหน้าที่นี้ โดยแบรนสแตด ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตคนล่าสุดนั้น เป็นอดีตผู้ว่าการรัฐไอโอวา สำหรับประวัติโดยสังเขปของเบิร์นสนั้น สำเร็จการศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐมานานร่วม 40 ปี…

T-Mobile ยอมรับถูกแฮกเกอร์ล้วงข้อมูลผู้ใช้งาน 40 ล้านราย

Loading

T-Mobile Network Issues   ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ T-Mobile ของสหรัฐฯ ยอมรับว่า ระบบของตนถูกแฮกไปเมื่อเร็วๆ นี้ และมีข้อมูลผู้ใช้บริการทั้งในอดีตและปัจจุบัน จำนวนกว่า 40 ล้านคนของบริษัทถูกล้วงขโมยไปเรียบร้อยแล้ว สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า T-Mobile เปิดเผยในวันพุธว่า การสอบสวนประเด็นดังกล่าวพบว่า ข้อมูลที่ถูกขโมยไปเป็นรายละเอียดส่วนตัวผู้ใช้งานต่างๆ ได้แก่ วัน/เดือน/ปีเกิด ชื่อและนามสกุล หมายเลขประกันสังคม และรายละเอียดใบขับขี่ ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ มักใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชน โดยข้อมูลที่ถูกจารกรรมไปนั้นเป็นของผู้ใช้งานปัจจุบันราว 7.8 ล้านคน แต่ทางบริษัทกล่าวย้ำว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า แฮกเกอร์ขโมยข้อมูลด้านการเงินของผู้ใช้งานตนไป รายงานข่าวระบุว่า T-Mobile ซึ่งมีผู้ใช้งานทั้งหมด 104.8 ล้านคน ตามข้อมูลล่าสุดในเดือนมิถุนายน ยอมรับว่า เกิดเหตุจารกรรมข้อมูลผู้ใช้งานเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลัง Vice สื่อดิจิทัลของสหรัฐฯ รายงานก่อนใครอื่นว่า มีผู้ออกมาประกาศในเว็บใต้ดินแห่งหนึ่งว่า ต้องการขายข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่ขโมยมาจากระบบเซิร์ฟเวอร์ของ T-Mobile Vice ยังรายงานด้วยว่า ผู้ขายรายดังกล่าวอ้างว่า ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน T-Mobile…