‘TikTok’ พัฒนาระบบดูแลผู้ใช้วัยรุ่น

Loading

Tik Tok TikTok   แอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอสั้น TikTok เพิ่มระบบดูแลผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่นจากภัยอันตรายบนสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งการรังแกและล้อเลียนบนโลกออนไลน์ รวมทั้งปัญหาการนอนหลับไม่เพียงพอ ตามรายงานของ AFP ทางแอปพลิเคชัน TikTok ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายจากผู้ใช้ที่เป็นคนอายุน้อย หันมาใส่ใจฐานผู้ใช้ในกลุ่มนี้มากขึ้น โดยระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องลงมืออย่างจริงจังในการสร้างความปลอดภัยให้กับวัยรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ภายใต้ระบบดูแลผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่นของ TikTok จะตัดระบบการส่งข้อความส่วนตัว สำหรับผู้ใช้อายุ 16-17 ปี ขณะที่จะมีข้อความแจ้งเตือนก่อนแชร์ ในการกำหนดการมองเห็นของผู้ใช้คนอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นวัยรุ่นอายุ 16 ปี จะสามารถเลือกได้ว่าจะแชร์คลิปให้ผู้ที่ติดตาม หรือเฉพาะเพื่อน หรือปิดการมองเห็นได้ นอกจากนี้ TikTok ยังปิดระบบบางอย่าง เช่น Stitch และ Duet ที่จะให้คนถ่ายคลิปประชันกัน ซึ่งผู้ใช้บางรายอาจทำเพื่อความสนุกสนานและให้เกียรติเจ้าของคลิปที่นำมาประชัน แต่ยบางรายอาจนำมาใช้เพื่อการรังแกผู้ใช้คนอื่นบนโลกออนไลน์แทน สำหรับผู้ใช้อายุ 13-15 ปี ทาง TikTok จะตัดระบบแจ้งเตือนหลังจาก 21.00 น. ส่วนผู้ใช้อายุ 16-17 ปี จะตัดระบบแจ้งเตือนหลังจาก 22.00 น.…

ยานพาหนะพลังไฮโดรเจน: ทางเลือกใหม่ของพลังงานสะอาดหรือความเพ้อฝันเกินจริง?

Loading

People look at Honda’s new fuel cell vehicle “Clarity” that is distributing its hydrogen fuel cell power to illuminate six trees along the street in Tokyo’s Marunouchi office and shopping district in Tokyo Friday, Dec. 25, 2015. (AP Photo/Koji Sasahara) เชื้อเพลิงจากพลังงานไฮโดรเจน คือส่วนหนึ่งในแผนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลดมลพิษจากการคมนาคมขนส่งลงครึ่งหนึ่งภายในปี ค.ศ. 2030 โดยมีการจัดสรรงบประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์ในร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานที่ผ่านการรับรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อนำไปใช้ในการวิจัยเพื่อลดต้นทุนในการผลิตเชื้อเพลิงจากพลังงานไฮโดรเจนและสร้างฐานการผลิตพลังงานทางเลือกประเภทนี้   อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคำถามว่าพลังงานน้ำหรือไฮโดรเจนนี้จะสามารถกลายเป็นพลังงานทางเลือกใหม่ได้จริง ๆ…

สังคมโลก : ตรวจด้วย 2 นิ้ว

Loading

  กองทัพบกอินโดนีเซียเพิ่งประกาศยกเลิก กฎระเบียบกำหนดให้เด็กสาวทุกคนที่สมัครสอบเข้าเรียน ในโรงเรียนหรือวิทยาลัยการทหารของกองทัพ ต้องเข้ารับการตรวจยืนยันความบริสุทธิ์ของเพศพรหมจรรย์ ซึ่งเป็นประเด็นอื้อฉาวและโต้เถียงกันมานาน ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของหลายกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้าน กลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศแห่งนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” ที่ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ มาตั้งแต่ปี 2557จนกระทั่งออกแถลงการณ์เรียกร้อง ให้รัฐบาลอินโดนีเซียสั่งยุติกฎระเบียบนี้ในปี 2560 กล่าวว่า การตรวจด้วย 2 นิ้ว (Two-fingertests) ซึ่งแพทย์ทหารจะสวมถุงมือยางและสอด 2 นิ้วเข้าไปในช่องคลอดของเด็กสาวผู้สมัคร เพื่อตรวจดูว่าเยื่อพรหมจารียังมีอยู่หรือไม่ ถือเป็นการกระทำทารุณ ด้อยค่าความเป็นมนุษย์ และละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง ก่อนหน้านี้กองทัพบกอินโดนีเซีย แถลงว่าการตรวจแบบนี้มีความสำคัญในการพิจารณา “ศีลธรรม” ความประพฤติดีงามของเด็กสาวผู้สมัคร เพื่อพิสูจน์ว่าเธอเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนหรือไม่ ที่น่าแปลก คือกฎระเบียบนี้ครอบคลุมถึงผู้ชายซึ่งสมัครเข้าเรียนหรือคัดเลือกเข้าเป็นทหารที่มีคู่หมั้น โดยกฎกำหนดให้ตรวจหญิงคู่หมั้นแม้เธอจะไม่ได้สมัครเป็นทหารด้วย แอนเดอร์สัน ฮาร์โซโน่ นักวิจัยของฮิวแมนไรท์ วอทช์ อินโดนีเซีย กล่าวว่า การตัดสินใจของกองทัพบกเป็น “สิ่งถูกต้องที่สมควรทำ”เนื่องจากผิดยุคสมัยไม่มีเหตุผลรองรับทางวิทยาศาสตร์ และยังเป็นการเลือกปฏิบัติ และลบหลู่ศักดิ์ศรีมความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง ส่วนแอนดี เยนตรียานี ประธานคณะกรรมาธิการต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีแห่งชาติอินโดนีเซีย กล่าวว่า การตรวจเยื่อพรหมจารีก่อนเป็นทหาร ไม่มีความจำเป็นแม้แต่นิด ปี 2561…

