พบโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่อีก 6 ชนิดในค้างคาวเมียนมา

Loading

นักวิจัยค้นพบเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่อีกหกชนิดในค้างคาวที่ประเทศเมียนมา ในขณะที่กำลังศึกษาว่าโรคร้ายนี้สามารถถ่ายทอดจากสัตว์สู่มนุษย์ได้อย่างไร นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า โคโรนาไวรัสทั้งหกชนิดที่พบในค้างคาวเมียนมานั้น ยังไม่เคยถูกค้นพบที่ไหนในโลก แต่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ที่กำลังส่งผลกระทบต่อหลายส่วนของโลกอยู่ในขณะนี้ การวิจัยดังกล่าวนำโดยนักวิทยาศาสตร์จากโครงการ Global Health ของ Smithsonian ในกรุงวอชิงตัน ผลการวิจัยนี้ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร PLOS ONE ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) กล่าวว่า โคโรนาไวรัสเป็นไวรัสสายพันธุ์ขนาดใหญ่ที่พบได้ทั่วไปในคนและสัตว์หลายชนิด และว่า เป็นเรื่องยากที่โคโรนาไวรัสในสัตว์จะถ่ายทอดไปสู่คนแล้วแพร่กระจายในหมู่มนุษย์ อย่างไรก็ตาม มีการระบาดครั้งใหญ่ของโรคที่เกิดจากโคโรนาไวรัสในมนุษย์แล้วหลายครั้ง และค้างคาวก็เป็นส่วนหนึ่งของการระบาดเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น การระบาดของโรค SARS และ MERS และยังเชื่อกันว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งเป็นสาเหตุของ COVID-19 ก็มาจากค้างคาวเช่นเดียวกัน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพประเมินว่า มีโคโรนาไวรัสซึ่งยังไม่ถูกค้นพบอีกหลายพันชนิดในค้างคาว คณะนักวิจัยของ Smithsonian ทำงานร่วมกับนักวิจัยในประเทศเมียนมา ในโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุเชื้อโรคใหม่ที่สามารถถ่ายทอดจากสัตว์ไปสู่คน โครงการที่มีชื่อว่า PREDICT นี้ ได้รับการสนับสนุนจากองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) เป้าหมายของการวิจัย คือ การศึกษาว่าการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ป่าสามารถนำไปสู่การติดเชื้อโคโรนาไวรัสในมนุษย์ได้อย่างไร โดยศูนย์กลางของการวิจัยครั้งนี้อยู่ในพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่ามนุษย์จะเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ป่าในท้องถิ่นนั้น ๆ นักวิจัยได้เก็บตัวอย่างน้ำลายและของเสียจากค้างคาวจำนวน 759 ตัวอย่าง ในพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.…

เยเมนยิ่งป่วนพันธมิตรทิ้ง รัฐบาลคุมภาคใต้เอง

Loading

“สภาเปลี่ยนผ่านภาคใต้” (เอสทีซี) กองกำลังแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ของเยเมน ซึ่งเป็นพันธมิตรของรัฐบาลประธานาธิบดีอาเบด รับโบ มานซูร์ ฮาดี ของเยเมนที่นานาชาติให้การยอมรับ ประกาศเมื่อ 25 เม.ย.ว่า เอสทีซีได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน และจะเข้าควบคุมและปกครองดินแดนภาคใต้ทั้งหมดแต่ผู้เดียว รวมทั้งเมืองท่าเอเดนและจังหวัดอื่นๆ เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน 25 เม.ย. โดยกล่าวหารัฐบาลนายฮาดีว่าคอร์รัปชันและบริหารประเทศผิดพลาด เอสทีซีซึ่งมีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) หนุนหลัง บรรลุข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลนายฮาดี ซึ่งมีซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรหนุนหลัง ที่กรุงริยาดในซาอุฯ เมื่อ พ.ย.2562 หลังเอสทีซียกทัพบุกยึดเมืองเอเดน ที่ตั้งรัฐบาลใหม่ของนายฮาดีเมื่อเดือน ส.ค.ปีเดียวกัน จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็ร่วมต่อสู้กับกบฏนิกายชีอะห์กลุ่ม “ฮูธี” ที่มีอิหร่านหนุนหลัง ซึ่งบุกยึดภาคเหนือรวมทั้งกรุงซานาเมืองหลวงได้ในปี 2557 ทำให้รัฐบาลนายฮาดีต้องหนีไปอยู่ที่เมืองเอเดน ด้าน รมว.ต่างประเทศของรัฐบาลนายฮาดีแถลงเตือนว่า การคว่ำข้อตกลงสันติภาพและตั้งรัฐบาลที่ภาคใต้เองของเอสทีซีจะนำไปสู่หายนะ ซึ่งเอสทีซีต้องรับผิดชอบ ความแตกแยกครั้งนี้ยิ่งทำให้สงครามกลางเมืองเยเมนสลับซับซ้อน ขณะที่เยเมนอาจเผชิญการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ยังพบผู้ติดเชื้อเพียง 1 ราย. ———————————————————————— ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / 27 เมษายน 2563 Link…

