สุดพิเรนทร์! แฮกเกอร์ป่วน ‘โรงประปา’ ฟลอริดา ป้อนคำสั่งเติม ‘โซดาไฟ’ เพิ่ม 100 เท่า!!

Loading

  ทางการสหรัฐฯ เผยมีกลุ่มแฮกเกอร์โจมตีระบบจ่ายน้ำประปาของเมืองแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริดา โดยป้อนคำสั่งเพิ่มปริมาณ “โซดาไฟ” เกินกว่าปกติถึง 100 เท่า แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดปกติได้ทัน และไม่มีประชาชนได้รับอันตราย อย่างไรก็ตาม บ็อบ กูอัลทิเอรี ผู้ปกครองเทศมณฑลพิเนลลัส ชี้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของสหรัฐฯ ผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของโรงกรองน้ำเมืองโอลด์สมาร์ (Oldsmar) ตรวจพบเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่แล้ว (5) ว่า มีใครบางคนกำลังเข้าถึงซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของโรงงานจากระยะไกล โดยบุคคลปริศนาได้เลื่อนเมาส์ไปยังปุ่มฟังก์ชันต่างๆ อยู่นานหลายนาที ก่อนจะสั่งเพิ่มปริมาณ “โซเดียมไฮดรอกไซด์” หรือโซดาไฟลงในน้ำ โดยปกติแล้วสารชนิดนี้จะถูกเติมในปริมาณเพียงเล็กน้อยเพื่อควบคุมค่าความเป็นกรดและแยกโลหะออกจากน้ำ ก่อนที่น้ำจะถูกจ่ายไปยังผู้บริโภค แฮกเกอร์รายนี้ได้สั่งเพิ่มปริมาณโซเดียมไฮดรอกไซด์จากอัตราส่วน 100 ต่อ 1,000,000 เป็น 11,100 ต่อ 1,000,000 หรือเกินค่าปกติถึง 100 เท่าตัว ก่อนที่จะออกจากระบบไป “มันเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นจนเข้าข่ายอันตราย แต่โชคดีที่เราสามารถตรวจพบในทันที” กูอัลทิเอรี เผยกับสื่อมวลชน พร้อมยืนยันว่าไม่มีผู้ใช้น้ำได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงกว่าน้ำประปาที่ถูกเติมโซเดียมไฮดรอกไซด์เกินขนาดจะถูกจ่ายไปถึงผู้บริโภคในเมือง ซึ่งระหว่างนั้นระบบความปลอดภัยของโรงกรองน้ำก็จะแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ให้ทราบถึงคุณภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลงไป สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) และหน่วยซีเคร็ตเซอร์วิสได้รับการประสานให้เข้ามาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ พนักงานสอบสวนยังไม่ฟันธงว่าปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของบุคคลที่อยู่ภายในหรือนอกสหรัฐอเมริกา และเหตุใดโรงกรองน้ำโอลด์สมาร์จึงตกเป็นเป้าหมาย…

สุดแสบ! เด็กอินเดีย 11 ขวบปลอมเป็น ‘แฮกเกอร์’ ส่งอีเมลขู่ฆ่าพ่อ-ไถเงิน 41 ล้าน

Loading

  ชายชาวอินเดียเข้าแจ้งความต่อตำรวจว่าถูกกลุ่มแฮกเกอร์เจาะข้อมูลส่วนตัว และขู่จะเอาชีวิตทั้งครอบครัว แต่สุดท้ายกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อตำรวจไปพบว่าตัวการก็คือ “ลูกชาย” ของเหยื่อที่มีวัยเพียงแค่ 11 ขวบ สื่อในอินเดียได้เผยแพร่เรื่องราวของ ราจีฟ กุมาร จากเมืองคอเซียบัด (Ghaziabad) โดยเขาไปแจ้งตำรวจว่าถูกกลุ่มแฮกเกอร์ปริศนาขู่จะทำร้ายครอบครัว กุมาร เล่าว่า อีเมลส่วนตัวของเขาถูกแฮกเมื่อวันที่ 1 ม.ค. หลังจากนั้นก็ได้รับข้อความข่มขู่มาโดยตลอด โดยอาชญากรไซเบอร์ขู่ว่าจะปล่อย “ภาพลับ” ของกุมารลงอินเทอร์เน็ต และจะตามสังหารทั้งครอบครัวหากไม่ยอมจ่ายเงิน 100 ล้านรูปี หรือประมาณ 41 ล้านบาท ตอนแรกเขาก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่ต่อมาแฮกเกอร์ถึงขั้นเข้าไปเปลี่ยนพาสเวิร์ดอีเมล และเบอร์โทรศัพท์มือถือของเขา และคนในครอบครัวก็พลอยถูกคุกคามไปด้วย ซึ่งทำให้ ราจีฟ กุมาร เริ่มจะเชื่อว่าเขากำลังถูกอาชญากรสะกดรอยดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา และด้วยความกลัวเขาจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจ อย่างไรก็ตาม ตัวตนของแฮกเกอร์จอมโหดรายนี้ถูกเปิดเผย เมื่อตำรวจพบว่าอีเมลคนร้ายถูกส่งมาจาก IP Address เดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ ซึ่งก็หมายความว่าอีเมลเหล่านี้ถูกส่งโดยคนในบ้านของเขาเอง ตำรวจได้เรียกบุตรชายวัย 11 ขวบของกุมาร ไปสอบปากคำ ซึ่งเด็กชายที่เรียนอยู่ชั้น ป.5 ก็รับสารภาพว่าเป็นคนส่งอีเมลขู่พ่อ โดยเรียนรู้เทคนิคของพวกแฮกเกอร์จากคลิปใน YouTube…

