‘แอปเปิล’แจงศาลสหรัฐฯ วิตก2ลูกจ้างชาวจีน ต้องสงสัย’จิ๊กความลับบริษัท’ จะหนีกลับแดนมังกร

Loading

รอยเตอร์ – แอปเปิล อิงก์ บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของอเมริกา ให้การแก่ศาลชั้นต้นของสหรัฐฯที่เมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ว่า มีความวิตกเป็นอย่างมากว่าอดีตลูกจ้างที่เกิดในจีน 2 คน ซึ่งกำลังถูกกล่าวหาว่าขโมยความลับทางการค้าจากบริษัท อาจพยายามหลบหนีไปก่อนการไต่สวนพิจารณาคดี ถ้าหากไม่เฝ้าติดตามพวกเขาอย่างใกล้ชิด ในการให้ปากคำแก่ศาลชั้นต้นสหรัฐฯคราวนี้ พวกอัยการที่เป็นโจทก์ระบุว่า ควรที่จะเฝ้าติดตามจำเลยทั้ง 2 คือ เสี่ยวหลาง จาง กับ จีจง เฉิน อย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากในเวลานี้ทั้งคู่มีความเสี่ยงที่อาจจะหลบหนี ทางอัยการสหรัฐฯนั้นกล่าวหา จาง ซึ่งเคยทำงานอยู่ในโครงการรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองที่ยังคงเป็นโครงการลับของแอปเปิลว่า ได้นำเอาไฟล์ข้อมูลเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ไป ก่อนที่จะเปิดเผยว่าเขากำลังจะไปทำงานกับบริษัทจีนที่เป็นคู่แข่งแห่งหนึ่ง พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯได้จับกุม จาง เมื่อปีที่แล้ว ณ สนามบินซานโฮเซ ขณะที่เขากำลังจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปจีน สำหรับเฉิน ทางอัยการกล่าวหาว่าเขาได้แอบนำเอาไฟล์ของแอปเปิลไปมากกว่า 2,000 ไฟล์ โดยเป็นไฟล์ซึ่งบรรจุ “พวกคู่มือ, แผนผัง, ไดอะแกรม, และภาพถ่ายหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงหน้าต่างๆ ซึ่งเป็นความลับในฐานข้อมูลของแอปเปิล” ด้วยความตั้งใจที่จะแชร์ข้อมูลเหล่านี้กับภายนอก ทางเจ้าหน้าที่จับกุม เฉิน ในเดือนมกราคมที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่งบนเส้นทางซึ่งเขามุ่งหน้าไปท่าอากาศยานนานาชาติฟรานซิสโก เพื่อขึ้นเครื่องบินไปประเทศจีน บุคคลทั้ง…

เอฟบีไอสันนิษฐานเหตุยิงกราดที่ฐานทัพเรือฟลอริด้าเป็น “ก่อการร้าย”

Loading

The main gate at Naval Air Station Pensacola is seen on Navy Boulevard in Pensacola, Florida, March 16, 2016. สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI กำลังสืบสวนเหตุการณ์ยิงกราดที่ฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในรัฐฟลอริด้า เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ในลักษณะของการ “ก่อการร้าย” ราเชล โรจาส์ เจ้าหน้าที่พิเศษของ FBI ประจำสำนักงาน Jacksonville รัฐฟลอริด้า กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ว่า การสืบสวนครั้งนี้อยู่ภายใต้สมมตฐานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย แต่ก็เชื่อว่าผู้ก่อเหตุกระทำการเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุยิงกราดที่ฐานทัพเรือ ที่เมืองเพนซาโคลา ในรัฐฟลอริด้า คือ เรืออากาศตรีโมฮัมเหม็ด อัลชามรานี อายุ 21 ปี เป็นนักเรียนการบินจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่มาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนักบินที่ฐานทัพเรือดังกล่าว ผู้ก่อเหตุได้กราดยิงคนในตึกที่เป็นสถานที่สอนนักเรียนทหาร มีผู้เสียชีวิต 4 ราย รวมถึงตัวมือปืนซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในห้องเรียนเช่นกัน…

