ศบค.มท. ย้ำผู้ว่าฯ ดึงประชาชนช่วยจนท. เฝ้าระวังชายแดน สกัดลักลอบเข้าเมือง

Loading

  ศบค.มท. เน้นย้ำผู้ว่าฯ ดึงภาคประชาชนร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่บริเวณพื้นที่ชายแดน เฝ้าระวัง ตรวจสอบผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศบค.มท. ได้แจ้งให้ผู้ว่าฯ ในฐานะผอ.รักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ กองกำลังป้องกันชายแดน ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของผู้ลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณพื้นที่ชายแดน โดยเข้มงวดตรวจตรามิให้มีผู้ลักลอบเข้าเมือง และเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายตามเส้นทางหรือช่องทางธรรมชาติ รวมทั้งลาดตระเวนบริเวณพื้นที่ต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง และเพื่อให้การควบคุมและป้องกันผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ไม่ผ่านการตรวจและคัดกรองโรคตามมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด และผู้ว่าฯ กทม.ได้เน้นย้ำให้สร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนและอาสาสมัครด้านต่างๆ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพและความพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยสนับสนุนการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารในการลาดตระเวน ตรวจตรา เฝ้าระวัง การลักลอบเข้าเมือง ผ่านช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดน 24 ชั่วโมง ด้วยการร่วมปฏิบัติงานตามความพร้อมและความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่…

หน่วยความมั่นคงไซเบอร์เยอรมนีเตือนโรงพยาบาลอาจเป็นเหยื่อแฮกเกอร์รายต่อไป

Loading

    นายอาร์น เชินโบห์ม ผู้อำนวยการสำนักงานสหพันธรัฐเพื่อความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ (BSI) ของเยอรมนีประกาศเตือนว่า โรงพยาบาลในเยอรมนีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีโดยกลุ่มแฮกเกอร์ หลังจากในเดือน พ.ค. มีการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่เกิดขึ้นมากมาย เช่น การโจมตีระบบสาธารณสุขของไอร์แลนด์และท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิงของสหรัฐ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คลินิกในเยอรมนีถูกโจมตีทางไซเบอร์อยู่บ่อยครั้ง นายเชินโบห์มเปิดเผยกับสำนักข่าวไซต์ ออนไลน์ของเยอรมนีว่า โรงพยาบาลอาจมีความเสี่ยงถูกโจมตีในระดับที่สูงกว่า นอกจากนี้ นายเชินโบห์มยังระบุว่า ธุรกิจต่างๆ ในเยอรมนีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ เนื่องจากมีการให้พนักงานทำงานจากบ้านในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด และได้กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้บริษัทต่างๆ มีความจำเป็นที่จะต้องอนุญาตให้พนักงานทำงานจากบ้านได้โดยเร็ว จึงอาจทำให้ระบบไอทีของหลายบริษัทมีจุดอ่อนให้โจมตีได้   —————————————————————————————————————————————————————— ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์     / วันที่เผยแพร่   23  พ.ค.2564 Link : https://www.infoquest.co.th/2021/89865

ส่องานเข้า คนขับรถไฟชิงกันเซ็งแวบเข้าห้องน้ำ ปล่อยรถวิ่ง 150 กม./ชม.

Loading

  คนขับรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นอาจถูกลงโทษ หลังเขาออกไปเข้าห้องน้ำนานหลายนาที ในขณะที่รถไฟวิ่งด้วยความเร็วถึง 150 กม./ชม. สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันที่ 21 พ.ค. 2564 ว่า บริษัท ‘เซ็นทรัล เจแปน เรลเวย์’ หรือ ‘เจอาร์ เซ็นทรัล’ ผู้ให้บริการรถไฟออกมาแสดงความขอโทษ หลังจากคนขับรถไฟความเร็วสูงของพวกเขา ลุกไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่รถกำลังวิ่งด้วยความเร็วถึง 150 กม./ชม. แล้วให้พนักงานซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถไฟควบคุมรถแทน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบนรถไฟชิงกันเซ็งสายฮิคาริ หมายเลข 633 เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค. ซึ่งในเวลานั้นบรรทุกผู้โดยสาร 160 คน โดย เจอาร์ เซ็นทรัล เผยว่า ขณะที่รถไฟกำลังเดินทางในจังหวัดชิซุโอกะ จู่ๆ คนขับรถไฟวัย 36 ปี ก็ปวดท้องต้องเข้าห้องน้ำโดยด่วน เขาจึงเรียกพนักงานรถไฟคนหนึ่งเข้ามาในห้อง แล้วออกไปเข้าห้องน้ำนานประมาณ 3 นาที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของรถไฟสายฮิคาริ หมายเลข 633 อย่างไรก็ตาม เจอาร์…

