ฮาเบา ๆ ที่เซาท์แอฟริกา จนท.จีนวิ่งตาม ปธน.สีจิ้นผิง ที่งาน BRICS โดน รปภ. ล็อกตัวปึงปัง คลิปถูกแชร์เป็นไวรัลสนั่น X

Loading

    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก้าวเข้าสู่ห้องประชุมเพลนารี ฮอลล์ ของการประชุมซัมมิตกลุ่มบริกส์ (BRICS) และเจ้าหน้าที่จีนซึ่งเป็นผู้ติดตามก็วิ่งเหยาะ ๆ จะตามไปสมทบ แต่ถูก รปภ. ล็อกตัวด้วยความเข้าใจผิด เมื่อคลิปถูกแชร์ต่อ ๆ กันออกไปจนเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก ดรามาเล็ก ๆ นี้จึงกลายเป็นไฮไลต์ขำ ๆ ขโมยซีนงานบริกส์ซัมมิต ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีแห่งประเทศจีนก็ได้รับเสียงชื่นชมว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์ขลุกขลักได้อย่างสุขุม ขณะเดียวกันยังแสดงถึงความเป็นห่วงลูกน้องออกมาให้เห็นกันไม่ใช่น้อย ๆ เลย   กลายเป็นคลิปไวรัลสนั่นโชเชียลมีเดีย เมื่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนเข้าร่วมประชุมซัมมิตกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 15 ณ นครโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ (22-24 สิงหาคม 2023) แล้วในวันพุธที่ 23 สิงหาคม ขณะก้าวเท้าไปบนแนวพรมแดงของโถงทางเดิน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านเข้าประตู VVIP สู่ห้องเพลนารี ฮอลล์ เพื่อขึ้นเวทีประชุมใหญ่ 5 ชาติ เจ้าหน้าที่จีนพร้อมป้ายชื่อคล้องคอและกระเป๋าเอกสาร ซึ่งซีเอ็นเอ็นคาดว่าเป็นล่ามติดตามประธานาธิบดี รีบร้อนสาวเท้าพุ่งตัวแกมวิ่งเหยาะ…

วิทยุการบินฯ เตรียมวางระบบสำรอง “จราจรทางอากาศ” รับภัยคุกคาม และเที่ยวบินกว่า 1.5 ล้านเที่ยวบิน/ปี

Loading

  วิทยุการบินฯ เตรียมวางระบบบริหารจราจรทางอากาศสำรองรับเหตุวิกฤตและภัยคุกคาม และเพิ่มขีดสามารถกว่า 1.5 ล้านเที่ยวบิน/ปี พร้อมเดินหน้าสร้างหอควบคุมการบินอู่ตะเภางบ 1.2 พันล้านบาท คาดเปิดปลายปี 70 หารือ “จีน-ลาว” สร้างเส้นทางบินใหม่   นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า วิทยุการบินฯ เตรียมดำเนินการวางระบบการบริหารจัดการจราจรทางอากาศใหม่ ตั้งแต่ปี 2567-2572 ให้สอดรับกับภารกิจสำคัญในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ   1. การวางระบบบริหารจราจรทางอากาศสำรอง (Off-site Backup) ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของ ICAO และ กพท. ที่กำหนดให้หน่วยให้บริการจราจรทางอากาศของประเทศไทยต้องมีแผนรับภาวะฉุกเฉินด้านบริการจราจรทางอากาศ เพื่อให้บริการได้อย่างต่อเนื่องด้วยความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แม้ในเวลาที่มีภัยคุกคาม/ภาวะวิกฤต โดยอยู่ระหว่างการสำรวจสถานที่ ศึกษาเทคนิค ประมาณการงบประมาณ ทั้งนี้ มีแผนการดำเนินงานออกแบบในปีงบประมาณ 2567 และกำหนดเปิดใช้งานได้ในปี 2572 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะรองรับเที่ยวบินได้มากกว่า 1.5 ล้านเที่ยวบินต่อปี…