แผน 5 ปี คุมเข้มธุรกิจของจีนครอบคลุมอะไรบ้าง

Loading

จีนฉลองครบรอบ 100 ปี พรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2021   รัฐบาลจีนเปิดเผยแผนการ 5 ปี เพื่อควบคุมระบบเศรษฐกิจที่เข้มงวดมากขึ้น รัฐบาลจีนระบุว่า จะนำกฎเกณฑ์ใหม่มาใช้ในหลายภาคส่วน รวมถึงความมั่นคงแห่งชาติ เทคโนโลยี และกิจการผูกขาดในประเทศจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แผนการนี้ถูกนำมาบังคับใช้เร็วขึ้น หลังจากที่รัฐบาลปักกิจเริ่มพุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมการศึกษาและเทคโนโลยี สภาแห่งรัฐและคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเผยแพร่แผนการ 10 ข้อ ร่วมกันเมื่อคืนวันที่ 11 ส.ค. โดยมีการอ้างอิงถึงประธานเหมา ซึ่งสอดคล้องกับจีนกำลังเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์ แผนการนี้ ซึ่งจะสิ้นสุดในช่วงปลายปี 2025 ระบุว่า จะเพิ่มความเข้มงวดของกฎหมายต่าง ๆ ใน “ภาคส่วนที่มีความสำคัญ” อย่างวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยี วัฒนธรรมและการศึกษา แผนการยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจีนตั้งเป้าที่จะรับมือกับกิจการผูกขาดและ “กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติ” นอกจากนี้ก็จะมีการทบทวนกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัลของจีนรวมถึง “การเงินทางอินเทอร์เน็ต ปัญญาประดิษฐ์ ข้อมูลขนาดใหญ่ การประมวลผลบนระบบคลาวด์และอื่น ๆ” การประกาศนี้ทำให้เกิดความกังวลขึ้นอีกครั้งว่า การปราบปรามบริษัทด้านการศึกษาของเอกชนและบริษัทเทคโนโลยี จะดำเนินต่อไป และขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้านี้ หุ้นของบริษัทหลายแห่งของจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ตกลงอย่างมากในปีนี้…

เปิดโลกสร้างสรรค์กระทรวงดิจิทัลในต่างประเทศ ความต่างที่ไทยยังไปไม่ถึง

Loading

  รัฐบาลของทุกประเทศทั่วโลกล้วนมีกระทรวงดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการค้า การจ้างงาน การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เพื่อปูทางในการก่อกำเนิดอาชีพใหม่ๆ ซึ่งเป็นการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้รุดไปข้างหน้า และที่สำคัญเพื่อลดช่องว่างทางสังคม และเชื่อมโยงผู้คนให้เข้าถึงโอกาสได้อย่างเต็มที่ งานด้านดิจิทัล เป็นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง การจำกัดกรอบ หรือเพดานของความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นอุปสรรคสำคัญทำให้การพัฒนาด้านต่างๆ เกิดได้ช้า หรือไม่เกิดขึ้นเลยในบางประเทศ ประเทศที่ในอดีตเคยเป็นคอมมิวนิสต์อย่างประเทศโปแลนด์ แต่ปัจจุบันโปแลนด์ กลายเป็นประเทศที่สามารถส่งออกผลงานจากอุตสาหกรรมดิจิทัลได้อย่างแข็งแกร่ง กลายเป็นที่เชิดหน้าชูตาบนเวทีโลก ยกตัวอย่าง CD Projekt บริษัทเกมของโปแลนด์ที่หยิบผลงานวรรณกรรมของอันด์แชย์ ซาคอฟสกี (Andrzej Sapkowski) อย่าง The Witcher มาพัฒนาเป็นเกม ก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมที่ “คอเกม” ทั่วโลกไม่ควรพลาด และด้วยความโด่งดังของ The Witcher ก็ได้ถูกต่อยอดไปเป็นทีวีซีรีส์ในชื่อเดียวกันบนเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ที่โปแลนด์ไม่ได้มีแค่ CD Projekt แต่พวกเขายังมี VIVID GAMES ซึ่งเป็นหนึ่งในสตูดิโอผู้พัฒนาเกมบนมือถือที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก แต่ละเกมบนพอร์ตโฟลิโอของพวกเขามียอดดาวน์โหลดรวมกันมากกว่า 150 ล้านครั้ง สร้างรายรับให้กับบริษัท และยังโกยรายได้เข้าสู่ประเทศได้อีกเป็นกอบเป็นกำ คำถามจึงอยู่ที่ว่าแล้วทำไมอดีตประเทศคอมมิวนิสต์ ถึงได้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ถึงขนาดนี้   ภาพจากเกม…

สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ช่วยกันลดความขัดแย้ง

Loading

ปีที่ผ่านมานี้การแสดงความเห็นที่รุนแรงในสื่อสาธารณะมีมากขึ้นทำให้ความขัดแย้งในสังคมไทยขยายออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยมาก ผู้เขียน สายธาร หงสกุล กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล ประเทศไทยเคยผ่านวิกฤติมาหลายครั้ง การสร้างความปรองดองในชาติ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่าย ต้องใช้เวลา การสร้างความเข้าใจในกลุ่มต่างๆที่มีความคิดเห็นต่างหรือผลประโยชน์หลากหลาย ต้องยึดความยุติธรรมรวมทั้งอาศัยความอะลุ่มอล่วยไม่ให้ฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบเกินไป การสื่อสารเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการนั้นเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ การสื่อสารที่ผิดพลาดอาจสร้างความบาดหมางทำให้ความขัดแย้งขยายวงกว้างขึ้นไปอีก บทความนี้ขอนำข้อเสนอแนะที่จะส่งเสริมให้การสื่อสารดำเนินไปทางสร้างสรรค์ลดความขัดแย้งอันอาจนำไปสู่ความแตกแยกมากล่าวไว้ แม้ต้นตอของความขัดแย้งจะไม่หมดไปโดยสิ้นเชิง การสื่อสารที่ดีจะทำให้มีความเข้าใจผู้อื่นดียิ่งขึ้น การรู้จักมองต่างมุมจะนำไปสู่การรู้จักเคารพสิทธิ์ผู้อื่น ความเห็นใจและเมตตาต่อกันและกัน และเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ความจริงใจ การให้เกียรติ และความมีมารยาทในการสื่อสาร  จุดเริ่มต้นสำคัญของการสื่อสารคือการทำให้คู่สนทนารู้สึกถึงความจริงใจและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน สร้างบรรยากาศของการสนทนาที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนความคิด เริ่มจากหาจุดร่วมแล้วค่อยๆขยายไป แม้ถึงจุดที่ไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ยอมรับได้ว่าตกลงที่จะไม่เห็นด้วย การค่อยๆขยายพื้นที่ร่วมย่อมดีกว่าการขยายความขัดแย้ง เรียนรู้ที่จะรับฟังความเห็นต่างอย่างอารยะ เปิดใจให้กว้าง อย่าด่วนตัดสินผู้อื่น ตระหนักว่าการที่ผู้อื่นมีความเห็นไม่เหมือนเรานั้น  ไม่ได้แปลว่าผู้นั้นเป็นคนไม่ดีหรือไม่ฉลาด ประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกันนั้น จะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมเขาจึงมีความคิดหรือข้อสรุปที่ไม่เหมือนเรา การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองช่วยให้เรามองปัญหาหลายแง่มุม อาจนำไปสู่วิธีแก้ปัญหาแบบร่วมมือกันได้ การใช้โซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีอย่างมีสติและใช้ปัญญา การมีเทคโนโลยีใหม่หลายชนิดในการสื่อสารนั้นเป็นดาบสองคม ข้อดีของเทคโนโลยีช่วยให้การรับข้อมูลและการสื่อข่าวสารถึงคนจำนวนมากได้เร็วขึ้น กว้างขึ้น และสะดวก แต่ข้อเสียก็มีหลายประการ นอกเหนือจากประเด็นข่าวปลอมเฟคนิวส์แล้ว การใช้อัลกอริทึมของโซเชียลมีเดียที่เลือกสรรข่าวสารข้อมูลให้ผู้ใช้ มักทำให้เราได้รับข่าวสารจากฝ่ายที่มีความคิดเหมือนเรา เป็นการตอกย้ำความคิดแนวเดียวกัน อาจทำให้เรามีอคติหนักขึ้น ไม่สามารถประเมินความเป็นจริงได้อย่างถูกต้อง สร้างความเข้าใจที่ผิด และเกิดอาการเอียงหนักขึ้น ทางออกหนึ่งคือพยายามเข้าถึงสื่อที่หลากหลาย แม้จะมาจากฝั่งที่เราไม่เห็นด้วย การรับข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายนี้จะทำให้เราเกิดความเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง ได้ภาพรวมที่สมดุล และอาจช่วยลดอคติลง การแสดงความเห็นในโซเชียลมีเดียที่มีการตั้งค่าเป็นสาธารณะควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ทั้งผู้ตั้งกระทู้และผู้ออกความเห็น…