แอพฯ ดัดแปลงใบหน้า ‘FaceApp’ สร้างความกังวล เรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

Loading

ช่วงนี้เราน่าจะได้เห็นหลายๆ คนแชร์รูปภาพตัวเองที่ถูกดัดแปลงโดยแอพฯ ที่เรียกๆ กันว่าแอพฯ หน้าแก่ เต็มฟีดไปหมด ดูเผินๆ มันก็คงจะไม่มีอะไร เล่นขำๆ อะเนอะ แต่สื่อนอกหลายแห่ง ได้ออกมาแสดงความกังวลถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ว่าทางผู้สร้างแอพฯ จะเอาข้อมูลของเราไปทำอะไรหรือเปล่า แอพฯ นี้ชื่อว่า ‘FaceApp’ กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก ติดชาร์ตในหลายๆ สโตร์บนสมาร์ตโฟน ฟังก์ชั่นหลักๆ ก็คือการใช้ AI ดัดแปลงใบหน้าในรูปภาพของผู้ใช้งาน ให้เห็นว่าตอนแก่หรือตอนยังวัยรุ่น หน้าตาของเราจะเป็นอย่างไร การใช้งานก็ปกติเลย กดเลือกรูปที่อยากให้แอพฯ ดัดแปลง จากนั้นรูปนั้นก็จะถูกอัพขึ้นไปในระบบเพื่อตกแต่งตามที่เราต้องการ แต่ก็เกิดความกังวลขึ้นมาว่าแอพฯ นี้จะสามารถเข้าถึงรูปทั้งหมดในเครื่องเราได้หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว ไม่มีหลักฐานในเรื่องนี้แต่อย่างใด หากจะพูดถึงเรื่องการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งาน มีผู้พบรายละเอียดในหน้าข้อตกลงของทางแอพฯ ระบุไว้ว่าพวกเขาจะสามารถนำรูป ยูเซอร์เนม หรือชื่อจริงของเรา ไปใช้ทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องขอก่อน ซึ่งพอมาดูดีๆ แล้ว ก็แทบไม่ต่างจากแอพฯ อื่นๆ เท่าไหร่นัก แต่ก็ทำให้ผู้คนตระหนักถึงเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อีกประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กัน คือแอพฯ นี้ถูกพัฒนาโดยชาวรัสเซีย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนเกิดความวิตกกังวล จนคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตในสหรัฐฯ ต้องออกมาประกาศเตือนไม่ให้ผู้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 ใช้แอพฯ นี้…

สถานกงสุลฯ เตือนภัยคนไทยเดินทางไปซานฟรานฯ แอลเอ และลาสเวกัส

Loading

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ประกาศเตือนภัยคนไทยที่เดินทางไปนครซานฟรานซิสโก นครลอสแอนเจลิส และเมืองลาสเวกัส ให้ระวังภัยมิจฉาชีพที่ใช้วิธีทุบรถยนต์เพื่อขโมยของมีค่าภายในรถยนต์นั้น คำเตือนนี้มีขึ้นหลังจากที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากเดินทางมายังสถานกงสุลฯ เพื่อขอให้ออกเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งสูญหายไปจากการถูกโจรกรรมทรัพย์สิน สถานกงสุลฯ ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวไทยกว่า 40 ราย ที่ถูกทุบรถยนต์เพื่อโจรกรรมทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ 3 เมืองใหญ่ข้างต้น ซึ่งล้วนเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย สถานกงสุลฯ ยังได้มีคำแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเมืองเหล่านั้น กล่าวคือ – พยายามไม่นำของมีค่าและเงินสดติดตัวเกินความจำเป็น – อย่างวางกระเป๋าหรือสัมภาระต่างๆ ทิ้งไว้ในรถยนต์ ทำให้เป็นเป้าสายตาของมิจฉาชีพ – ควรเก็บหนังสือเดินทางติดตัวตลอดเวลา และถ่ายรูปสำเนาหนังสือเดินทางเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือในกรณีฉุกเฉิน – เมื่อประสบเหตุให้รีบแจ้งตำรวจ และติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ทันที   ที่มา : VOA News / กรกฎาคม 19, 2019 Link : https://www.voathai.com/a/thai-concular-warns-thai-touists/5006369.html