ปลอมตัวได้สมจริงอย่าง Mission Impossible ด้วยหน้ากากซิลิโคนที่ใครก็แยกไม่ออก

Loading

By  Sila Wongchareon นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยยอร์กในอังกฤษและมหาวิทยาลัยเกียวโตในญี่ปุ่น ได้สร้างหน้ากากซิลิโคนที่เลียนแบบทุกอย่างตั้งแต่ตีนกา กระ และผมเพื่อหลอกใคร ๆ ให้คิดว่านี่คือหน้าคนจริง ๆ ดังนั้นเมื่อคุณสวมหน้ากากใบนี้แล้วปลอมตัวเดินไปยังที่ต่าง ๆ เชื่อหรือไม่ว่าไม่มีใครสามารถจับผิดได้เลย อารมณ์เหมือนการปลอมตัวในภารกิจลับจากภาพยนตร์เรื่อง Mission: Impossible การศึกษาที่ได้ตีพิมพ์ในวารสารการวิจัยเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ: หลักการและการสืบสวน เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นักวิจัยได้นำภาพถ่ายคู่หนึ่งออกมาแสดงแก่ผู้เข้าร่วมงานจากอังกฤษและญี่ปุ่น ซึ่งภาพคนหนึ่งเป็นคนปกติและอีกคนหนึ่งได้ปลอมตัวโดยการสวมหน้ากากซิลิโคน จากนั้นนักวิจัยได้ทดลองให้ผู้เข้าร่วมงานทายดูว่าคนใดที่ใส่หน้ากากปลอมตัว แต่ปรากฏว่ามีคนทายผิด 20% จากจำนวนครั้งที่มีการเลือก การศึกษาในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานมีความได้เปรียบมากกว่าคนที่ใช้ชีวิตประจำวันบนท้องถนนทั่วไป เพราะพวกเขาได้ดูตัวอย่างของหน้ากากก่อนที่จะเริ่มการทดสอบโดยให้ทายว่าในภาพแต่ละคู่ ภาพใดคือหน้ากาก? แต่พวกเขาก็ยังทายผิด ดังนั้นนักวิจัยจึงคาดว่าเมื่อมีการนำหน้ากากใช้ปลอมตัวในโลกแห่งความเป็นจริงก็จะมีอัตราความผิดพลาดสูงขึ้น สรุปง่าย ๆ ว่าคนทั่วไปแทบจะไม่รู้ว่าเป็นหน้ากาก ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีคนสวมหน้าปลอมตัวเป็นรัฐมนตรีของฝรั่งเศสก่ออาชญากรรมมาแล้ว ต่อไปคุณจะได้เห็นกรณีการก่ออาชญากรรมแบบนี้เพิ่มมากขึ้น เพราะหน้ากากเหล่านี้ราคาแค่ชิ้นละ 39,121.68 บาท (1,000 ปอนด์) และเมื่อมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายยอดผลิตมากขึ้นราคาก็จะถูกลง แล้วคุณล่ะคิดหรือยังถ้ามีโอกาสจะปลอมตัวไปทำอะไรดี ————————————————— ที่มา : Beartai / 21 พฤศจิกายน 2562 Link : https://www.beartai.com/news/sci-news/380907

จำคุก 1 ปีหญิงออสเตรเลีย โกหก’resume’เพื่อให้ได้งานดีๆ

Loading

ซีเอ็นเอ็น – ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งให้ข้อมูลเท็จใน Resume (เอกสารสรุปข้อมูลส่วนตัว และประวัติการทำงานของผู้สมัครงานเพื่อใช้ประกอบการสมัครงาน) เพื่อให้ได้งานที่มีค่าตอบแทนระดับสูงในรัฐบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย ถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 1 ปี เวโรนิกา ฮิลดา เทริโอ ถูกพิพากษาเมื่อวันอังคาร (3 ธ.ค.) ว่ามีความผิดฐานหลอกลวง, ไม่ซื่อสัตย์และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในคดีที่เธอยื่นใบสมัครในตำแหน่งหัวหน้ากองสารสนเทศของรัฐบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเงินเดือนปีละ 270,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 5.5 ล้านบาท) ทรูโด ทำงานในตำแหน่งดังกล่าว สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย เป็นเวลากว่า 1 เดือนและรับเงินราวๆ 33,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 6.8แสนบาท) ก่อนถูกไล่ออก ทั้งนี้เธอยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหาและต้องชดใช้โทษด้วยการถูกจำคุกเป็นเวลา 25 เดือน โดยจะไม่มีสิทธิ์ได้รับทัณฑ์บนเป็นเวลา 1 ปี ระหว่างการพิจารณาคดี ศาลได้รับฟังว่าเธอยื่นเรซูเมฉบับปั่นแต่งไปยังกระทรวง โดยให้ข้อมูลปลอมๆเกี่ยวกับการศึกษาและประวัติการทำงานที่ผ่านมา และหลังจากถูกเรียกไปสัมภาษณ์แล้ว เธอยังแอบอ้างเป็นอดีตนายจ้างของตนเองระหว่างถูกตรวจสอบประวัติการทำงานจากบุคคลอ้างอิงอีกด้วย (reference check) ซึงเธอให้การรับรองผลงานของตนเองว่า “ยอดเยี่ยม” อย่างไรก็ตามการโกหกไม่จบแค่นั้น ศาลยังได้รับฟังอีกว่า เทริโอ…

