ตำรวจฟลอริดาจับ 3 วัยรุ่นพก ‘ปืนอาก้า’ ปีนกำแพงเข้ารีสอร์ตหรูของ ‘ทรัมป์’

Loading

รอยเตอร์ – ตำรวจฟลอริดาจับกุมวัยรุ่นชาย 3 คนซึ่งบุกรุกเข้าไปในรีสอร์ต มาร์-อา-ลาโก ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และพบว่ามีปืน AK-47 กระบอกหนึ่งใส่ไว้ในเป้สะพายหลัง ไมเคิล โอกร็อดนิก โฆษกตำรวจปาล์มบีช ระบุว่า เด็กหนุ่มวัย 15 ปี 3 คนได้กระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในรีสอร์ตของผู้นำสหรัฐฯ ระหว่างหลบหนีตำรวจเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 ก.ค.) ตำรวจคนดังกล่าวได้เข้าไปหาเด็กวัยรุ่น 3 คนซึ่งนั่งอยู่ในรถยนต์ห่างจากรีสอร์ตไปทางเหนือเพียงไม่กี่ไมล์ แต่เด็กกลุ่มนี้ขับรถหลบหนี และเมื่อเห็นว่ามีรถตำรวจขับตามมาอีกคันจึงตัดสินใจทิ้งรถเอาไว้ใกล้ๆ มาร์-อา-ลาโก ก่อนจะกระโดดข้ามกำแพงหนีเข้าไปในเขตรีสอร์ต “พวกเขาไม่ได้พยายามเข้าไปในตัวอาคาร แค่กระโดดข้ามกำแพงเพื่อหาที่หลบซ่อนตัวเท่านั้น” โอกร็อดนิก ระบุ ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ที่ มาร์-อา-ลาโก ระหว่างเกิดเหตุ วัยรุ่นทั้ง 3 คนซึ่งตำรวจไม่เปิดเผยชื่อถูกส่งตัวไปยังสถานพินิจระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องพวกเขาเสมือนเป็นผู้ใหญ่หรือไม่ เด็กทั้ง 3 คนอ้างว่าพวกเขาได้ปืน AK-47 กระบอกนี้มาโดยบังเอิญ แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของ รีสอร์ตหรูของ ทรัมป์ ที่ฟลอริดาเคยเผชิญการบุกรุกมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่เขาก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เมื่อเดือน ก.พ. ศาลสหรัฐฯ…

ไฟไหม้ จยย.ในทำเนียบ วอด 4 คันกลางดึก ผอ.สำนักโฆษกฯ ชี้เหตุจากไฟฟ้าช็อตรถ

Loading

ระทึก!! เพลิงไหม้ จยย.ในทำเนียบฯ กลางดึกวอด 4 คัน ไร้คนเจ็บ ตร.เร่งสอบสาเหตุ ผอ.สำนักโฆษกฯ ระบุเกิดจากไฟฟ้าช็อตรถ เร่งสอบไม่ให้เกิดซ้ำ วันนี้ (6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 00.50 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่ใกล้กับอาคารกองรักษาการตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาล ใกล้กับประตู 5 ฝั่งถนนราชดำเนิน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ได้เร่งเข้าระงับเหตุโดยใช้น้ำยาเคมีดับแสงเพลิงฉีดควบคุมเพลิงจนสงบ ซึ่งเบื้องต้นตำรวจ สน.ดุสิต เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบจักรยานยนต์เสียหาย ถูกเพลิงไหม้เสียหาย 4 คัน ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ทะเบียน ขนง 890 กรุงเทพมหานคร ยี่ห้อ คาวาซากิ สมาย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนสาเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ด้าน น.ส.นัทรียา…

