อินโดนีเซียสอบจดหมายขู่โจมตีเกาะบาหลี

Loading

ตร.อินโดนีเซียสอบสวนหลังได้รับจดหมายข่มขู่จะโจมตีเป้าหมายบนเกาะบาหลี หลังเพิ่งเกิดเหตุโจมตีกรุงจาการ์ต้า      วันนี้ (19ม.ค.59) นายซูเก็ง ปริยานโต้หัวหน้าตำรวจบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซียระบุ ว่า กำลังทำการสอบสวนกรณีมีผู้ส่งจดหมายข่มขู่ไปยังที่ทำการรัฐบาลเขตบูเลเล็งบนเกาะบาหลีว่า จะทำการโจมตีเป้าหมายบนเกาะบาหลี  ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ส่งจดหมายฉบับนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่บนเกาะบาหลีอย่ามีความหวาดกลัว และให้เตรียมพร้อมระวังตัวเอาไว้      นายปริยานโต้บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแล้ว ตามจุดต่างๆที่จะเดินทางเข้าเกาะบาหลี —————————– ที่มา : TNN Thailand / 19 ม.ค. 59, 14.05 น. Link : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=89098&t=news

เชื้อร้ายตายยาก

Loading

หลังการล่มสลายของรัฐบาลตาลีบัน บรรดานักรบหัวรุนแรงได้แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วทุกมุมโลก พร้อมพกพาเอาวิชาความรู้และคติความเชื่อแบบสุดโต่งติดตัวไปด้วย จากการแผ่ขยายภัยคุกคามไปในหลายพื้นที่และหลากรูปแบบ กลุ่มก่อการร้ายไอเอสในอิรักและซีเรียได้กลายเป็นศัตรูกับคนค่อนโลก มหาอำนาจจากทุกขั้วต่างสามัคคีเฉพาะกิจเดินหน้าประกาศสงครามต่อต้านก่อการร้ายโดยมีไอเอสเป็นเป้าหมายหลัก แต่การใช้ปฏิบัติการทางทหารระดมโจมตีอย่างหนักหน่วงในอิรักและซีเรียซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ โดยหวังว่าจะสามารถทำลายฐานที่มั่นและกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้เบ็ดเสร็จ อาจต้องทบทวนกันใหม่ ผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าจับตาสถานการณ์มาตลอดประเมินว่า แม้วันหนึ่งกองกำลังรัฐบาลและพันธมิตรประเทศต่าง ๆ จะสามารถถล่มไอเอสได้ราบคาบและทวงคืนพื้นที่ยึดครองกลับมาได้ ก็ใช่ว่าเชื้อร้ายจะถูกทำลายหายสิ้นไป หน่วยข่าวกรองสหรัฐประเมินตัวเลขนักรบต่างชาติที่เข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในสมรภูมิ ตกอยู่ที่ประมาณ 30,000 คน จากราว 100 ประเทศทั่วโลก ยังไม่นับรวมก่อการร้ายรุ่นเก๋าอีกจำนวนมากที่เคลื่อนไหวมานานหลายทศวรรษ เพียงแค่ในอัฟกานิสถานแห่งเดียว ช่วงระหว่างปี 2539-2544 ก็มีมากถึงราว 10,000-20,000 คน ที่ได้รับการฝึกฝนในฐานะนักรบก่อการร้าย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากนายโอซามา บิน ลาเดน หลังการล่มสลายของรัฐบาลตาลีบัน บรรดานักรบหัวรุนแรงได้แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วทุกมุมโลก พร้อมพกพาเอาวิชาความรู้และคติความเชื่อแบบสุดโต่งติดตัวไปด้วย ผู้ก่อการร้ายรุ่นใหญ่ผู้เจนสนามเหล่านี้ คือภัยคุกคามหลักในระยะยาวซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นโดยชาติตะวันตกยังล้าหลังเกินกว่าจะรับมือไหว ไม้ตายของไอเอสที่ถูกบ่มเพาะมานานปี คืออาวุธร้ายแรงที่สุดที่เรียกว่า “ความเชื่อ” ซึ่งแม้จะจับต้องไม่ได้แต่ก็มีอานุภาพทะลุทะลวงไปได้ทุกที่ แทรกซึมเข้าฝังรากลึกใต้จิตสำนึกของกลุ่มเป้าหมาย เหล่าสาวกที่พร้อมอุทิศตนเพื่อสงครามไม่ต่างอะไรกับหุ่นยนต์รบที่ถูกตั้งโปรแกรม เป็นระเบิดเวลาที่พร้อมทำลายล้างทุกเมื่อ การทำให้แตกกลุ่มก็เหมือนเชื้อไวรัสที่แพร่ออกไปซุ่มรอเวลาแผลงฤทธิ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงเกินจะคาดเดาตามมา ไม่มีสงครามใดที่สมบูรณ์แบบ พวกที่เหลือรอดมาได้ย่อมไม่ธรรมดา ต้องเป็นชั้นหัวกะทิที่มีวิทยายุทธ์แก่กล้าพอตัว นายแมทธิว กีเดเร ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยตูลูซ ประเทศฝรั่งเศส…

บูร์กินาฟาโซเริ่มไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วันแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้าย

Loading

     สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีรอช มาร์ก คริสเตียน คาโบเรของ บูร์กินา ฟาร์โซ แถลงออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ บูร์กินา 24 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีคำสั่งประกาศให้มีการไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้      เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุกลุ่มก่อการร้ายจับตัวประกันภายในโรงแรมสเปลนดิค ในกรุงวากาดูกู นานกว่า 12 ชั่วโมง ก่อนเกิดเหตุปะทะกับกองกำลังของบูร์กินาและของฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คนภายในโรงแรมและอีก 10 คนที่ร้านคาเฟ่ชื่อดัง คัปปูชิโน ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 33 คน ว่า การกระทำที่โหดเหี้ยมรุนแรงที่ลงมือสังหารผู้บริสุทธิ์ ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายสากล อัล-กออิดะในอิสลามมาราเกซหรือเอคิวไอเอ็ม ออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยมีเจตนาต้องการสร้างความคลอนแคลนต่อประเทศของเราและบ่อนทำลายความพยายามที่จะสร้างประชาธิปไตย ความสงบและความมั่งคั่งให้กับประเทศ      นอกจากนี้ ประธานาธิบดีบูร์กีนาฟาโซแถลงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่กรุงวากาดูกู และแนวชายแดนโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยจะยกระดับการป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งขอให้ประชาชนรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับใหม่ และกองกำลังรักษาความมั่นคงก็ต้องเพิ่มความพยายามสำหรับการต่อสู้ป้องกันเหตุโจมตีในครั้งต่อไป ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ วันที่ 19 ม.ค.…

บูร์กินาฟาโซร่วมมือการทหารกับมาลีหลังโดนก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM บุกยึดโรงแรม

Loading

     รอยเตอร์ – บูร์กินาฟาโซทำข้อตกลงร่วมมือทางการทหารกับมาลีในการต่อต้านการก่อการร้ายด้วยการแชร์ข่าวกรองและร่วมกันลาดตระเวน เกิดขึ้น 2 วันหลังจากกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM ในแอฟริกาตะวันตกลงมือโจมตีโรงแรมสเปลนดิดกลางกรุงวากาดูกู ทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 29 ราย      รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (17 ม.ค) ว่า นายกรัฐมนตรีของทั้งบูร์กินาฟาโซและมาลีได้ร่วมพบปะในวันอาทิตย์ (17) 2 วันหลังจากบูร์กินาฟาโซถูกก่อการร้ายอัลกออิดะห์บุกโจมตีโรงแรมสเปลนดิดระดับ 4 ดาวกลางกรุงวากาดูกู และหลังจากสิ้นสุดลง ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า พบมีผู้เสียชีวิตล่าสุดถึง 29 รายที่มีชาวต่างชาติถึง 18 ชาติ และสามารถช่วยเหลือเหยื่อตัวประกันออกมาได้สำเร็จ 156 คน      และหลังจากนั้นกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ AQIM ที่มีฐานอยู่ในมัฆริบ แอฟริกาตะวันตกได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีโรงแรงสเปลนดิดแห่งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ทางกลุ่มได้โจมตีโรงแรมโรงแรมเรดิสันบลู ในกรุงบามาโก เมืองหลวงของมาลีที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ 20 พฤศจิกายน 2015 ที่ได้สังหารคนไปถึง 20 ชีวิต รวมไปถึงพลเมืองรัสเซีย จีน และสหรัฐฯ    …