เผยกลุ่มอิทธิพลจีนเข้าไปตั้งบ่อนในรัฐกะเหรี่ยง ท่ามกลางสถานการณ์สันติภาพที่เปราะบาง

Loading

ที่มาภาพ: Sim Chi Yin/The New York Times (อ้างใน United States Institute of Peace) สถาบันสันติสุขแห่งสหรัฐอเมริกา (USIP) เผยแพร่รายงานเรื่องการเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนที่ฉวยโอกาสในตอนที่โลกกำลังเผชิญและให้ความสนใจกับการระบาดหนักของ COVID-19 ทุกวัน จีนก็กำลังแผ่อิทธิพลด้วยการเข้าไปทำธุรกิจจำพวกบ่อนคาสิโนใน “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ของพื้นที่ประเทศพม่า ส่งผลให้กลุ่มเครือข่ายแก๊งอาชญากรรมในจีนผูกสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่เหล่านั้น ตามตลิ่งแม่น้ำเมยที่เป็นเส้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า มีเมืองใหม่เกิดขึ้น 3 แห่งบนผืนดินที่เป็นพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้พื้นที่เหล่านี้เพิ่งจะมีการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับกองทัพแห่งชาติกะเกรี่ยง แต่ในตอนนี้พื้นที่อดีตสมรภูมิก็กลับกลับกลายเป็นเมืองที่มีโรงแรม, บ่อนคาสิโน และคอนโดมิเนียม ผุดขึ้นในฐานะ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่ไม่ได้รับอนุญาต มีเจ้าของเป็นเครือข่ายธุรกิจจีนที่ทำสัญญาหุ้นส่วนกับคนในพื้นที่รวมถึงกลุ่มติดอาวุธที่ขัดแย้งกัน มีการเซ็นสัญญาเกี่ยวกับพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษใน 3 เมืองนี้ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. ที่ผ่านมาในขณะที่โลกกำลังมัวแต่สนใจเรื่อง COVID-19 แต่อย่างเดียว ทำให้ในตอนนี้พื้นที่เขตแดนพม่า 157 ตร.กม. ตกเป็นของธุรกิจจีนที่โยงใยกับการพนัน, การฟอกเงิน, การเงินแบบเข้ารหัส และกระทั่งเครือข่ายอาชญากรรม ถึงแม้ว่าโครงการสำหรับพื้นที่เหล่านี้จะมีแผนการมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะมีการเร่งโครงการในเดือน ส.ค. 2562 ในช่วงเดียวกับที่ตำรวจจีนและกัมพูชาเริ่มกวาดล้างบริษัทที่ทำบ่อนออนไลน์,…

เฟซบุ๊กเปิดตัวประชุมแบบกลุ่ม ซูมอัปเดตความปลอดภัยครั้งใหญ่

Loading

แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก ประกาศเปิดตัวบริการ ‘เมสเซนเจอร์ รูม’ เพื่อสู้กับบริการประชุมแบบกลุ่มหลาย ๆ ตัวที่มีอยู่ในตอนนี้ ส่วน ‘ซูม’ แม้จะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ก็ต้องประกาศอัปเดตความปลอดภัยครั้งใหญ่ หลังพบปัญหาในหลายจุด วันนี้ (25 เม.ย.2563) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก ประกาศเปิดตัวบริการ ‘เมสเซนเจอร์ รูม’ เพื่อให้สำหรับการประชุมทางออนไลน์อย่างเป็นทางการ ภาพจาก Facebook Newsroom เฟซบุ๊กระบุว่าบริการดังกล่าวจะรองรับผู้เข้าประชุมได้มากสุด 50 คน ซึ่งจะสามารถแสดงผลผู้เข้าประชุมบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้ครั้งละ 16 คน ส่วนบนมือถือจะแสดงได้ครั้งละ 8 คน นอกจากนี้บริการดังกล่าวยังสามารถแชร์ลิงก์เพื่อให้คนอื่น ๆ สามารถเข้ามาประชุมได้อีกด้วย ภาพจาก Facebook Newsroom ทางเฟซบุ๊กยังระบุระหว่างการแถลงข่าวอีกด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ใช้บริการ ‘วอทซแอป’ และเมสเซนเจอร์ ราว 700 ล้านบัญชีที่ใช้บริการเพื่อโทรพูดคุยกันอีกด้วย ซึ่งนักวิจารณ์และสื่อต่างประเทศมองว่าการเปิดตัวครั้งนี้ เป็นการเปิดเพื่อสู้กับบริการประชุมแบบกลุ่มบนออนไลน์ที่ถูกพูดถึงและใช้กันมากในเวลานี้ อย่าง ‘ซูม’ ที่มี อย่างชัดเจน แม้ซูมจะกลายเป็นสตาร์ทอัปที่ดังชั่วข้ามคืน แต่ก็ใช้เวลานานเกือบ 10 ปีเพื่อมาถึงจุดนี้…

โลกเรามาถึงจุดที่ “อแดปเตอร์ชาร์จไฟ” ก็สามารถถูกแฮกได้แล้ว!