ตำรวจอเมริกันใช้เอไอช่วยวิเคราะห์ภาพจากกล้องติดตัว

Loading

  ตำรวจรัฐนิวยอร์กติดกล้องไว้บริเวณหน้าอกเพื่อเก็บภาพวิดีโอสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติหน้าที่   บรรดาผู้ให้การสนับสนุนการปฏิรูปการทำงานของตำรวจในอเมริกาพยายามชี้ให้เห็นมานานแล้วว่า กล้องที่ติดไว้ที่ตัวตำรวจหรือ Body Cam จะช่วยลดการใช้กำลังอันเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ และยังช่วยสร้างความไว้วางใจให้แก่ประชาชน แต่ภาพที่กล้องดังกล่าวบันทึกไว้นั้นมีความยาวหลายล้านชั่วโมง ซึ่งเป็นการยากที่บรรดาผู้บังคับบัญชาจะทำการตรวจสอบได้ แต่เทคโนโลยีระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ อาจช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้   การตรวจสอบภาพจากกล้อง Body Cam บนตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นจะเป็นหลักฐานประกอบในการดำเนินคดีอาญานี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายจากกล้องวีดีโอของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทั่วไปนั้น ไม่ค่อยได้รับการตรวจสอบมากนัก   แอนโธนี ทัสโซเน ซีอีโอของบริษัท ทรูลีโอ (Truleo) ผู้ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กล่าวว่า จากการที่ได้ดูวิดีโอและพูดคุยกับเพื่อน ๆ ตลอดจนเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้รักษากฎหมายแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ภาษาแบบนั้นหรืออยู่ในสถานการณ์แบบนั้น และว่า ซอฟต์แวร์ AI สำหรับกล้องติดตัวตำรวจ จะช่วยให้ผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบการทำงานของตำรวจใต้บังคับบัญชาได้ฉับไวขึ้น     ทัสโซเน กล่าวต่อไปว่า แนวคิดในการถอดข้อมูลและวิเคราะห์การทำงานจากคลิปวีดีโอเพื่อปรับปรุงการให้บริการแก่ลูกค้านั้นมีมานานแล้ว   นอกจากนี้ ระบบปัญญาประดิษฐ์ของ Truleo จะมีการให้คะแนนเมื่อตำรวจใช้คำพูดที่เป็นทางการ ใช้คำสุภาพหรือกล่าวคำขอบคุณ ในทางกลับกัน Truleo จะส่งสัญญาณเตือนทันทีเมื่อเจ้าหน้าที่ใช้คำพูดที่เป็นการดูหมิ่น คุกคาม หรือใช้คำพูดที่หยาบคาย…

UN เปิดสำนักงานใหญ่ประจำยุโรปอีกครั้ง หลังถูกคนบุกรุก

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อาคารปาแลเดนาซียง (Palais des Nations) สำนักงานใหญ่ประจำทวีปยุโรปขององค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งตั้งอยู่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้กลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ปิดกะทันหันไปเมื่อเช้าวันที่ 25 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากมีผู้บุกรุกสถานที่   แถลงการณ์ระบุว่า “ขณะนี้ เราได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว และเราได้เปิดจุดเข้าออกปาแลเดนาซียงทั้งหมดอีกครั้งแล้ว”   โฆษก UN กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องปิดอาคารเนื่องจากมีผู้บุกุรุกบริเวณเขตหวงห้ามเมื่อเช้าวันที่ 25 ส.ค.   ทั้งนี้ ปาแลเดนาซียงเป็นสถานที่ทำการของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC), นักการทูต, เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม และเจ้าหน้าที่ของรัฐ       ————————————————————————————————————————————- ที่มา :                     สำนักข่าวอินโฟเควสท์         …