พังยับ รถบรรทุกน้ำมันชนเครื่องบินแอร์บัสที่สนามบินใหญ่สุดในมอสโก

Loading

ฤกษ์ไม่ดี กลับมาบินได้วันแรก เกิดเหตุไม่คาดฝันที่สนามบินใหญ่สุดในมอสโก รถบรรทุกน้ำมันชนด้านหน้าเครื่องบินแอร์บัส สายการบินแอโรฟลอตโชคดีไร้เจ็บ เที่ยวบินระหว่างประเทศในรัสเซียเพิ่งกลับมาให้บริการวันแรกใน 4 เดือนหลังพักยาวจากวิกฤติโควิด-19 เมื่อวาน( 1 ส.ค.) ก็เจออุบัติเหตุตั้งแต่วันแรกที่สนามบิน Sheremetyevo ในกรุงมอสโก เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันชนประสานงาเครื่องบินแอร์บัส เอ 321 ของสายการบินแห่งชาติ แอโรฟลอต ขณะจอดอยู่ที่สนามบิน และกำลังตระเตรียมสำหรับเที่ยวบินไปยังเมืองโซชิ เมืองตากอากาศริมทะเลดำ ไม่มีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่บนเครื่องในเวลานั้น สนามบินนานาชาติ Sheremetyevo เป็น 1 ใน 4 สนามบินของกรุงมอสโก และมีขนาดใหญ่สุดในรัสเซีย เครื่องบินแอร์บัสและรถบรรทุกน้ำมันเสียหายด้วยกันทั้งคู่ ภาพและคลิปวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นรอยร้าวขนาดใหญ่ที่จมูกเครื่องบินราคากว่า 118 ล้านดอลลาร์ ส่วนรถบรรทุก กระจกหน้าแตกกระจาย ห้องคนขับยุบลงมาครึ่งหนึ่ง มีรายงานว่า คนขับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับต้องส่งรพ. อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่กระทบการปฏิบัติงานที่สนามบิน ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างสอบสวน —————————————————— ที่มา : คมชัดลึก / 2 สิงหาคม 2563 Link : https://www.komchadluek.net/news/foreign/438919?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_foreign

ประท้วงเดือดเมืองพอร์ตแลนด์ ม็อบบุกเผา สน. เทศมนตรีจี้ทหารออกจากเมือง

Loading

ความไม่สงบในเมืองพอร์ตแลนด์ของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดกลุ่มผู้ประท้วงก่อเหตุบุกเผาสำนักงานตำรวจ และปะทะกับเจ้าหน้าที่ จนมีผู้บาดเจ็บ สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สำนักงานตำรวจเมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐโอเรกอน ของสหรัฐฯ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 ก.ค. 2563 ตามเวลาท้องถิ่น ว่า ผู้ประท้วงบุกเข้าไปภายในสำนักงานสมาคมตำรวจทางเหนือของเมืองพอร์ตแลนด์แล้วจุดไฟเผา ขณะที่ผู้ประท้วงบางคนขว้างปาก้อนหินและลูกโป่งบรรจุสีใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ในขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงกลุ่มใหญ่ออกมารวมตัวกันใกล้สำนักงานศาลรัฐบาลกลางและศูนย์ยุติธรรม ในย่านใจกลางเมือง โดยบางคนถอนรั้วที่เจ้าหน้าที่นำมาวางกั้นรอบสำนักงานศาลออกไปด้วย ทั้งนี้ ชาวเมืองพอร์ตแลนด์ ออกมาชุมนุมต่อเนื่องอย่างน้อย 50 คืนแล้ว นับตั้งแต่การเสียชีวิตของ นายจอร์จ ฟลอยด์ โดยในเบื้องต้นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ และการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ซึ่งการประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ แม้จะมีการปะทะกันประปราย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การประท้วงส่วนใหญ่มีแรงผลักดันจากความไม่พอใจวิธีการรับมือการประท้วงของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง รวมทั้งการให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่พกตราประจำตัว ออกจับกุมผู้ประท้วง นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงมาตุภูมิ จับผู้ประท้วงแล้วพาตัวขึ้นรถที่ไม่มีตราตำรวจด้วย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความปกป้องการกระทำของเจ้าหน้าที่ในวันอาทิตย์ “เราพยายามช่วยพอร์ตแลนด์ ไม่ได้ทำร้าย” นายทรัมป์ ระบุ “ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้นำของพวกเขาควบคุมพวกนิยมอนาธิปไตยและพวกผู้ปลุกปั่นไม่ได้ พวกเขามีมาตรการไม่เพียงพอ เราต้องปกป้องทรัพย์สินของรัฐบาลกลาง และประชาชนของเรา…

คนร้ายติดปืนไรเฟิลบุกเข้าบ้านพักนายกฯแคนาดาในออตตาวาโดนข้อหา “ฆ่าหรือพยายามฆ่า” ทรูโด

Loading

เอเจนซีส์ – ทหารพลสำรองแคนาดาวัย 46 ปี คอรีย์ เฮอร์เรน( Corey Hurren) ถูกตั้งข้อหาฆ่าหรือพยายามฆ่านายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด หลังจากขับรถบรรทุกพุ่งเข้าชนประตูที่พักของทรูโดในกรุงออตตาวา และพบว่าในตัวมีอาวุธจำนวนมาก รวมปืนไรเฟิล M-14 ซึ่งถือเป็นอาวุธต้องห้าม หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(6 ก.ค)ว่า ตำรวจแคนาดาเปิดเผยว่า คนร้ายทหารพลสำรองกองทัพแคนาดาวัย 46 ปี คอรีย์ เฮอร์เรน( Corey Hurren)ที่พยายามบุกเข้าที่พักผู้นำแคนาดามาพร้อมกับปืนไรเฟิล M-14 ซึ่งถือเป็นอาวุธต้องห้าม รวมปืนลูกซอง 2 กระบอกและปืนลูกโม้ (revolver) อีก 1 กระบอก เขาถูกจับในวันพฤหัสบดี(2)ที่ผ่านมา โดยขณะที่เกิดเหตุทรูโดรพร้อมครอบครัวและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งแคนาดาไม่ได้อยู่ในเวลานั้น ซึ่งนอกจากข้อหาอาวุธ 21 กระทงแล้ว เฮอร์เรนยังถูกตั้งข้อหาเป็นภัยคุกคามถึงแก่ชีวิตหรือเป็นอันตรายแก่ร่างกายต่อนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ซึ่งพักอยู่ภายในริโด ฮอลล์ (Rideau Hall) ซึ่งเป็นบ้านพักทางการของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งแคนาดา จูลี พาแย็ต (Julie Payette) เกิดขึ้นหลังที่พักทางการของทรูโดร…

พบแล้ว! ทหารนั่งพาดเท้าบนเก้าอี้บัลลังก์ ปธ.รัฐสภา เพราะเพื่อนพาเข้า

Loading

เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สั่งสอบนายทหารนั่งเก้าอี้บนบัลลังก์ประธานรัฐสภาที่ห้องประชุมพระสุริยัน โดยมีการยกเท้าและมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม วันนี้ (14 พ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีภาพนายทหารยศร้อยเอก นายหนึ่งที่โพสต์ลงในอินสตาแกรม และเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะนั่งเก้าอี้บนบัลลังก์ประธานรัฐสภา ที่ห้องประชุมพระสุริยัน อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยมีการยกเท้า และมีท่าทางที่ไม่เหมาะสมนั้น ล่าสุด นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วว่า นายทหารดังกล่าวเข้ามาในอาคารรัฐสภาได้อย่างไร เป็นผู้ติดตามของใครหรือไม่ โดยมองว่า การถ่ายภาพดังกล่าวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะรัฐสภาถือเป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และบัลลังก์ประธานรัฐสภาเป็นที่นั่งสำหรับทำหน้าที่ของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นที่เคารพของสมาชิกในที่ประชุม ไม่ควรที่บุคคลอื่นซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องจะขึ้นไปได้ ทั้งนี้ พบว่านายทหารคนดังกล่าว แอบเข้ามาในห้องประชุมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีเพื่อนข้าราชการรัฐสภาพาเข้ามา ซึ่งขณะนี้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งให้ข้าราชการรัฐสภาคนดังกล่าว เขียนรายงานชี้แจงแล้ว เพื่อเรียนให้ประธานรัฐสภารับทราบ และอาจจะต้องรายงานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของนายทหารคนดังกล่าวให้ดำเนินการต่อไป เพราะสภาไม่มีอำนาจที่จะไปเอาผิดข้าราชการต่างหน่วยงานได้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังชี้แจงด้วยว่า บัลลังก์ดังกล่าวเมื่อมีการซักซ้อมการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อน นายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภายังไม่กล้านั่ง ทั้งที่สื่อมวลชนขอให้นั่งเพื่อเก็บภาพ แต่เนื่องจากยังไม่มีพระบรมราชโองการเปิดสมัยประชุมรัฐสภา จึงไม่มีอำนาจที่จะไปนั่งทำหน้าที่ได้ เพราะรัฐสภาถือเป็นองค์อำนาจใน 3 อำนาจอธิปไตย เช่นเดียวกับ ศาล และคณะรัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รายงานให้นายชวน…