จีนตั้งข้อหานักข่าวออสเตรเลีย “จัดหาข้อมูลลับ”

Loading

  รัฐบาลปักกิ่งตั้งข้อหา “จัดหาข้อมูลลับทางราชการ” กับผู้สื่อข่าวหญิงชาวออสเตรเลียเชื้อสายจีน หลังมีการยืนยันว่าควบคุมตัวเธอ “ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง” เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่านางมาริส เพย์น รมว.การต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวเมื่อวันจันทร์ ว่าเธอได้รับแจ้งจากรัฐบาลปักกิ่ง เกี่ยวกับการที่พนักงานสอบสวนในจีนตั้งข้อหา “จัดหาข้อมูลลับทางราชการ” ต่อ น.ส.เฉิง เล่ย ผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลียเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางภาคภาษาอังกฤษ ( ซีจีทีเอ็น ) ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 6 เดือน หลังรัฐบาลปักกิ่งยืนยันการควบคุมตัว น.ส.เฉิง โดยตอนนั้นยังไม่มีการดำเนินคดี เพียงแต่เปิดเผยว่าต้องการสอบสวน กรณีที่เธอ “ต้องสงสัยกระทำการซึ่งส่งผลต่อความมั่นคง” โดยรัฐบาลกลางในกรุงแคนเบอร์รา และสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียในกรุงปักกิ่ง ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีน เพื่อให้มั่นใจว่า พลเมืองของออสเตรเลียรายนี้จะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ตามหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน     อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้ว ออสเตรเลียอพยพผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลียประจำจีน “2 คนสุดท้าย” คือนายบิล เบอร์เทิลส์ สังกัดเอบีซีนิวส์…

รร.เทพาปิด 1 วัน แจ้ง 2 ข้อหา ผอ. “ชำเรา-พรากผู้เยาว์”

Loading

    โรงเรียนเทพาสั่งปิดให้นักเรียนสอบออนไลน์หลัง ผอ.ชักปืนหน้าเสาธง ขณะที่ “อังคณา” ชี้อย่าให้เรื่องอาวุธปืนมาเบี่ยงเบนประเด็นไม่รับผิดชอบกรณีละเมิดเด็ก โฆษกทัพภาค 4 ออกโรงยัน แม่ทัพไม่มีนโยบายให้พกอาวุธปืน ยกเว้นตำรวจ ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ อีกด้านตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา ผอ.เทพา กระทำชำเรา พรากผู้เยาว์ แต่ยังไม่ตั้งข้อหาเรื่องอาวุธปืน วันที่ 5 ก.พ.64 สำหรับบรรยากาศบริเวณโรงเรียนเทพา หลังจากเกิดเหตุผู้อำนวยการโรงเรียนเทพาชักอาวุธปืนหน้าเสาธงต่อหน้าเด็กนักเรียน 1,000 กว่า ราย ซึ่งเป็นวันสอบวันสุดท้าย ทางโรงเรียนได้ประกาศปิดและให้นักเรียนสอบออนไลน์แทน ในขณะครูยังคงเดินทางมาโรงเรียนเป็นปกติ ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตั้งแต่ 09.00 น. – 11.40 น. ทางคณะครูของโรงเรียนร่วมกันประชุมกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา อีกทั้งยังสั่งห้ามบุคคลภายนอกเข้าภายในโรงเรียนรวมตลอดช่วงเช้า ทางผู้บริหารหรือรักษาการผู้อำนวยการยังไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่ออ้างว่า ยังต้องปรึกษาหลายฝ่ายก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ ทางเจ้าหน้าที่โรงเรียนรายหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้ทางโรงเรียนมีรักษาการ ผอ.โรงเรียนแล้ว ทำหน้าที่ ผอ. แต่ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์สื่อ ในส่วนของเด็กนักเรียน ทางโรงเรียนปิดเรียนในวันนี้ แต่ให้นักเรียนสอบออนไลน์แทนมาสอบปกติที่โรงเรียน ส่วนครูทั้งหมดยังต้องมาโรงเรียนปกติ ด้านนักเรียนรายหนึ่ง กล่าวว่า…

