มีผู้บุกรุกทำเนียบขาว เจ้าหน้าที่พบ เป็น “เด็ก 2 ขวบ”

Loading

    เกิดเหตุผู้บุกรุกทำเนียบขาว เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับเร่งเข้าควบคุมตัว พบเป็น “เด็กชายวัย 2 ขวบ” ที่คลานลอดรั้วเข้ามา   เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) เกิดเหตุมีผู้บุกรุกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับเร่งเข้าควบคุมตัวผู้บุกรุกอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อไปถึง ก็พบว่า ผู้ที่บุกรุกเข้ามาเป็นเพียง “เด็กชายวัย 2 ขวบ” เท่านั้น และสั่งยกเลิกระบบแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยทันที   แอนโทนี กูกลิเอลมี หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของหน่วยสืบราชการลับ รายงานว่า ผู้บุกรุกตัวน้อยแทรกซึมเข้ามาในบริเวณทำเนียบขาวโดยการคลานผ่านช่องว่างของรั้วทางด้านทิศเหนือของทำเนียบขาว     “วันนี้หน่วยสืบราชการลับในเครื่องแบบพบอาคันตุกะอายุน้อยที่อยากรู้อยากเห็นบริเวณแนวรั้วด้านทิศเหนือของทำเนียบขาว โดยรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบขาวเพียงช่วงสั้น ๆ” กูกลิเอลมีกล่าว   เขาเสริมว่า หลังจากพบตัวเด็กน้อย ก็ได้ดำเนินการส่งคืนให้กับพ่อแม่ซึ่งอยู่ที่ถนนเพนซิลเวเนียติดกับทำเนียบขาวอย่างรวดเร็ว พ่อแม่ของเด็กชายถูกสอบปากคำสั้น ๆ ก่อนจะถูกปล่อยตัวไป   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุมีเด็กน้อยคลานผ่านรั้วของทำเนียบขาว เคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้ในปี 2014 เมื่อเด็กวัยหัดเดินเบียดตัวผ่านรั้วทำเนียบขาวก่อนที่ประธานาธิบดี บารัก โอบามา จะกล่าวปราศรัย การบุกรุกนั้นทำให้ต้องปิดทำเนียบขาวชั่วคราว และทำให้การปราศรัยล่าช้า   รั้วของทำเนียบขาวที่เด็กวัยหัดคลานผ่านเข้าไปได้นี้มีความสูงเกือบ 4…

ชาติแรก! ญี่ปุ่นประกาศอพยพพลเมือง หนีแดนมิคสัญญีซูดาน

Loading

    เมื่อวันที่ 19 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเตรียมอพยพพลเมืองของตนเองออกจากประเทศซูดาน ที่ยังคงเต็มไปด้วยการปะทะสู้รบระหว่างกองทัพซูดานกับกองกำลังกึ่งทหารอย่างรุนแรงต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 นับเป็นชาติแรกที่ประกาศแผนจะอพยพพลเมืองของตนออกจากประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแห่งนี้   นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า มีพลเมืองญี่ปุ่นราว 60 คนที่อยู่ในประเทศซูดานขณะนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของสถานทูตญี่ปุ่นด้วย และระบุว่า กระทรวงกลาโหมได้เริ่มเตรียมการที่จำเป็นสำหรับการอพยพแล้ว โดยสถานการณ์ความมั่นคงในขณะนี้กำลังเลวร้ายลง ซึ่งรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ในการรักษาความปลอดภัยให้กับชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในต่างประเทศ     ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ได้ร้องขอให้พลเมืองของตนเองที่พำนักอยู่ในประเทศซูดาน ติดต่อแจ้งชื่อและรายละเอียดต่าง ๆ ให้กับทางสถานทูตของตนเองเอาไว้   โดยสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูม ได้เริ่มรวบรวมรายละเอียดข้อมูลของพลเมืองชาวอเมริกัน พร้อมขอให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ภายในอาคารและอยู่ให้ห่างจากหน้าต่าง   “เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่ไม่แน่นอนในกรุงคาร์ทูมและการปิดสนามบิน ยังไม่มีแผนสำหรับการอพยพที่มีการประสานกับรัฐบาลสหรัฐ” สถานทูตสหรัฐประกาศผ่านทางทวิตเตอร์   ขณะที่นานาชาติเรียกร้องให้ยุติท่าทีเป็นปฏิปักษ์กันในซูดาน โดยที่ประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี 7) ได้เรียกร้องในวันอังคาร (18 เม.ย.) ให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายหยุดยิงในทันที   ขณะที่ในวันพุธ (19 เม.ย.) มีรายงานว่าประชาชนหลายพันคนพากันอพยพออกจากกรุงคาร์ทูม…