“แอร์อินเดีย” ถูกแฮกเกอร์เจาะระบบขโมยข้อมูลลูกค้า 4.5 ล้านรายทั่วโลก

Loading

  แอร์อินเดียซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของอินเดียเปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ได้ทำการขโมยข้อมูลลูกค้าของแอร์อินเดียราว 4.5 ล้านรายทั่วโลกในการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งล่าสุด แอร์อินเดียระบุในแถลงการณ์ที่เปิดเผยในวันศุกร์ (21 พ.ค.) ว่า ชื่อ, หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลเกี่ยวกับพาสปอร์ตของลูกค้าได้ถูกขโมยโดยกลุ่มแฮกเกอร์ แอร์อินเดียระบุว่า บริษัทกำลังดำเนินการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกโจมตี และใช้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงกำลังประสานงานกับทางบริษัทบัตรเครดิต แอร์อินเดียประกาศในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้รับแจ้งจากซิต้า (Sita) ซึ่งเป็นบริษัทประมวลผลข้อมูลของแอร์อินเดียในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเจาะนั้นเป็นข้อมูลที่มีการลงทะเบียนระหว่างเดือนส.ค. 2554 ถึงเดือนก.พ. 2564 “เราเสียใจเป็นอย่างยิ่งในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณการสนับสนุนและความไว้วางใจที่มีมาอย่างต่อเนื่องจากผู้โดยสารของเรา” แอร์อินเดียระบุ ทั้งนี้ สายการบินจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการแฮกข้อมูลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยสายการบินบริติชแอร์เวย์ของอังกฤษถูกปรับถึง 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว หลังจากที่ข้อมูลของลูกค้า 400,000 รายสูญหายไปจากการโจมตีทางไซเบอร์ในปี 2561 ส่วนคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ถูกปรับเป็นเงิน 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากข้อมูลของลูกค้า 9 ล้านคนสูญหายไปในปี 2561 ขณะที่อีซี่เจ็ตซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของอังกฤษเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วว่า กลุ่มแฮกเกอร์ได้ขโมยข้อมูลเกี่ยวกับอีเมลและรายละเอียดการเดินทางของลูกค้าราว 9 ล้านราย   ———————————————————————————————————————————————————————- ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์       …

‘จีน’ ห้ามจอด ‘เทสลา’ ในอาคารรัฐบาล หวั่นสอดแนม

Loading

  “จีน” สั่งห้าม เจ้าหน้านี้นำรถยนต์เทสลาเข้าจอดในอาคารของรัฐบาล กังวลกล้องสอดแนม รัฐบาลจีน ได้สั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ของบริษัทเทสลา เข้ามาจอดภายในบริเวณอาคารสำนักงานของรัฐบาล เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับกล้องหลายตัวที่ติดตั้งมากับรถยนต์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐบาลอย่างน้อย 2 คนในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่า ห้ามนำรถยนต์ของเทสลาจอดในอาคารสำนักงาน อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ขณะนี้มีรถยนต์ของเทสลาจำนวนกี่คันที่ถูกสั่งห้ามจอดในขณะนี้ แม้ว่าระบบเซ็นเซอร์และกล้องในรถยนต์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่รถยนต์ แต่แหล่งข่าวระบุว่า มาตรการเข้มงวดล่าสุดนี้ได้ถูกนำมาใช้เฉพาะกับรถยนต์ของเทสลาเท่านั้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรถยนต์ของเทสลามีกล้องหลายตัวติดตั้งอยู่ภายนอกตัวรถ เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในเรื่องการจอดรถ การเปลี่ยนเลน และการอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รถยนต์ของเทสลาได้ถูกสั่งห้ามเข้าไปจอดในศูนย์บัญชาการทหารบางแห่งในกรุงปักกิ่ง เนื่องจากทางการจีนกังวลเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับกล้องที่ติดมากับรถยนต์ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาได้ออกมาชี้แจงว่า หากเทสลาใช้รถยนต์เป็นเครื่องมือสอดแนมในจีนหรือในประเทศอื่นๆ โรงงานของเทสลาก็คงต้องถูกปิดกิจการไปนานแล้ว   ———————————————————————————————————————————————— ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ        / วันที่เผยแพร่ 21 พ.ค.2564 Link : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/939367

นายกฯสั่งช่วยคนไทยในอิสราเอล เตรียมแผนอพยพด่วน

Loading

  นายกฯ แสดงความเสียใจแรงงานไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในอิสราเอล สั่งสถานทูตช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน พร้อมเตรียมแผนอพยพ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ต่อการเสียชีวิตของแรงงานไทยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล คือ คุณวีรวัฒน์ การุณบริรักษ์ และคุณสิขรินทร์ สงำรัมย์ รวมถึงคนงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 8 ราย พร้อมกับได้สั่งการสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ เร่งให้ความช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน โดยการติดตามและประสานงานการขอรับสิทธิประโยชน์และเงินชดเชยสำหรับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งครอบครัว จากสถาบันประกันแห่งชาติอิสราเอล นอกจากนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้รายงานว่า ได้ประสานงานให้มีการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทยทันทีที่สถาบันนิติเวชของอิสราเอลอนุมัติ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากทั้งสองรายมีประกันสุขภาพของอิสราเอล ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดต่อและแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการส่งร่างผู้เสียชีวิตให้ครอบครัวได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง     ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูต ได้รายงานด้วยว่า ได้ประกาศเตือนคนไทยให้เพิ่มความระมัดระวัง แจ้งแนวการปฏิบัติตนเมื่อได้ยินเสียงไซเรน รวมถึงได้ประสานงานกับหัวหน้าแรงงานไทยในพื้นที่ต่างๆ เพื่อติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และยังได้เน้นย้ำขอความร่วมมือให้ฝ่ายอิสราเอลช่วยดูแลคุ้มครองแรงงานไทยทุกคนด้วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยในอิสราเอลไว้แล้ว หากมีความจำเป็นต้องอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล คณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน…