กองทัพญี่ปุ่นเล็งใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของ “อีลอน มัสก์” ไม่กี่วันหลังโดนโยงเข้ากับเรือดำน้ำชมไททานิก

Loading

    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – กองทัพญี่ปุ่นมีเป้าหมายเตรียมใช้เทคโนโลยีดาวเทียมของอีลอน มัสก์ ในงบประมาณปีหน้า ระหว่างที่ปัจจุบันกำลังทดสอบการใช้งาน เกิดขึ้นท่ามกลางมัสก์โดนเผือกร้อนโดนโยงชื่อเกี่ยวกับเรือดำน้ำชมเรือไททานิกที่หายไป จนเจ้าตัวต้องออกมาตอบไม่กี่วันก่อนหน้า   รอยเตอร์รายงานวันนี้ (25 มิ.ย.) ว่า กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นนั้นปัจจุบันสามารถเข้าถึงดาวเทียมสื่อสารระดับวงโคจรค้างฟ้า (geostationary orbit) ได้ แต่ทว่าการที่จะเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมบริษัทสตาร์ลิงค์ของมหาเศรษฐีอเมริกัน อีลอน มัสก์ จะช่วยทำให้ญี่ปุ่นเพิ่มความสามารถการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตระดับดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ   แหล่งข่าวใกล้ชิดในรัฐบาลโตเกียวเปิดเผยว่า กองทัพญี่ปุ่นในปัจจุบันกำลังทำการทดสอบระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของมัสก์ ซึ่งโตเกียวมีเป้าหมายจะเริ่มใช้เทคโนโลยีสตาร์ลิงค์ที่ว่านี้ในงบประมาณปีหน้า   ทั้งนี้ พบว่ากองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นนั้นเริ่มการทดสอบระบบอินเทอร์เน็ตดาวเทียมมาตั้งแต่เดือนมีนาคมสำหรับระบบที่ถูกใช้ใน 10 จุด และในการฝึกซ้อม หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นกล่าว   ซึ่งในเวลานี้ในหลายประเทศทั่วโลกต่างกำลังสร้างความยืดหยุ่นเพื่อป้องกันความเสี่ยงระบบการสื่อสารถูกรบกวนสัญญาณ หรือมีการโจมตีในกรณีดาวเทียมโดนทำลายหากเกิดความขัดแย้ง ซึ่งเมื่อต้นเดือนนี้เพนตากอนลงนามเซ็นสัญญายอมจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตดาวเทียมให้ยูเครน หลังเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว มัสก์ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทของเขาไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับยูเครนตก 20 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนต่อไปไหว   ซึ่งนอกเหนือจากยูเครนแล้ว มัสก์ยังแจกซับสคริปชันอินเทอร์เน็ตดาวเทียมฟรีให้ทั้งการประท้วงอิหร่าน และมีรายงานกลุ่มต่อสู้ชนกลุ่มน้อยแนวพรมแดนพม่าติดไทยเพื่อสู้รบกับรัฐบาลทหารพม่าอีกด้วย   เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากชื่อบริษัทสตาร์ลิงค์ตกเป็นข่าวโยงประเด็นเรือดำน้ำ Titan Submersible ของบริษัทโอเชียนเกตสูญหายและล่าสุดมีรายงานว่า คาดว่าผู้โดยสารทั้ง 5 รายเสียชีวิตทั้งหมดหลังเกิดระเบิด…

ผู้นำญี่ปุ่นลั่นเสริมแกร่งกองกำลังป้องกันตนเอง

Loading

  โตเกียว (รอยเตอร์ส/เอ็นเอชเค) – นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นย้ำจะพิจารณาทางเลือกทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงการมีอาวุธที่มีความสามารถในการโจมตีฐานทัพของศัตรู และสัญญาว่าจะเสริมสร้างกองกำลังป้องกันตนเองให้แข็งแกร่งกว่าเดิมเพื่อปกป้องประเทศและรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากจีนและเกาหลีเหนือ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ตรวจแถวสวนสนามของทหารกองทัพญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกของเขาเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ระหว่างทำหน้าที่ผู้บัญชาการสูงสุดเป็นครั้งแรกในการสวนสนาม ซึ่งเป็นพิธีที่จัดขึ้นที่ฐานทัพอาซากะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว โดยมีทหารเข้าร่วมราว 800 นาย เขากล่าวปราศรัยกับสมาชิกกองกำลังป้องกันตนเองหลายร้อยคนที่สวมเครื่องแบบสีเขียวมะกอกและหมวก โดยเขาระบุว่า เขาจะพิจารณาทางเลือกทุกทาง ซึ่งรวมถึงการให้ได้มาซึ่งอาวุธที่มีแสนยานุภาพในการโจมตีฐานทัพของศัตรู เขาจะเดินหน้าเสริมสร้างกำลังทหารที่มีความจำเป็น นายคิชิดะ กล่าวว่า สถานการณ์ด้านความมั่นคงรอบๆ ประเทศญี่ปุ่นมีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากและสภาพความเป็นจริงมีความรุนแรงมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยเกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบปล่อยขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องและเพิ่มสมรรถนะมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่จีนก็เสริมสร้างกำลังกองทัพและเพิ่มกิจกรรมทางทหารในภูมิภาคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นลงมติเห็นชอบอนุมัติงบกลาโหมพิเศษเพื่อเร่งจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาอีกขั้นตอน ส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหมของญี่ปุ่น ในปีงบประมาณปัจจุบัน สูงขึ้นเป็นสถิติใหม่กว่า 6.1 ล้านล้านเยน (1,762,850 ล้านบาท) สูงขึ้น 15% จาก 5.31 ล้านล้านเยน ในปี 2020 แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ระบุว่า งบประมาณเพื่อเสริมขีดขั้นสมรรถนะทางทหาร และเร่งการจัดซื้ออาวุธ ถูกออกแบบเพื่อเร่งการประจำการ อุปกรณ์สำคัญบางส่วน…