ธนาคารในเยอรมนี เตรียมเลิกใช้ OTP ผ่าน SMS เพราะไม่ปลอดภัยเพียงพอ

Loading

ธนาคารของเยอรมนีหลายราย ประกาศแผนการเลิกใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบ OTP ผ่าน SMS เนื่องจากเป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่ “ไม่ปลอดภัย” ซะแล้ว การขยับตัวของธนาคารในเยอรมนี เป็นผลมาจากกฎหมาย Payment Services Directive (PSD) ของสหภาพยุโรปที่ออกในปี 2015 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 กันยายนปีนี้ ซึ่งกฎหมายระบุว่าธนาคารต้องใช้วิธีการยืนยันตัวตนที่ผ่านมาตรฐาน strong customer authentication (SCA) ที่แข็งแกร่งเพียงพอ ตัวอย่างวิธีการยืนยันตัวตนที่ผ่านมาตรฐาน SCA คือ การใช้รหัสผ่าน, PIN, passphrase, การตอบคำถามที่อิงกับความรู้, การลากนิ้วเป็นเส้น ส่วนวิธีการยืนยันตัวตนที่ไม่ผ่านมาตรฐานคือ การใช้ user name, email address, ข้อมูลบนบัตรเครดิต/เดบิต และการใช้รหัส OTP ที่ส่งผ่าน SMS เหตุผลที่การใช้รหัส OTP ผ่าน SMS ไม่ปลอดภัย เป็นเพราะที่ผ่านมา มีการขโมย SMS ผ่านเทคนิคต่างๆ เช่น SIM Swapping หรือวิธีพื้นฐานอย่าง…

ฝรั่งเศสประกาศจัดตั้งหน่วยบัญชาการป้องกันอวกาศ

Loading

ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประกาศเตรียมจัดตั้งหน่วยบัญชาการป้องกันอวกาศภายในเดือน ก.ย.นี้ ตามรอยสหรัฐฯ จีน และรัสเซีย วานนี้ ( 13 ก.ค.) นายมาครง ใช้โอกาสในวันก่อนหน้าวันชาติฝรั่งเศส หรือ บาสตีย์ เดย์ (Bastille Day) แถลงประกาศข่าวนี้ โดยระบุว่า หน่วยบัญชาการดังกล่าว ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นภายในเดือน ก.ย. จะอยู่ใต้สังกัดกองทัพอากาศฝรั่งเศส โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยปกป้องดูแล และรักษาความปลอดภัยดาวเทียมสัญชาติฝรั่งเศสที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ท่าทีดังกล่าวของนายมาครง เป็นแผนการที่ดำเนินการตามรอยรัฐบาลสหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เพราะฝรั่งเศสเองก็ต้องการจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านอวกาศเช่นกัน โดยเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ สั่งการให้จัดตั้งกองทัพอวกาศ เป็นเหล่าทัพที่ 6 ของสหรัฐฯ ให้ได้ภายในปีหน้า ขณะที่ในปีนี้ องค์การองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต (NATO) ออกมาส่งสัญญาณว่า การแข่งขันด้านอวกาศมีบทบาทสำคัญต่อการทำสงครามยุคใหม่ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่า ภารกิจพิชิตอวกาศของมหาอำนาจแต่ละประเทศ อาจพัฒนาเป็นการรุกรานกัน มากกว่าจะเป็นไปในเชิงป้องกันตนเอง…