Loading

By Watcharakul Pattanaprateep Xiaomi เปิดตัว Mi 10 พร้อมกับอแดปเตอร์ utilized gallium nitride technology หรือ GaN ที่สามารถจ่ายไฟได้มากถึง 65W แต่เบื้องต้นมีรายงานว่าอแดปเตอร์ดังกล่าวไม่รองรับหลายแพลตฟอร์ม แถมยังมีช่องโหว่ที่ทำให้ถูกแฮกได้ด้วย สื่อต่างประเทศรายงานว่า Xiaomi ได้รับการเตือนจากบริษัทด้านความปลอดภัย โดยทีมรักษาความปลอดภัยแจ้งกับ Xiaomi ว่า อแดปเตอร์ชนิด GaN ของ Xiaomi นั้นใช้ใช้ชิป eFlash / MTP ในการจัดการระบบการจ่ายไฟของตัวอแดปเตอร์ และยังสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ชิป eFlash ที่ Xiaomi นำมาใช้นั้นเป็นแบบเขียนข้อมูลซ้ำลงไปได้ หรือ Rewrite แถม Xiaomi ไม่ได้เข้ารหัสเอาไว้ มันจึงเป็นข่องโหว่ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถดัดแปลงอแดปเตอร์ชาร์จได้นั่นเอง แฮกอแดปเตอร์ได้แล้วยังไง? อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า ในเมื่ออแดปเตอร์หรือที่ชาร์จไฟบ้านไม่มีข้อมูลอะไรที่สำคัญ แฮกไปแล้วจะยังไงต่อ? การแฮกเข้าชิป eFlash นั่นหมายถึงสามารถควบคุมการทำงานของอแดปเตอร์ได้ เมื่อควบคุมการทำงานได้ แฮกเกอร์อาจสั่งให้อแดปเตอร์จ่ายไฟเกินกว่าที่ระบบตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรก อันทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้งานรวมถึงอุปกรณ์ที่นำมาใช้ชาร์จด้วย…

นายกฯแดนเบียร์ อังเกลา แมร์เคิล ร่วมขบวนกระตุ้นให้จีนโปร่งใสเรื่องต้นตอโควิด-19

Loading

นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล แถลงกับสื่อเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 20 เม.ย. (ภาพ รอยเตอร์ส) สื่อในฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงาน (21 เม.ย.) นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิลออกมาร่วมขบวนเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลมากขึ้นกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ตอกย้ำถึงความไม่สบายใจของผู้นำยุโรปที่สนิทกับจีนและไปเยือนจีนบ่อยที่สุดท่านนี้เกี่ยวกับความโปร่งใสของจีนเรื่องเปิดเผยข้อมูลต้นตอโควิด-19 ขณะนี้หลายชาติกำลังกดดันจีนเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับต้นตอการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้านจีนยืนกรานไม่ยอมให้สหรัฐฯส่งผู้แทนมาเยือนห้องทดลองไวรัสในอู่ฮั่น สองบิ๊กชาติยุโรป ฝรั่งเศสและเยอรมนี เรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากขึ้นแต่ก็ไม่ได้เออออห่อหมกเห็นตามผู้นำมะกันที่ออกมาชี้ถึงความเป็นไปได้ระหว่างไวรัสฯและห้องทดลองไวรัสในอู่ฮั่น ด้านจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาฯของผู้นำสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์ แพทย์พยาบาลกำลังรักษาผู้ป่วยจากโควิด-19 ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลในกรุงเบอร์ลิน ภาพเมื่อวันที่ 20 เม.ย. (ภาพ รอยเตอร์ส) ผู้นำหญิงเหล็กเมืองเบียร์ แมร์เคิล พูดในวันจันทร์(20 เม.ย.) กล่าวความเชื่อของตนว่า “ยิ่งจีนมีความโปร่งใสเกี่ยวกับต้นตอไวรัสมากเท่าไหร่ ทุกคนในโลกก็จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับไวรัสตัวนี้กันได้ดีขึ้น” นอกจากนี้ นายกฯแมร์เคิลตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามกรณีรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาการแห่งเยอรมนี นาย เกิร์ด มูลเลอร์ (Gerd Mueller) กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “จีนต้องเปิดเผยอย่างหมดเปลือกเกี่ยวกับวิกฤตที่โลกกำลังเผชิญอยู่โดยเฉพาะต้นตอไวรัส” ส่วนข้อกล่าวหาของสหรัฐฯที่หาว่าจีนปิดบังข้อมูลต้นตอของไวรัส นาย มูลเลอร์ กล่าวว่า “จีนควรเปิดตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยแลกเปลี่ยนกับนานาชาติเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสในอู่ฮั่นอย่างรวดเร็ว”…