กรุงโซลเตรียมติดตั้งกล้องเพิ่ม หลังเกิดคดีสะเทือนขวัญข่มขืนครูสาว

Loading

  นายกเทศมนตรีกรุงโซลประกาศจะติดตั้งกล้องวงจรปิดตามสวนสาธารณะและเส้นทางเดินขึ้นเขาเพิ่ม หลังเกิดเหตุคนร้ายทำร้ายร่างกายและกระทำชำเราครูสาวจนบาดเจ็บหนักและเสียชีวิตในพื้นที่ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด   นับเป็นคดีสะเทือนขวัญชาวกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ หลังจากที่ครูประถมรายหนึ่งถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายและกระทำชำบนเส้นทางเดินป่าที่เต็มไปด้วยผู้คนเมื่อสัปดาห์ก่อน จนกระทั่งเธอเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บสาหัสในเวลาต่อมา ส่งผลให้มีความเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้บริหารสภาเทศบาลออกมารับผิดชอบด้วยการลาออก หลังจากที่เขาเคยประกาศทางยูทูบเมื่อปีที่แล้วว่าเขาได้ตัดลดงบประมาณสำหรับสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้หญิงลง   ล่าสุดนาย โอ เซ ฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซลประกาศจะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มให้ทั่วสวนสาธารณะต่าง ๆ รวมทั้งเส้นทางเดินขึ้นเขา เพื่อไม่ให้มีจุดบอด และสามารถป้องกันเหตุร้ายได้อย่างทันท่วงที โดยยืนยันว่ากรุงโซลต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ผู้หญิงสามารถเดินไปไหนมาไหนเพียงลำพังได้ และหากยังเกิดเหตุอาชญากรรมแบบนี้ต่อไป เป้าหมายที่จะให้กรุงโซลเป็นเมืองปลอดภัยย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้น     มีข้อมูลจากตำรวจว่าคนร้ายคือ นายชอย ยุน จอง มีการเลือกเหยื่อด้วยการสุ่ม และซุ่มรอเหยื่ออยู่ตรงทางแยกเส้นทางเดินป่า หรือตามสวนสาธารณะในกรุงโซล โดยเลือกพื้นที่ที่ไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ ก่อนที่จะทำร้ายร่างกายเหยื่อและข่มขืน   ตำรวจยังระบุกับสำนักข่าวยอนฮับด้วยว่า การก่ออาชญากรรมครั้งนี้ เป็นการกระทำที่มีการวางแผนเอาไว้ก่อน โดยคนร้ายได้ทำร้ายร่างกายเหยื่อในที่สาธารณะ ก่อนจะข่มขืน จนทำให้เธอเสียชีวิต   มีรายงานว่าเหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้าย เป็นครูประถมอายุราว 30 ปี โดยเธอบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุได้ 2 วัน   ทั้งนี้ ประเทศเกาหลีใต้ นับว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยในระดับต้น ๆ…

สถานทูตแจ้งข่าวพลเมืองไทยร่วมซ้อมอพยพรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินในเกาหลีใต้

Loading

  สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซลออกประกาศเรื่อง “การซ้อมแผนอพยพสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน” ในประเทศเกาหลีใต้ ผ่านทางหน้าเพจเฟซบุ๊กเมื่อวันพุธ (23 ส.ค.)   โดยระบุว่า เกาหลีใต้มีการซ้อมแผนอพยพสำหรับกรณีฉุกเฉินเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) เวลา 14.00 น. (ระยะเวลาฝึกซ้อมประมาณ 20 นาที) โดยสัญญาณเตือนภัยแจ้งการโจมตีทางอากาศจะดังขึ้นทั่วประเทศ ทำให้การเดินทางหยุดชะงัก พลเมืองต้องอพยพไปยังแหล่งหลบภัย และชาวต่างชาติ รวมทั้งชาวไทยสามารถเข้าร่วมฝึกซ้อมได้เช่นกัน   ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซลระบุในเอกสารลงวันที่ 4 ส.ค.ว่า “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ขอเรียนว่า กระทรวงมหาดไทยและความปลอดภัย สาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศแจ้งแผนการซ้อมอพยพเพื่อเตรียมการป้องกันการโจมตีทางอากาศ ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นทั่วสาธารณรัฐเกาหลี (ยกเว้นนครเซจง จังหวัดชุงของใต้ จังหวัดช็อลลาเหนือ และจังหวัดคย็องชังเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ภัยพิบัติพิเศษ เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนัก) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เวลา 14.00 น. โดยจะจัดขึ้นเป็นเวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานงานขอรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมไปยังกระทรวงมหาดไทยฯ ของสาธารณรัฐเกาหลีด้วยแล้ว และได้รับทราบข้อมูล…