(อัปเดต: แถลง ปณท. ไม่เกี่ยวกับฐานข้อมูลลูกค้า) พบฐานข้อมูลไปรษณีย์ไทย ชื่อ เบอร์โทร เลขบัตร ปชช. หลุดกว่า 4 หมื่นรายการ

Loading

อัปเดต: ไปรษณีย์ไทยออกแถลงยืนยันว่าข้อมูลที่หลุดออกไปนั้นไม่ใช่ข้อมูลของลูกค้าแต่อย่างใด และเป็นข้อมูลเก่า ซึ่งอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ลักษณะของข้อมูลจะเป็นแนวเกมเก็บคะแนน ตรงกับแถลงการณ์ของไปรษณีย์ไทยที่ออกมาเป็นระบบ Gamification เพื่อสะสมแต้มเพื่อชิงรางวัลนั่นเอง   จากการสำรวจระบบ Gamification ที่เป็นเกมเสริมทักษะที่รั่วไหลออกมานั้น จะเป็นเกมสำหรับ “เจ้าหน้าที่นำจ่าย” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน Android หรือ iOS แต่ในตอนนี้ไม่มีการใช้งานระบบดังกล่าวแล้ว อย่างที่บอกไปนั้น เกมนี้เป็นเกมสำหรับเจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์ไทย ก็สมเหตุสมผลกับรายงานก่อนหน้านี้ที่มีข้อมูลของพนักงานเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับคนที่ไม่มีข้อมูลก็สามารถลงทะเบียนใหม่ได้เช่นกัน โดยจะต้องใช้หมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักในการลงทะเบียน นั่นจึงเป็นสาเหตุให้มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยที่ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการของไปรษณีย์ไทยแต่อย่างใด เย็นวันนี้ (4 ก.พ. 2564) มีเพจเฟซบุ๊กได้โพสต์รายงานถึงช่องโหว่เกี่ยวกับการเข้าถึงฐานข้อมูลของไปรษณีย์ไทย พบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้และพนักงานหลุดออกไปกว่า 4 หมื่นรายการ โดยมีลักษณะเป็นฐานข้อมูลในบริการ Firebase Realtime Database จาก Google เมื่อลองสืบดูแล้วนั้นข้อมูลที่หลุดออกมานั้น จะเป็นข้อมูลผู้ใช้ที่ได้ทำการลงทะเบียนเพียง 209 รายการเท่านั้น ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูล ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์, หมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก, และวันเดือนปีเกิด   “”:…

กองทัพเมียนมาบล็อก’เฟซบุ๊ก’ ด้วยเหตุผล’ความมั่นคง’

Loading

  “เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านความมั่นคงภายใน” รัฐบาลทหารเมียนมาสั่งปิดกั้นการเข้าถึงเฟซบุ๊ก และบริการในเครือทั้งหมด จนถึงวันอาทิตย์นี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ว่ากระทรวงการสื่อสารของเมียนมาออกแถลงการณ์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ว่าบริการเฟซบุ๊กในประเทศจะไม่สามารถใช้งานได้ จนถึงวันที่ 7 ก.พ.นี้ “ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง” เนื่องจากตรวจสอบพบว่า “บุคคลบางกลุ่ม” กำลังบ่อนทำลายเสถียรภาพด้านความมั่นคงภายในเมียนมา ด้วยการเผยแพร่ข่าวเท็จ และข้อมูลอันบิดเบือน ขณะที่ เน็ตบล็อกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระสังเกตการณ์ด้านการใช้อินเทอร์เน็ต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เอ็มพีที ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของเมียนมา ไม่ได้เพียงปิดกั้้นการเข้าถึงเฟซบุ๊ก แต่ยังรวมถึงอินสตาแกรม เมสเซนเจอร์ เซอร์วิส และวอตต์สแอปป์ ซึ่งเป็นบริการในเครือของเฟซบุ๊กด้วย The move comes amid growing expressions of outrage over the coup by Myanmar citizens, who have turned to social media to express…