สถานทูตไทยในฝรั่งเศสเตือนคนไทยติดตามข่าว-เลี่ยงที่ชุมนุม หลังประท้วง-นัดหยุดงานทั่วประเทศ

Loading

เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทุตไทยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่่อวันที่ 5 ธันวาคม 2562 นอกจากการหยุดและลดให้บริการของระบบขนส่งมวลชนแล้ว คาดว่าจะมีการเดินประท้วงของสหภาพแรงงานรวมกว่า 200 กลุ่มตามเมืองต่าง ๆ ในฝรั่งเศส (ในกรุงปารีส คือ เส้นทางระหว่างสถานี Gare du Nord – Place de la République – Place de la Nation) โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากกระจายกำลังเพื่อควบคุมสถานการณ์ฃ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีสจึงขอแนะนำให้คนไทยในฝรั่งเศสติดตามข่าวสารและหลีกเลี่ยงบริเวณที่จะมีการชุมนุม รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด หากต้องการความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อหมายเลข +33 6 46 71 96 94 และ +33 6 03 59 97 05 ก่อนหน้านี้สถานทูตได้แจ้งความคืบหน้าการหยุดให้บริการของระบบขนส่งมวลชนในฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม รายละเอียดดังนี้ 1. กรุงปารีส…

กระทรวงมาตุภูมิฯสหรัฐฯออกไอเดียให้ “พลเมืองสหรัฐฯ” ทุกคนต้องสแกนใบหน้าเข้าออกประเทศ

Loading

รอยเตอร์ – รัฐบาสหรัฐฯชุดทรัมป์ต้องการบังคับใช้ข้อกำหนดใหม่ในปีหน้า กำหนดให้ผู้เดินทางผ่านเข้าออกประเทศทุกคน รวมพลเมืองสหรัฐฯต้องถูกถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง รอยเตอร์รายงานวันนี้ (3 พ.ย) ว่า ข้อกำหนดที่ถูกเสนอออกมาเมื่อกฎกฎาคมที่ผ่านมาโดยกระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในภาพกว้างของระบบติดตามตัวนักเดินทางเข้าและออก อย่างไรก็ตามแผนที่ว่านี้ได้รับการต่อต้านออกจากกลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิส่วนบุคคล โดยเจย์ สแตนลีย์ (Jay Stanley) นักวิเคราะห์นโยบายอาวุโสให้กับสหภาพสิทธิพลเมืองสหรัฐฯ ACLU ได้ออกมาโต้แย้งแนวความคิดการให้สแกนใบหน้าพลเมืองอเมริกันในการผ่านเข้าออกประเทศผ่านแถลงการณ์ว่า “นักท่องเที่ยวรวมถึงพลเมืองสหรัฐฯไม่สมควรต้องยอมจำนนต่อการตรวจทางชีววิทยาที่เหมือนเป็นการบุกรุก เนื่องมาจากเงื่อนไขในการปกป้องสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญในการเดินทางของพวกเขา” ทั้งนี้พบว่าสาธารณะมีเวลาราว 30-60 วันในการแสดงความเห็นต่อข้อกำหนดของสหรัฐฯ และหลังจากนั้นหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯจะทำการพิจารณาทบทวนและตอบต่อความเห็นเหล่านั้น ซึ่งถือเป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลามากที่สุด นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐฯชุดทรัมป์ยังกล่าวในวาระกฎเกณฑ์ว่า ทางสหรัฐฯมีแผนที่จะออกข้อกำหนดฟาสต์แทร็กที่แยกออกมาต่างหากภายในเดือนนี้เพื่อทำให้โปรเจกต์เข้า-ออกนั้นไปไกลกว่าสถานะนำร่อง สำนักงานศุลกากรและปกป้องพรมแดนสหรัฐฯที่อยู่ภายใต้กระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงสหรัฐฯได้ออกโครงการนำร่องทำการรวบรวมภาพถ่ายและลายนิ้วมือของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างไรก็ตามในปี 2018 ฝ่ายตรวจสอบภายในได้พบปัญหาด้านปฎิบัติการและเทคนิคที่สนามบิน 9 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้สร้างความสงสัยว่าทางกระทรวงมาตุภูมิสหรัฐฯจะสามารถทำได้ทันกำหนดเส้นตายของตัวเองหรือไม่ที่จะสมารถยืนยันการเดินทางออกนอกประเทศของชาวต่างชาติทุกคนได้ทันในสนามบินขนาดใหญ่ 20 แห่งทั่วประเทศภายในปีงบประมาณปี 2021 ————————————– ที่มา : MGR Online / 3 ธันวาคม 2562 Link : https://mgronline.com/around/detail/9620000115756