ระวัง เปิดซิมต่างประเทศ แล้วโดนติดคุก

Loading

ระวัง เปิดซิมต่างประเทศ แล้วโดนติดคุก เกิดขึ้นมากที่ไทเป ไต้หวัน โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานที่ไต้หวันโดนเยอะ ถูกหลอกเซ็นเชื่อในแบบฟอร์มยื่นขอเปิดซิมการ์ดมือถือ ส่งผลให้แรงงานไทยไม่ต่ำกว่า 200 คน หลังจากเดินทางเข้าสู่ไต้หวันได้ไม่นาน ก็ตกเป็นผู้ต้องหา ถูกตำรวจออกหมายเรียกไปสอบปากคำ ข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ หรือหลอกลวงต้มตุ๋นชาวไต้หวัน ทั้งๆ ที่พูดภาษาจีนไม่ได้สักคำ บางคนยังไม่ทันจะเดินทางเข้าไต้หวัน ก็ตกเป็นผู้ต้องหาเสียแล้ว จากบริษัทจัดหางานไทยที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามกล่าวว่า มีพนักงานบริษัทจัดหางานไทยบางบริษัท นำแบบฟอร์มยื่นขอเปิดซิม ของค่ายมือถือในไต้หวัน ซึ่งมีตัวแทนอยู่ในประเทศไทย ไปหลอกให้คนงานเซ็น โดยนำไปปะปนกับเอกสารการเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน จากนั้นก็ยื่นขอเปิดซิมต่อค่ายโทรศัพท์มือถือ แล้วนำซิมการ์ดเหล่านี้ไปขายต่อให้แก๊งมิจฉาชีพในไต้หวันนำไปก่อคดี ในราคา 3,000 – 5,000 เหรียญ ต่อ 1 เบอร์ เมื่อตำรวจดักจับสัญญาณมือถือของแก๊งมิจฉาชีพได้ พบเจ้าของเบอร์มือถือเป็นคนงานไทย จะออกหมายเรียกให้ไปสอบปากคำ ฐานเป็นผู้ต้องหาต้มตุ๋น คนงานไทยบางคนได้รับหลายใบ ต้องขอให้ล่ามพาไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจหลายท้องที่ ทำให้วิตกกังวล ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ แม้ว่าสุดที่ท้ายคนงานไทยที่ตกเป็นเหยื่อเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะไม่ถูกสั่งฟ้อง แต่กว่าคดีจะสิ้นสุด ก็ต้องเสียเวลาทำงาน และเสียสุขภาพจิตเป็นปี ขณะที่บางคนโชคร้าย ให้การกลับไปกลับมา ถูกพิพากษาจำคุก ต้องไปรับโทษในคดีที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น จากสถิติของสำนักงานแรงงานไทย ตั้งแต่ปี…

British Airways ถูกสั่งปรับเงินเป็นสถิติกว่า 7 พันล้านบาท จากกรณีข้อมูลลูกค้ารั่วไหลในปี 2018

Loading

สายการบินบริติช แอร์เวย์ส ในเครือบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส กรุ๊ป (IAG) ถูกสำนักงานคณะกรรมาธิการข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ลงโทษปรับเงินเป็นจำนวน 183.39 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,069,820,000 บาท) สืบเนื่องจากกรณีการรั่วไหลของข้อมูลทางการเงิน และลูกค้าของบริษัทเมื่อปีที่แล้ว บริษัท บริติช แอร์เวย์ส ระบุว่า รู้สึกประหลาดใจ และผิดหวังที่ ICO ลงโทษปรับเงินครั้งนี้ โดยเงินค่าปรับดังกล่าวถือว่ามีจำนวนสูงสุดเท่าที่ ICO เคยสั่งปรับมา หลังกฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) ของสหภาพยุโรปมีผลบังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว บริติช แอร์เวย์ส ถูกแฮกเกอร์ลักลอบเจาะระบบเว็บไซต์ ba.com และแอปพลิเคชันของสายการบิน ก่อนจะจารกรรมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า รวมถึงข้อมูลทางการเงินในช่วงวันที่ 21 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน ปี 2018 ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กก็เคยถูกปรับเป็นเงินจำนวน 500,000 ปอนด์ จากกรณีอื้อฉาวที่บริษัท เคมบริดจ์ อนาลิติกา นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในแคมเปญหาเสียงในสหรัฐฯ โดยค่าปรับดังกล่าวเป็นเพดานสูงสุดที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลฉบับเก่าอนุญาตให้ปรับได้ ก่อนที่จะมีการประกาศใช้กฎหมาย…