หวั่นความปลอดภัยผู้นำ ‘จี7’ หลังเหตุปาระเบิดควันใส่นายกฯ ญี่ปุ่น

Loading

    เหตุการณ์ที่มีผู้โยนระเบิดควันใส่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ระหว่างการเดินสายหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ ก่อให้เกิดคำถามถึงการรักษาความปลอดภัยต่อบรรดาผู้นำประเทศที่จะเข้าร่วมการประชุมกลุ่ม จี7 (Group of Seven) ที่ญี่ปุ่นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า   เมื่อวันเสาร์ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ถูกนำตัวออกจากพื้นที่ขณะกล่าวปราศรัย หลังผู้ต้องสงสัยโยนวัตถุคล้ายระเบิดควันใส่บริเวณสถานที่กล่าวปราศรัยที่จังหวัดวากายามะ ทางตะวันตกของประเทศ ตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างอิงจากสื่อญี่ปุ่น   สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคระบุว่า มีเสียงระเบิดดังเกิดขึ้น แต่ผู้นำญี่ปุ่นได้รับการคุ้มกันและไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ตำรวจเข้าควบคุมชายผู้ก่อเหตุ โดยเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นที่ท่าเรือประมงไซกาซากิ ในจังหวัดวากายามะ     คลิปวิดีโอจากเอ็นเอชเคเผยให้เห็นฝูงชนวิ่งหนีขณะตำรวจหลายนายเข้ากดตัวชายคนหนึ่งลงกับพื้น ก่อนนำตัวเขาออกไปจากพื้นที่ โดยสื่อรายงานว่า ชายคนดังกล่าวอาจมีอายุในช่วง 20-39 ปี และก่อนก่อเหตุเขาอยู่ห่างจากนายกฯ คิชิดะ เพียง 10 เมตรเท่านั้น   เหตุการณ์ดังกล่าวเปิดเผยให้เห็นถึงจุดอ่อนของระบบการรักษาความปลอดภัยของญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อดีตนายกฯ ชินโซ อาเบะ ซึ่งเป็นอดีตผู้นำญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งนานที่สุด ถูกลอบยิงสังหารด้วยปืนที่ทำขึ้นเองขณะหาเสียงเลือกตั้ง ถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญระดับชาติและทำให้มีการทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักการเมืองที่ต้องลงพื้นที่สาธารณะเป็นประจำ   ศาสตราจารย์มิตสึรุ ฟุกุดะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการวิกฤติก่อการร้าย แห่งมหาวิทยาลัยนิฮอน…