บูร์กินาฟาโซ ระห่ำรัวยิงนักท่องเที่ยว ไทยผวาสั่งด่วนป้องกัน

Loading

เมืองหลวงบูร์กินาฟาโซ ระห่ำรัวยิงนักท่องเที่ยว ไทยผวาสั่งด่วนป้องกัน      ยิ่งกว่าในหนัง หน่วยรบพิเศษบูร์กินาฟาโซ ปะทะเดือดกลุ่มก่อการร้ายเอคิวไอเอ็ม ขณะบุกช่วยเหลือตัวประกัน หลังคนร้ายอาวุธครบมือไม่น้อยกว่า 6 ราย ก่อเหตุกราดยิงใส่โรงแรมและร้านกาแฟกลางเมืองหลวง กรุงวากาดูกู ก่อนจบลงที่มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอยู่ที่ 23 ศพ บาดเจ็บอย่างน้อย 33 คน ขณะที่อินโดนีเซียไล่ล่าจับกุมแนวร่วมก่อเหตุร้ายได้อีก 12 คน สั่งปิด 11 เว็บไซต์เผยแพร่ข้อความยั่วยุให้ก่อความรุนแรง ส่วนมาเลเซียจับ 4 ผู้ต้องสงสัยเอี่ยวไอเอส ด้าน “จักรทิพย์” กำชับทุกหน่วย เตรียมพร้อมรับมือป้องกันเหตุร้าย ตรวจตราเข้มงวด รวมถึงให้ ตม.ตรวจเข้ม-เฝ้าระวังบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ      กลุ่มก่อการร้ายยังคงออกอาละวาดทั่วโลกอย่างไม่หยุดหย่อน โดยเมื่อวันที่ 16 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกิดเหตุสะเทือนขวัญที่กรุงวากาดูกู เมืองหลวงบูร์กินาฟาโซ อดีตอาณานิคมฝรั่งเศส ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก หลังกลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธสงครามครบมือ บุกกราดยิงและจับตัวประกัน ภายในโรงแรมสเปลนดิด ส่งผลให้เกิดการปะทะอย่างดุเดือดกับหน่วยรบพิเศษที่เข้ามาคลี่คลายสถานการณ์เป็นเวลานานกว่าครึ่งวัน      ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของหน่วยงานด้านความมั่นคงบูร์กินาฟาโซ เหตุเกิดเมื่อเวลา…

บทวิเคราะห์ “ไม่แคล้ว ‘ไอซิส’!! กลุ่มต้องสงสัยหมายเลขหนึ่ง ตัวการบึมสยองจาการ์ตา”

Loading

     และแล้ว กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ในภูมิภาคอาเซียนของเรา ก็ต้องเผชิญหน้ากับเหตุก่อการร้ายรุนแรงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ม.ค.59 โดยกลุ่มคนร้ายได้เลือกสถานที่ลงมือก่อเหตุ เป็นบริเวณใกล้กับสำนักงานของสหประชาชาติ(ยูเอ็น), ทำเนียบประธานาธิบดี และ ซารีนาห์ มอลล์ ช็อปปิ้งมอลล์ใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนร้ายตาย 5 ราย ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 24 คน      หลังเกิดเหตุระเบิดสะเทือนขวัญ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียยังต้องปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายและเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนานกว่าชั่วโมง จนสร้างความระทึกและบีบหัวใจมากยิ่งขึ้นไปอีก      ท่ามกลางเสียงปืน และสิ้นเสียงระเบิดที่ดังกึกก้องเขย่ากรุงจาการ์ตา กลับยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่สำหรับความเห็นของนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของสำนักข่าวต่างประเทศหลายคน ชี้ว่า รูปแบบการก่อรุนแรงที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียครั้งนี้ แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นเหตุก่อการร้ายในอินโดนีเซียครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดที่โรงแรม เจ ดับบลิว แมร์ริออต​ และโรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน ในกรุงจาการ์ตา เมื่อ ก.ค.2552 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และบาดเจ็บ 53 คน * รูปแบบโจมตีเหมือนปารีส…