เอฟบีไอรวบ 2 คนจีน ตั้งข้อหาเปิด ‘สถานีตำรวจลับ’ ในไชน่าทาวน์

Loading

    อัยการสหรัฐจับกุมตัวชาย 2 คนในนิวยอร์ก ในข้อหาปฏิบัติการเปิดสถานีตำรวจลับของจีนที่ไชน่าทาวน์ในแมนฮัตตัน โดยคาดว่าจะมีการนำตัวบุคคลทั้งคู่ขึ้นศาลรัฐบาลกลางในบรู๊คลินในวันที่ 17 เมษายนนี้ ตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ทั้งคู่อาจเจอโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี   นายหลู่ เจี้ยนหวาง วัย 61 ปี และนายเฉิน จิ้นผิง วัย 59 ปี อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์ก ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดเป็นตัวแทนของจีน และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ก่อนหน้านี้จีนได้ออกมาปฏิเสธการดำเนินการตามที่สหรัฐเรียกขานว่าสถานีตำรวจลับ ว่าเป็นเพียงศูนย์บริการสำหรับคนจีนในต่างแดน   ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐตั้งข้อกล่าวหาว่า นายหลู่จากบรองซ์และนายเฉินจากแมนฮัตตันทำงานร่วมกันเพื่อก่อตั้งสถานีตำรวจในต่างประเทศแห่งแรกในสหรัฐ ในนามของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน   จุดบริการดังกล่าวถูกปิดไปในฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 หลังผู้เกี่ยวข้องทราบว่าสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) กำลังสอบสวนถึงการมีอยู่ของสถานีตำรวจลับดังกล่าว   นายบรอน เพียร์ซ อัยการสูงสุดในบรู๊คลิน กล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้เผยให้เห็นว่ารัฐบาลจีนละเมิดอำนาจอธิปไตยของสหรัฐอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยการจัดตั้งสถานีตำรวจลับกลางนครนิวยอร์ก   “การกระทำของจีนไปไกลเกินกว่าขอบเขตที่จะยอมรับได้ เราจะปกป้องเสรีภาพของทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศของเราอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่จากการคุกคามของการปราบปรามโดยเผด็จการ” นายแมทธิว โอสเลน ผู้ช่วยอัยการสูงสุดจากกองความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ กล่าว…

สุไหงโก-ลก ซักซ้อมแผนการใช้ระบบ CCTV รับมือการก่อวินาศกรรมในเมืองเศรษฐกิจ

Loading

    สุไหงโก-ลก ระดมบุคลากร 7 หน่วยหลัก ซักซ้อมแผนการใช้ระบบ CCTV รับมือการก่อวินาศกรรมในเมืองเศรษฐกิจ   วันนี้ (12 เม.ย. 66) ที่ห้องศูนย์ควบคุมสั่งการระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาค 4 เป็นประธานในพิธีซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ พร้อมวางมาตรการป้องกันการก่อวินาศกรรมเมืองเศรษฐกิจ ตามแผนยุทธการ 4661 ทางระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่ทันสมัย และใช้บุคลากรที่มีความชำนาญทางเทคโนโลยีเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงเดือนรอมฎอนเป็นต้นมา โดยมี พล.ต.วัชวิทย์ ณรงค์พันธุ์ รอง ผอ.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส น.อ.ธัชธรรม์ ณ สงขลา รอง ผอ.รมน.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ร่วมในพิธีพร้อมได้แสดงความคิดเห็น   สำหรับการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุในครั้งนี้ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้นำชุมชนและประธานท่าเรือข้ามฟาก ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรน จำนวน…

‘สถานทูต’เตือนคนไทยในซูดาน เลี่ยงออกนอกที่พัก-ให้กักตุนอาหาร

Loading

  17 เม.ย.66 สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมสาธารณรัฐซูดาน ประกาศเตือนคนไทยในซูดาน   ตามที่มีรายงานข่าวเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองทัพซูดานกับ กลุ่มกองกำลังติดอาวุธในกรุงคาร์ทูม ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2566 เป็นต้นมา นั้นโดยที่ยังมีเหตุการณ์ปะทะกันอย่างต่อเนื่องตามจุดต่าง ๆ ทั้งในกรุงคาร์ทูม และเมืองอื่น ๆ   สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ขอย้ำเตือนให้คนไทยและนักเรียนไทยควรระมัดระวังตัวอย่างสูง และหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกที่พักอาศัย หากไม่จำเป็น และแนะนำให้กักตุนอาหารและเครื่องดื่มให้เพียงพอ หากสถานการณ์มีความยืดเยื้อ   นอกจากนี้ ขอให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งสำนักข่าวต่าง ๆ ได้รายงานการปะทะ เช่น บริเวณทำเนียบประธานาธิบดี สถานีโทรทัศน์ ท่าอากาศยานกรุงคาร์ทูม   ศูนย์บัญชาการและฐานทัพของกองทัพซูดาน รวมถึงเมือง Omdurman เมือง Bahri เมือง Port Sudan เมือง Merowe และเมือง Kabkabiya เป็นต้น…